ส่องก่อนเปิดตัวในไทย Mercedes-Benz CLA 250+ EV 2026 วิ่งไกล 790 กิโลเมตร

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ภาพไฮไลต์

Mercedes-Benz CLA250+ EV ไม่ใช่รถที่หรูหราที่สุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์แบรนด์หรูตราดาวสามแฉก แต่รถรุ่นใหม่ล่าสุดปี 2026 ก็มีความสำคัญเหนือกว่ารุ่นที่ผ่านมา การเปิดตัวรถยนต์ซีดานซับคอมแพกต์รุ่นนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้น ของยุคใหม่ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ำไฟฟ้าของ Mercedes-Benz จึงมีความจำเป็นต้องสร้างความประทับใจ เพื่อดึงดูดใจผู้ซื้อในฐานะลูกค้าของ Mercedes-Benz ไปตลอดชีวิต นานมาแล้วที่ CLA สร้างชื่อเสียงให้กับแบรนด์ตราดาว ในด้านภาพลักษณ์และการใช้งาน CLA เจเนอเรชั่นที่สามรุ่นใหม่ กลายเป็นรถที่มีความสำคัญมากขึ้นไปอีก เพราะเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกของบริษัทที่ได้รับการออกแบบสถาปัตยกรรมโมดูลาร์ (MMA) ใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ดีไซน์สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าล้วน (รวมถึงรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน) ในช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านจากน้ำมันไปเป็นไฟฟ้า ลูกค้าตราดาวที่ขับไกล ต้องเดินทางไกลตลอดทุกอาทิตย์ อาจลังเลที่จะเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าล้วน แต่ CLA พร้อมแบตเตอรี่แบบใหม่นั้น วิ่งไกลสุดกู่ถึง 700 กิโลเมตร CLA ใหม่ ยังเปิดตัวระบบปฏิบัติการแบบใหม่ขอ งMercedes-Benz ซึ่งเป็นก้าวย่างที่มีความสำคัญในการเดินไปสู่ยานยนต์แห่งอนาคตที่ควบคุมด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งสามารถอัปเกรดได้ง่ายดายผ่านการอัปเดตด้วยระบบไร้สาย

หลังจากเปิดตัวที่อิตาลี และเชิญนักข่าวไปขับทดสอบที่โคเปนเฮเก้น ล่าสุด Mercedes-Benz Thailand เตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า CLA250+ ปี 2026 ด้วยแพลตฟอร์ม MMA ก่อนการเปิดตัวมีการจัดแสดงให้เห็นถึงภาษาการออกแบบของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหลังเจเนอเรชันใหม่

New CLA 250+ EV รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ ยกเลิกการตั้งชื่อระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าซึ่งที่ผ่านมา Benz เคยใช้ชื่อย่อ EQ นำหน้ารุ่น ล่าสุด รถยนต์ไฟฟ้าของ Mercedes ได้พัฒนามาถึงระดับที่มีความพร้อมสรรพและเป็นที่รู้จักดีพอจนไม่จำเป็นต้องใช้ชื่อ EQ อีกต่อไป Ola Källenius ประธานคณะกรรมการบริหารและซีอีโอของ Mercedes-Benz กล่าวว่า เมื่อ EQ คำนำหน้ารุ่นถูกยกเลิกไป รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ จะยังคงใช้ชื่อดั้งเดิม CLA ไฟฟ้าจะยังคงเป็น CLA เหมือนเดิม

Dennis Brings Senior Designer Mercedes-Benz กล่าวว่า การพัฒนา CLA และแพลตฟอร์มไฟฟ้าที่สามารถใช้ร่วมกับ CLA ปลั๊กอินไฮบริด เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณสามปีที่แล้ว จุดเริ่มต้นคือการสร้างรถซีดานไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบ พร้อมหลังคาลาดโค้งลงไปยังส่วนท้าย สไตล์คูเป้ การออกแบบที่ปรับให้รูปทรงที่ลู่ลมของรถไม่ส่งผลกระทบพื้นที่ภายในห้องโดยสารด้านหลัง แม้ว่า CLA จะได้รับการออกแบบให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้า แต่แพลตฟอร์ม MMA สามารถรองรับเครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเช่นกัน สถาปัตยกรรมระบบขับเคลื่อนล้อหน้า (FWD) มอบระบบขับเคลื่อนปลั๊กอินไฮบริด ขับเคลื่อนล้อหน้า หรือระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4MATIC รวมถึงระบบขับเคลื่อนล้อหลังใน CLA 250+ EV เนื่องจากออกแบบใหม่ให้มอเตอร์ขับเคลื่อนวางคล่อมอยู่ที่เพลาหลัง

