เพื่อไทยย้ำติดตามช่วยเหลือชายแดนเต็มที่ แก้ปัญหายาเสพติดเต็มระบบ KPI รัฐบาลเพื่อไทย คือการได้เห็นรอยยิ้มประชาชน
วันนี้ (24 สิงหาคม) ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด ในฐานะรองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงความคืบหน้าการเยียวยาประชาชนจากสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชาว่า สส. พรรคเพื่อไทยได้ติดตามการช่วยเหลือเยียวยาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้การช่วยเหลือส่งถึงพี่น้องประชาชนอย่างรวดเร็วเป็นธรรม ซึ่งต้องยอมรับว่า การช่วยเหลือเยียวยากรณีผลกระทบจากการปะทะชายแดนมีความซับซ้อนและมีรายละเอียดมากกว่าการประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติ
พรรคเพื่อไทยขอยืนยันว่า จะเป็นอีกหนึ่งแรงสำคัญในการช่วยประสานงานหน่วยงานราชการและติดตามเรื่องให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อไม่ให้มีใครร่วงหล่นจากมาตรการช่วยเหลือของรัฐบาล
ส่วนการแก้ไขปัญหายาเสพติด ช่วงที่ผ่านมา ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหายาเสพติดอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบนั้น ผลลัพธ์เบื้องต้นพบว่า มีการดำเนินการจับกุมการลักลอบขนยาไอซ์ลอตใหญ่ในสามพื้นที่คือ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดเลย กว่า 2,100 กิโลกรัม รวมทั้งการดำเนินการจับกุมการลักลอบขนยาบ้าที่จังหวัดแพร่อีกกว่า 2 ล้านเม็ด
ชญาภา กล่าวว่า เป็นเพียงตัวอย่างของการดำเนินการมาตรการเชิงรุกในการปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบาย No Drug No Dealers และนโยบาย 8 Quick Win 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข ของรัฐบาลเพื่อไทย นอกจากนี้ในช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้มีเพียงแค่การดำเนินการกับผู้ค้ารายใหญ่เพียงเท่านั้น
ในหลายจังหวัดได้เริ่มต้นดำเนินการในการนำตัวผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัดแล้วหลายหมื่นราย โดยสิ่งนี้เป็นการต่อยอดความสำเร็จจาก ธวัชบุรีและท่าวังผาโมเดล ซึ่งเริ่มต้นดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลท่านเศรษฐา ทวีสิน มาจนถึงรัฐบาลท่านแพทองธาร ชินวัตร
“ดิฉันเชื่อ และมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่า ปัญหายาเสพติดที่กลับมาเป็นปัญหาเรื้อรังอีกครั้งหลังพ้นยุครัฐบาลไทยรักไทย จะถูกแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยรัฐบาลเพื่อไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเรามีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่มาจากพรรคเพื่อไทย
วันนี้เราเดินหน้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่กัดกินใจพี่น้องประชาชนมายาวนานอย่างเต็มระบบ และข้าราชการเองต่างก็ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่เพื่อที่จะบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับพี่น้องประชาชน แม้ตัวเลขการจับกุม การดำเนินการยึดทรัพย์พ่อค้ายาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาไม่กี่เดือนที่ผ่านมาจะมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่เราจะยังไม่พอใจ และยังไม่ถือว่าเป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จ หรือ KPI ที่สมบูรณ์พอ อย่างที่รัฐมนตรีของเราบอกไว้ว่า ‘จนกว่าเราจะทำให้ประชาชนรู้สึกได้ว่า ปัญหายาเสพติดดีขึ้นหรือหมดไป’ ซึ่งดิฉันเชื่อว่า เรื่องนี้พี่น้องประชาชนในทุกพื้นที่เริ่มเห็นผลความเปลี่ยนแปลงแล้ว
ชญาภา กล่าวทิ้งท้ายว่า KPI ที่สำคัญที่สุดของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ที่เราต้องการจะไปให้ถึง คือการได้เห็นรอยยิ้มของพี่น้องประชาชน เห็นรอยยิ้มของชาวบ้านในชุมชนต่างๆ เห็นน้ำตาของแม่ที่ได้ลูกกลับคืนมา เห็นความภูมิใจของครอบครัวที่ได้ลูกหลานกลับคืนมาจากยาเสพติด นี่คือสิ่งที่พรรคเพื่อไทยต้องการ สุดท้ายดิฉันยืนยันว่า หากเรายังมองไม่เห็นสิ่งเหล่านี้ รัฐบาล และพรรคเพื่อไทยจะไม่หยุดเดิน