วัดพระบาทน้ำพุ แจงยิบข่าวลือ โต้เลข 13 หลัก พระอลงกต นามสกุลพูลมุข ไม่ซ้ำคนอื่นแน่
วัดพระบาทน้ำพุ แจงยิบข่าวลือ โต้เลข 13 หลัก พระอลงกต นามสกุลพูลมุข ไม่ซ้ำคนอื่นแน่
เมื่อเวลา 13.15 น. วันที่ 24 สิงหาคม ที่วัดพระพุทธบาทน้ำพุ นายศุภชัย สิงคาลวานิช ทนายความวัดพระบาทน้ำพุ แถลงข่าวกรณีสังคมตั้งข้อสงสัยในหลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ในเรื่องเงินบริจาค และการดูแลผู้ป่วยเอดส์ ว่า สังคมเข้าใจเราในทางที่ผิดเพราะเกิดการชี้นำจากหลายเพจ และผู้มีอิทธิพลทางสื่อ เอาเรื่องปะติดปะต่อทำให้เราเสียหาย อย่างเรื่องเด็กชายใจแก้ว ที่เกิดจากหญิงออทิสติก แต่ท่านเจ้าคุณรับเลี้ยง ก็สร้างเรื่องว่าเป็นลูกของเจ้าคุณ ซึ่งเด็กก็เป็นเอดส์ แต่ไม่ใช่ลูกของพระอลงกต แต่ก็ไม่มีใครแก้ข่าวให้
นายศุภชัย กล่าวว่า สังคมไม่เข้าใจภารกิจของสงฆ์ การที่เจ้าคุณดูแลผู้ป่วยHIV เด็กและคนชรา ก็กล่าวหาว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ทั้งที่เป็นเรื่องของสาธารณะสงเคราะห์
ขณะที่พ.อ.ประชุม สุขสำราญ ผู้ดูแลศาสนสถาน วัดพระบาทน้ำพุ ประธานมูลนิธิพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า พระอลงกต บวชมาก็บำเพ็ญเพียรอยู่ในถ้ำ จนเจ้าอาวาสองค์ก่อนมรณภาพ ญาติโยมเลยนิมนต์ท่านออกจากถ้ำ จนมีคนมาทิ้งผู้ป่วยเอดส์ไว้ ท่านก็มาดูแล ท่านก็ท้อใจ จนขึ้นไปพระบาทข้างบน ดูลงมาที่เมืองลพบุรี ก็คิดว่าถ้าพระพุทธเจ้าจะช่วยหรือไม่ ก็คิดว่าถ้าไม่ช่วยใครจะช่วย เลยตั้งใจจะช่วยเหลือให้เต็มที่ เหมือนเป็นภารกิจจากพระพุทธองค์ ซึ่งก็เห็นแล้วว่าการบวชแล้วแผ่เมตตาในมุ้ง มันไม่ได้อะไร ก็เลยต้องมาช่วย นอกจากมีเมตตา ก็ต้องมีกรุณาด้วย จากนั้นก็ต้องดูแลครอบครัว ก็เลยมีมูลนิธิธรรมรักษ์ขึ้นมา ที่ต้องดูแลทั้งเด็กและผู้ใหญ่
พ.อ.ประชุม กล่าวอีกว่า ข่าวที่ระบุว่าดูแลผู้ป่วยอยู่แค่ 140 คน ก็ต้องบอกว่าเราคำนึงถึงสิทธิของผู้ป่วย ที่พักจึงอยู่ข้างใน ใครมาที่นี่ก็บอกไม่เห็นมีผู้ป่วย เราจัดพิธีสวดมนต์ให้ เขาดีใจเพราะไม่เคยมีคนมาเยี่ยม บางคนอ้วน บางคนผอม อยู่ได้เพราะยาต้าน ที่ช่วยเหลือตัวเองได้ก็มีบ้านพักให้ แล้วมาช่วยงานวัด ส่วนผู้ป่วยติดเตียงอยู่ด้านใน หลวงพ่อไม่ได้หากินกับคนป่วย ที่ป่วยติดเตียง ก็ครึ่งนึงของ 140 คน ยืนยันว่าผู้ป่วยยังมีอยู่