ปี 2025 - 2026 Mercedes-Benz ยังคงนำเสนอระบบส่งกำลังแบบคู่ขนาน ด้วยอัตราส่วนการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในไทย แบรนด์ตราดาวยังคงเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าบนแพลตฟอร์มใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวรถยนต์ ICE ที่มีเครื่องยนต์และระบบส่งกำลังที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ไปจนถึงช่วงทศวรรษ 2030 ซึ่งแพลตฟอร์ม MMA ออกแบบมาเพื่อให้วางระบบขับเคลื่อนได้ทั้งสองแบบ

Mercedes-EQ รุ่นแรกถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึงส่วนหน้ารถที่สั้น รวมถึงส่วนตรงกลางที่โค้งมน ซึ่งแตกต่างไปจากประวัติศาสตร์ของ Mercedes-Benz ที่เน้นฝากระโปรงหน้ายาวเพื่อความสง่างาม รูปลักษณ์ที่แตกต่างของรถรุ่นใหม่ในยุคนี้ ได้รับเสียงชื่นชมจากลูกค้าเก่าและคนที่เพิ่งจะซื้อรถของแบรนด์ Mercedes ปัจจุบัน Mercedes จำเป็นต้องเปลี่ยนไปสู่การใช้งานในวงกว้าง การดึงดูดลูกค้าที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยม จำเป็นต้องมีสไตล์ที่คุ้นเคยและเป็นแบบแผนมากขึ้น

Dennis Brings Senior Designer ดีไซน์เนอร์ของ CLA เจเนอเรชั่นที่สาม ทำการปรับภาพลักษณ์ของรถเล็กรุ่นใหม่ให้มีความสปอร์ตและดุดันกว่าเดิม เพื่อดึงดูดลูกค้าอายุน้อย ตัวรถถูกออกแบบให้มีด้านหน้ารถที่เฉียบคม ฝากระโปรงหน้ามีเส้นนำสายตาเพื่อสร้างมิติมุมมสองสองเส้น ออกแบบฐานล้อให้ยาวขึ้นเล็กน้อย พร้อมพื้นที่สำหรับแบตเตอรี่ขนาด 85 kWh ฐานล้อยาวขึ้นประมาณ 2 นิ้ว และตัวรถโดยรวมยาวขึ้นประมาณ 1 นิ้ว สูงและกว้างขึ้นเล็กน้อย มีล้อให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 17 ถึง 19 นิ้ว รุ่น 250+ ที่จะทำตลาดในไทย แน่นอนว่ามาพร้อมกับล้อลายแอร์โรขอบ 19 นิ้ว ดวงดาว Mercedes-Benz เรืองแสง ปรากฏอย่างเด่นชัดด้วยความจงใจในการออกแบบกระจังหน้า ล้อมรอบด้วยลวดลายดาวเรืองแสง ส่องสว่างดวงดาว 142 ดวง ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่โดยรอบ เหนือกระจังหน้าเป็นชุดไฟหน้าแบบใหม่กับไฟ Daytime LED ใหม่ ไฟหน้าออกแบบให้มีลักษณะคล้ายตราสัญลักษณ์ดาวสามแฉก มองเผินๆ ดูเหมือนจะมีหลายชั้น ทั้งไฟหน้า กระจังหน้า ตราสัญลักษณ์ CLA บนตัวถังสีดำ แผงหน้าปัดสีดำ แถบโลหะตกแต่ง ทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยแถบสีดำ ไฟท้ายทอดยาวพาดผ่านด้านท้ายรถ ด้วยลวดลายดาวแบบเดียวกับกระจังหน้า

CLA มีหลังคากระจกพาโนรามิคเคลือบพิเศษเพื่อให้มองเห็นได้เต็มที่ขณะเดียวกันก็ป้องกันแสงแดดอันร้อนแรง งานตกแต่งภายในของ CLA ให้ความรู้สึกพรีเมียมเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การใช้วัสดุคุณภาพสูงที่หลากหลาย ทั้งหนัง หนังกลับ โลหะที่มีเฉดสีตัดกัน การเย็บเดินตะเข็บ CLA มีคอนโซลแบบใหม่ เบาะนั่งแบบสปอร์ต พร้อมพนักพิงด้านข้างและพนักพิงศีรษะแบบปรับได้ สิ่งทอจากขวดน้ำอัดลมรีไซเคิลสำหรับตกแต่งคอนโซลกลาง อลูมิเนียม ไม้โอ๊ค ไม้เบิร์ช ขอบตกแต่งสุดเท่ที่ทำจากกระดาษนับเป็นครั้งแรกของ Mercedes

