ครอบครัวยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พระอลงกต หลังพบชื่อ-สกุลตรงกับลูกชาย
จากกรณีที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า พระอลงกต พูลมุข เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ อาจมี เลขประจำตัวประชาชนตรงกับบุคคลที่เสียชีวิตแล้ว คือ นายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการกรมชลประทานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนสร้างความสงสัยในสังคมเกี่ยวกับตัวตนของพระอลงกตนั้น
ล่าสุด ตำบลกู่ทอง อำเภอเชียงยืน จังหวัดมหาสารคาม พบกับ นายเสริมวิทย์ พลมุข อายุ 85 ปี ซึ่งเป็นบิดาของ นายอลงกต พลมุข (ผู้เสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน) โดยมี ชื่อบิดาตรงกับที่ถูกระบุว่าเป็นพ่อของพระอลงกต ตามข้อมูลในข่าวก่อนหน้านี้
นายเสริมวิทย์ เปิดเผยว่า ตนมีบุตรชายทั้งหมด 3 คน โดยคนโตชื่อนายอลงกต ซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2566 ขณะอายุประมาณ 61 ปี ยืนยันว่าพระอลงกต ไม่ใช่ลูกของตน และไม่มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือดใด ๆ กับครอบครัว
ทราบมาก่อนหน้านี้แล้วว่าพระอลงกตมีชื่อ-นามสกุลเหมือนกับลูกชายของผม แต่ก็ไม่เคยสงสัยอะไร เพราะรู้ว่าไม่ใช่ญาติกันแน่นอน นายเสริมวิทย์กล่าว
ดร.ดาหวัน ทะสา นายก อบต.กู่ทอง ซึ่งเป็นหลานสาวของนายเสริมวิทย์ และลูกพี่ลูกน้องของนายอลงกต (ผู้เสียชีวิต) เปิดเผยว่า ตนเองเคยพาผู้ป่วยในหมู่บ้านไปรับการดูแลที่วัดพระบาทน้ำพุ และรู้จักพระอลงกตในฐานะพระนักพัฒนา ไม่เคยคิดว่ามีความเกี่ยวข้องกันทางเครือญาติ
ชื่อ-นามสกุลตรงกันจริง แต่จากการสอบถามกันในเครือญาติ ทุกคนก็ยืนยันตรงกันว่าไม่ใช่ญาติกัน อาจเป็นเรื่องบังเอิญ
ทางครอบครัวยังกล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาโจมตีหรือลบหลู่พระอลงกต เพราะทราบดีว่าท่านทำคุณประโยชน์แก่สังคมจำนวนมาก เพียงแต่อยากให้ภาครัฐเข้ามาตรวจสอบเพื่อให้ทุกฝ่ายสบายใจ
โดยเฉพาะเมื่อมีข้อเท็จจริงว่า นายอลงกต พลมุข (ผู้เสียชีวิต) เคยมีบุตรชายเรียนอยู่ที่อยุธยา และมีผู้ระบุว่าพบลูกศิษย์ใช้นามสกุล พลมุข ตรงกัน อาจทำให้เกิดความสับสนเรื่องข้อมูลทะเบียนราษฎรหรือธุรกรรมต่าง ๆ หากข้อมูลของผู้เสียชีวิตไปเชื่อมโยงกับบุคคลอื่น
ครอบครัวนายอลงกต พลมุข และญาติใกล้ชิด ยืนยันไม่ได้ต้องการสร้างความเสียหายต่อพระอลงกต เพียงต้องการให้เรื่องนี้มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และป้องกันผลกระทบในอนาคต หากมีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียชีวิตไปเชื่อมโยงผิดพลาด