ด้านนายเฉลิมพล พลมุข ประธานมูลนิธิธรรมรักษ์ กล่าวว่า ผู้่่ติดเชื้อ HIV ทั้งประเทศมีประมาณครึ่งล้าน เป็นระเบิดก้อนใหญ่ของสังคม ซึ่งต้องถามว่ารัฐบาลเตรียมพร้อมไว้หรือยัง หลายคนบอกเอดส์หมดไปจากประเทศไทย แต่ตัวเลขสธ. ก็บอกว่ามีผู้ติดเชื้อล็อตใหม่อย่างมีนัยยะสำคัญ ถ้าทรุดขึ้นมาทั้งหมด โรงพยาบาลรับไว้ไหม บางโรงพยาบาลตอนนี้แทบจะล้มละลาย
นายศุภชัย กล่าว่า ตอนนี้ทางวัดดูแลคนกว่า 1,200 คน ไม่ใช่แค่ 140 คน ส่วนความแตกต่างของวัดกับมูลนิธิ ทีจัดตั้งแตกต่างกัน มีวัตถุประสงค์ต่างกัน โดยพระอาจารย์ดูแลผู้ป่วยเอดส์ด้วยตัวคนเดียว จึงตั้งมูลนิธิธรรมรักษ์ ตั้งแต่ปี 2537 ทำให้คนมาช่วยกัน ซึ่งไม่เกี่ยวกับวัด มูลนิธิพุทธสถานลพบุรีศรีสุวรรณภูมิ มูลนิธิพระอลงกต มูลนิธิ อาทรประชานารถ และมูลนิธินาถะ ก็ก่อตั้งตามมา และไม่เกี่ยวกับวัด
พ.อ.ประชุม กล่าวถึงกรณีที่ดินที่ให้คนอื่นดูแล เป็นเพราะการซื้อที่ดินไม่ได้ซื้อทีเดียว แต่ค่อยๆซื้อเลยเป็นชื่อของบุคคลก่อน พอตั้งเรียบร้อยก็โอนให้เป็นนามมูลนิธิ ที่ยังโอนไม่เรียบร้อยก็จะเสร็จเร็วๆนี้
นางกอแก้ว เพชรบุตร ผอ.โรงเรียนนาถะศาสตร์ เผยว่าโรงเรียนที่ดูแลสนามฟุตบอล ที่เน้นสร้างนักกีฬา สร้างบักบอลทีมชาติ บอลไทยต้องไปบอลโลก มีเด็ก 127 คน ในยนามใจฟ้าอคาเดมี่ ไปแข่งที่ญี่ปุ่นก็ได้แชมป์ หลวงพ่อเป็นโค้ชให้ทุกวันอาทิตย์ เอาคลิปวีดีโอการแข่งขัน การแอสซิสต์ การยิงประตูให้ดูด้วย อย่างสนามฟุตบอล ทีมชาติหญิงก็มาใช้ซ้อม และจัดการแข่งขันด้วย เด็กที่มาแข่ง ก็ได้เบี้ยเลี้ยงฝึกซ้อม 5 หมื่นอัพทุกคน
นายศุภชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าเราทำให้เด็กได้มาตฐาน ไม่ได้เป็นเรื่องหรูหราฟุ่มเฟือย เราก็คัดเด็กจากกลุ่มที่ยากจน แต่มีความเก่งเรื่องกีฬา เอามาเรียนที่นี่
นายเฉลิมพล กล่าวถึงที่ดินที่ อ.หนองม่วง ที่ว่ามี 2 พันไร่ ที่จริงแล้วมีแค่ 800 กว่าไร่ เป็นที่ที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 33 ใช้ มีบ้านพักเด็ก มีบ้านพักผู้ติดเชื้อ HIV มีบ้านพักผู้สูงอายุ และญาติอดีตไวยาวัจกร กำลังจะทยอยโอนที่คืนให้มูลนิธิ
นางกอแก้ว กล่าวถึงโรงเรียนกำจรวิทย์ ที่ว่าหลวงพ่อซื้อไป เป็นโรงเรียนเอกชน ปิดกิจการ และทำโรงเรียนรองรับใจฟ้าอคาเดมี่ จึงใช้ใบอนุญาตโรงเรียนกำจรวิทย์ ย้ายมาที่ใจฟ้าฟาร์ม แล้วเปลียนชื่อเป็นโรงเรียนนาถะศาสตร์ ที่ไม่โอนให้มูลนิธิ เพราะอาคารยังไม่เสร็จ ไม่พร้อมรับเด็กถ่ายโอนไป แต่ตอนนี้ก็โอนไปให้มูลนิธิอาทรประชานารถ ที่ดินเดิม ก็ยังอยู่