CLA มาพร้อมกับหน้าจอ Superscreen ของ Mercedes-Benz ซึ่งครอบคลุมความกว้างของแดชบอร์ดเกือบทั้งหมด นอกจากจอภาพมาตรวัดของผู้ขับ ขนาด 10.3 นิ้วแล้ว ยังมีหน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาด 14.0 นิ้ว และหน้าจอเสริมขนาด 14.0 นิ้วอีกจอหนึ่งสำหรับผู้โดยสารตอนหน้าเอาไว้ดูหนังฟังเพลง ในตำแหน่งผู้ขับขี่ คนขับจะมองเห็นหน้าจอสำหรับผู้โดยสารได้เฉพาะเมื่อรถหยุดนิ่งเท่านั้น หากผู้ขับพยายามรับชมหน้าจอสำหรับผู้โดยสาร ภาพจะหายไปทั้งสองจอเพื่อความปลอดภัยขณะขับเคลื่อน อุปกรณ์ไฮเอนด์และอุปกรณ์มาตรฐานเพิ่มขึ้นหลายจุด หนึ่งในนั้นคือกระจกหลังที่เลื่อนลงได้เพียงครึ่งเดียว Mercedes-Benz แจ้งว่า การติดตั้งช่องระบายอากาศในแถวที่สองทำให้แทบจะไม่สามารถเลื่อนกระจกบานประตูหลังลงได้ กลไกมอเตอร์ของกระจกจะกินพื้นที่บริเวณไหล่ ผู้โดยสารด้านหลังมีช่องเสียบ USB แต่ไม่มีหน้าจอ มีพื้นที่วางขาและเหนือศีรษะกว้างมากพอและเหมาะสมกับขนาดของรถ พื้นที่เก็บสัมภาระส่วนท้ายรถใหญ่ใช้ได้ จุกระเป๋าเดินทางได้สองใบ ส่วนฝากระโปรงหน้ามีพื้นที่เก็บสัมภาระให้ใช้งานเล็กน้อย

CLA 250+ มาพร้อมของเล่นใหม่ล่าสุด ด้วยการเปิดตัวระบบอินโฟเทนเมนต์ MBUX รุ่นที่ 4 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Mercedes-Benz MB.OS ที่ผสาน AI จากทั้ง Microsoft และ Google วิศวกรระบบของ Mercedes- Benz สร้างซอฟต์แวร์สำหรับ A-Class สำเร็จเป็นครั้งแรกในปี 2018 และในปี 2020 EQS เปิดตัวจอภาพสุดอลังแบบไฮเปอร์สกรีน ตามด้วยปี 2023 E-Class ก็เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android นับเป็นเวลาหลายปีที่แบรนด์ตราดาวต้องการยุติการซื้อแพ็คเกจซอฟต์แวร์ของซัพพลายเออร์ และหันมาพัฒนาซอฟต์แวร์สแต็กของตนเอง งานพัฒนาระบบ เริ่มต้นขึ้นในปี 2020 ระบบปฏิบัติการใหม่ จะถูกนำมาใช้งานในรถยนต์รุ่นใหม่ล่าสุดมากถึงประมาณ 45 รุ่น ในอีกสองถึงสามปีข้างหน้า โดยจะมีรถรุ่นใหม่ ทยอยเปิดตัวในปี 2026 และ 2027

ระบบ MB.OS ใน CLA 2026 ทำงานได้ 27 ภาษา ใช้ AI อวาตาร์เสมือนจริง ระบบนำทาง 360 องศา ที่แสดงทุกสิ่งรอบตัวรถ พร้อมให้คำแนะนำเป็นภาษาอังกฤษ เยอรมัน และจีน MB.OS ใหม่ ใช้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Nvidia เพื่อทำให้ Mercedes-Benz Drive Assist Pro ระดับ “Level 2++” มีความเสถียร

CLA250+ มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้ากำลัง 268 แรงม้า มอเตอร์วางด้านหลัง ระบบเกียร์สองสปีด เพื่อประสิทธิภาพที่เหนือชั้น รุ่นขับเคลื่อนสี่ล้อ มาพร้อมมอเตอร์หน้าอีกตัวที่มีกำลัง 107 แรงม้า ทำให้มีกำลังรวมของระบบอยู่ที่ 349 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงใน 5.1 วินาที นั่นถือว่าแรงมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับขนาดอันกะทัดรัดของมัน แบตเตอรี่นิกเกิล-โคบอลต์-แมงกานีส (NCM) ขนาด 85 กิโลวัตต์ชั่วโมง ให้ระยะทางวิ่งได้ 790 กิโลเมตร ตามมาตรฐานการทดสอบ WLTP ของยุโรป บางประเทศ CLA ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟต (LFP) ขนาด 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่มีขนาดเล็กกว่า ในรุ่นที่มีราคาถูกกว่า

