กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงปมน้ำมันหาย
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 27 สิงหาคม 2568 เวลา 19.24 น. • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทรัฐสภา 27 ส.ค.- กมธ.ทหาร เรียกกองทัพบกแจงกรณีน้ำมันหายที่สระบุรี-นนทบุรี ด้าน “เชตวัน” งง น้ำมันหาย แต่ซื้อคืน ไม่เท่ากับทุจริต มองคืบหน้าล่าช้า อาจรอปรับเลื่อนตำแหน่ง
นายเชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี พรรคประชาชน ในฐานะคณะกรรมาธิการการทหารสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง กรณีน้ำมันดีเซลที่หายไป จากมณฑลทหารบกที่ 18 จังหวัดสระบุรี ซึ่งจากการติดตามความคืบหน้าที่หายไป 215,000 ลิตร เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2565 ได้มีการรายงานให้ผู้บัญชาการทหารบกทราบในอีกหนึ่งปีต่อมา ซึ่งกองทัพบกได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเรื่องนี้ ซึ่งน้ำมันหายออกไปหนึ่งปีเต็ม แต่จากการตรวจสอบตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566 จนถึง 12 ตุลาคม 2566 ก็ไม่มีคำตอบ จากนั้นจึงได้ทำหนังสือไปกระทรวงกลาโหม ก็ยังไม่มีคำตอบ วันที่ 14 พฤศจิกายน 2566 ก็ได้ส่งหนังสือไปยังกองทัพบกและกระทรวงกลาโหม ให้ชี้แจงกลับมา ก็ได้แจ้งว่ายังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จ และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงได้ขอขยายเวลาไปจนถึง 29 พฤศจิกายน 2566 แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีหนังสือ ชี้แจงใดๆออกมา จากนั้น 22 มกราคม 2567 กรรมาธิการก็ได้ส่งหนังสือให้มีการชี้แจง แต่ก็ยังไม่ได้รับความร่วมมืออีกเช่นเดิม วันที่ 27 มีนาคม 2567 จึงได้ยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ,สำนักงาน คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เรื่องการขาดความร่วมมือของกองทัพ ต่อการดำเนินงานและอำนาจหน้าที่ของกรรมาธิการ เพื่อให้ หน่วยงานดังกล่าวแสวงหาข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ดังนั้นเมื่อมีกรณีที่สองเกิดขึ้นจึงขอทวงถามคำชี้แจงในกรณีแรกด้วย โดยในกรณีที่สองน้ำมันได้หายไปจาก กรมพลาธิการทหารบก จังหวัดนนทบุรี จำนวน 10,000 ลิตร ซึ่งได้รับทราบผลการสืบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 14 มกราคม แต่จากวันที่ 14 กรกฎาคม จนถึงวันนี้เป็นเวลาหนึ่งเดือนครึ่ง กองทัพบกก็ไม่ได้มีการออกมาแถลงข่าวว่าน้ำมันหาย เพราะที่ผ่านมากองทัพมักจะสอบกันเองแล้วเรื่องก็เงียบ เมื่อเป็นข่าวเกิดขึ้นก็บอกแค่ว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยได้รับทราบคำตอบเรื่องเหล่านี้เลย เหตุการณ์น้ำมันหายครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2566 ตอนนั้น ผอ. กองเชื้อเพลิงคนใหม่กำลังจะเข้ารับตำแหน่ง แต่พบว่ามีน้ำมันหายไป 10,000 ลิตร จึงไม่กล้าเซ็นรับ ตอนนั้นไม่มีรายงานไม่มีการสอบสวน จึงไม่ทราบว่าเป็นการคุยกันเองหรือไม่