สถาปัตยกรรมไฟฟ้า ระบบไฟ 800 โวลต์ ใน CLA 250+ ด้วยการชาร์จเร็วเพียงแค่ 10 นาที สามารถเพิ่มระยะทางวิ่งได้สูงสุด 300 กิโลเมตร (ตามมาตรฐาน WLTP) ที่กำลังไฟกระแสตรงสูงสุด 320 กิโลวัตต์ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของระบบชาร์จไฟกระแสตรง มาจากแนวคิด Mercedes-Benz Vision EQXX ที่ทำการบุกเบิกเส้นทางระยะไกลด้วยการชาร์จไฟ DC กระแสตรง CLA 250+ ยังเป็นรถที่มีความลื่นไหลจากรูปทรงโค้งมน โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานอากาศที่ 0.21 เกือบจะเท่ากับ EQXX ซึ่งเป็นรถต้นแบบที่มีตัวเลขค่าสัมประสิทธิแรงเสียดทานอากาศต่ำที่สุดในโลก.

Mercedes-Benz เตรียมจัดแคมเปญ DEFINING ELECTRIC: Reimagine Intelligence เพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขายรถในกลุ่มยานยนต์พลังงานสะอาดของ Mercedes Benz แคมเปญนี้ มีข้อเสนอพิเศษ ส่วนลดสูงสุด 3 ล้านบาท พร้อมโปรแกรม mySTAR รับประกันแบตเตอรี่ 10 ปี หรือ 250,000 กิโลเมตร, รับ Mercedes-Benz Wall Box, ประกันภัยชั้น 1 , ชาร์จ DC ไม่จำกัดจำนวนครั้ง 1 ปี ที่สถานี SHARGE พร้อมร่วมทดลองขับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% จำนวน 8 รุ่น

งาน DEFINING ELECTRIC: Reimagine Intelligence จัดขึ้นที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ในระหว่างวันที่ 15-17 สิงหาคม 2568 และที่โครงการเซ็นทรัล วิลเลจ (Central Village) ในวันที่ 23-24 และ 30-31 สิงหาคม 2568

Mercedes-Benz New CLA 250+ EV รุ่นประกอบในประเทศ จะเปิดตัวพร้อมราคา ในงาน Motor EXPO 2026 ช่วงปลายปีนี้.

Dennis Brings Senior Designer Mercedes-Benz เกิดเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2528 เริ่มต้นเส้นทางอาชีพในอุตสาหกรรมยานยนต์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2555 หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโท ด้านการออกแบบยานยนต์และการขนส่ง (Master of Arts in Transportation Design) จากมหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ฟอร์ซไฮม์ (University of applied Science Pforzheim) โดยได้เข้ามาร่วมงานกับฝ่ายออกแบบของ Mercedes-Benz ที่เมืองซินเดลฟิงเงน ประเทศเยอรมนี (Sindelfingen, Germany)

ในแผนกไฟและชิ้นส่วนยานยนต์ (Lights & Parts) ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายสำหรับรถยนต์ทุกประเภทของ Mercedes-Benz โดย Brings ทำงานครอบคลุมทั้งในส่วนของการออกแบบรถยนต์ต้นแบบ (Concept Cars) และรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่าย (Series Production Cars)

โปรเจกต์แรกในฐานะดีไซน์เนอร์มืออาชีพของ Dennis Brings คือ การปรับโฉม A-Class ในปี พ.ศ. 2556 พร้อมกับการออกแบบรถยนต์ต้นแบบจากแบรนด์ Smart อย่าง “Smart ForJoy” นอกจากนี้ ยังมีผลงานการออกแบบไฟหน้าและไฟท้ายที่โดดเด่นในรุ่น Mercedes-AMG GT Coupé, Mercedes-Benz CLS และรถยนต์รุ่นล่าสุดอย่าง The new CLA

ก่อนเข้าร่วมงานกับ Mercedes-Benz Dennis Brings ได้สั่งสมประสบการณ์ผ่านการฝึกงานร่วมกับทีมออกแบบของโฟล์คสวาเกน (Volkswagen Design) ในปี พ.ศ. 2551 และโอเปิล (Opel Design) ในปี พ.ศ. 2552

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ส่องก่อนเปิดตัวในไทย Mercedes-Benz CLA 250+ EV 2026 วิ่งไกล 790 กิโลเมตร