“ยื้อจนมีการสั่งซื้อน้ำมันรายใหญ่เอกชนเจ้าหนึ่ง ในวันที่ 9 พฤศจิกายนจำนวน 9,000 ลิตร และให้นำมาส่งในวันที่ 10 พฤศจิกายนซึ่งเป็นเวลาวันเดียวหลังจากที่สั่งซื้อ แต่คนที่สั่งซื้อไม่ได้มีอำนาจในการสั่งซื้อน้ำมัน ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าเป็นการสั่งซื้อน้ำมันมาชดเชยน้ำมันที่หายไปหรือไม่ เพราะปริมาณใกล้เคียงกัน” นายเชตวัน กล่าว
นายเชตวัน กล่าวว่าเวลาผ่านไปเป็นปี กำลังพลในหน่วย เห็นว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมจึงไปร้องเรียน ทำให้กองทัพสั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ก็ล่าช้าเหมือนเดิมจนมีข่าวออกมา จึงรู้ว่าน้ำมันหายไป และทำให้นายภูมิธรรม เวชยชัยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมในขณะนั้น ถึงขั้นร้องออกมาว่า “โอ้โห น้ำ มันระเหยออกมาขนาดนั้นเลยหรือ”
นายเชตวัน กล่าวว่า ล่าสุดได้ผลสอบออกมาแล้ว แต่พบข้อสงสัยในเอกสาร พบว่ามียอดขาดไป แล้วคาดดำ และได้ดำเนินการสั่งซื้อน้ำมันโดยส่วนตัวมาลงที่สถานีจ่ายของกรมเชื้อเพลิง พลาธิการ ทบ. รวม 9,000 ลิตร ซึ่งเป็นการยอมรับว่า มีน้ำมันหายไปจริง โดยซื้อน้ำมันกลับมาด้วยเงินส่วนตัว
และในเอกสารยังระบุด้วยว่ามีความเชื่อว่าน้ำมันสูญหายจริง และได้รับความเสียหาย แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าหายจริงและเกิดความเสียหายแก่ข้าราชการ สุดท้ายการกระทำจึงถือว่าไม่เป็นการทุจริตต่อราชการ จึงเกิดคำถามว่าทำไมไม่เป็นการทุจริต เพราะมีการสั่งซื้อเมื่อคืนแล้วใช่หรือไม่
“เมื่อน้ำมันมันสูญหายไปแล้วและไม่รู้ว่าสูญหายไปไหน หายไปอย่างไรใครไปเอาไปทำตอนไหน แต่พอวันหนึ่งมีคนรู้ว่าหายเกิดขึ้น แล้วเอากลับมาชดใช้คืน อย่างนี้เป็นการไม่ทุจริตหรือ นี่มันมาตรฐานเดียวกับนาฬิกายืมเพื่อนเลย พอคืนเสร็จแล้วก็ไม่ มีความผิด“ นายเชตวัน กล่าว
พร้อมกันนี้ นายเชตะวันได้ยก การตรวจสอบของ ทบ.เป็นไปตามระเบียบ คือหากพบว่ามีการสูญหาย ก็ต้องมีการรายงานแล้วตั้งกรรมการตรวจสอบได้ข้อสรุปออกมา และมีการชดใช้และรายงานต่อ ผบ.ทบ. ต่อไป แต่สิ่งที่กองทัพบกดำเนินการ คือเมื่อมีน้ำมันสูญหาย ไม่ได้มีการรายงาน ไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่มีการชดใช้ ก่อนที่จะมีการร้องเรียน และตั้งกรรมการสอบ จึงมีข้อสรุปออกมาและสุดท้ายไม่เกิดการทุจริต
ดังนั้นตนคิดว่าแม้จะมีการซื้อคืนชดเชยในภายหลังแล้ว แต่ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 เกิดขึ้นแล้ว เรื่องของการละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เมื่อถามว่า น้ำมันที่หายไปเกิดจากการระเหยหรือมีการยักยอก นายเชตวัน กล่าวว่าในส่วนของมณฑลทหารบกที่ 18 จำนวน 200,000 ลิตร ไม่น่าจะระเหยได้แน่ๆแต่ในส่วนของกรมพลาธิการทหาร ไม่ได้มีการชี้แจงว่าระเหย เป็นการพูดเล่นมากกว่า ผลสอบออกมาก็คือหายจริงๆ
อย่างไรก็ตามคณะกรรมาธิการจะเชิญกองทัพบก เข้ามาชี้แจงในกรรมาธิการทหารในวันพรุ่งนี้ (28 ส.ค.) ถึงข้อเท็จจริงขาดหายไปของน้ำมัน และสอบถามถึงการดำเนินการที่ล่าช้า เพราะรอให้มีการปรับเลื่อนตำแหน่ง ซึ่งทราบมาว่าคนเดิมได้ปรับเลื่อนตำแหน่ง เป็นถึงรองนายพล และสอบถามถึง พยานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ว่าได้รับความเสียหายจากการปรับเลื่อนตำแหน่งด้วยหรือไม่.-315 สำนักข่าวไทย