นางกอแก้ว กล่าวถึงข่าวลือเรื่องซื้อโรงแรม จริงๆนายยงยุทธ กิจวัฒนานุสนธิ์ หรือ เฮียยี่ เจ้าของโรงแรม ในช่วงเศรษฐกิจไม่ดี ทุกคนก็ลำบาก เฮียยี่ ก็คงอยากขายให้หลวงพ่อ แต่ก็ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ก็แค่เอาทีมไปช่วยดูแลร้านอาหารชั้นล่าง ทำเป็นร้านสยามปันสุข ขายอาหาร อิ่มละ 20 ทำอยู่ 10 เดือน ก็ถอนทีมออก เป็นการเข้าไปช่วยเฉยๆ ไม่ใช่ไปเหมาโรงแรม
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องตัวบุคคล ยืนยันว่าหลวงพ่ออลงกต มีบัตรปะชาชน และนามสกุลพูลมุข ตามหลักฐานของกระทรวงมหาดไทย ส่วนเรื่องเลข 13 หลักในหนังสือสุทธิ ยืนยันว่าคนละเลขบัตรประชาชนกัน เลขไปเหมือนคงจะเป็นเรื่องอื่น
เมื่อถามว่าทำไมพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชน นายอลงกต ถึงเข้าไปทีมูลนิธิ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้ติดตามละเอียด ก็จะจดเอาคำถามไปพิจารณาแล้วจะตอบในการแถลงครั้งหน้า ยืนยันว่าเรื่องของวัดตรวจสอบไปมากแล้ว แต่เรื่องมูลนิธิ ต้องขอเวลา ตรวจสอบ จะตอบคราวหน้าแน่นอน
นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องของมูลนิธิอาทรประชานารถ ตั้งเมื่อพ.ศ. 2562 เรายังตรวจสอบไปไม่ถึง เป็นเรื่องที่ไวยาวัจกรคนเก่าดูแล ท่านเสียชีวิตแล้วก็ต้องตรวจสอบ คราวหน้าจะตอบ
เมื่อถามว่าเลขบัตรประชาชนของนายอลงกต ซึ่งเป็นคนละเลขกับนายเกรียงไกร แล้วทำไมตอนบวชเมื่อปี 2529 ถึงจำเลขบัตรตัวเองไม่ได้ นายศุภชัย กล่าวว่า เรื่องนี้เพิ่งทราบ ยังไม่ได้คุยกับหลวงพ่อ คราวหน้าจะตอบเรื่องนี้
เมื่อถามว่า นายอลงกต พลมุข เป็นญาติกับพระอลงกตหรือไม่ นายเฉลิมพล กล่าวว่า นายอลงกต ที่เสียชีวิตเป็นญาติตน และไปงานศพด้วย ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ก็แจงแล้วว่าเป็นเลข 13 หลักคนละตัวเลขกัน ส่วนที่ถามว่าอะไรปลอม อะไรจริง ผมก็ไม่สามารถตอบได้
เมื่อถามว่า ได้สอบถามพระอลงกตไหม ว่าทำไมกรอกเลขคนอื่นในใบสุทธิ นายเฉลิมพล กล่าวว่า คนทำงานกับท่าน เจอท่านน้อยมาก ก็ไม่เคยไปถามว่าเลขบัตรอะไร คำถามก็น่าจะไปถามท่านเองดีกว่า แต่ก็เคยถามญาติตนที่มหาสารคาม และที่อยุธยา ก็คุยกันเป็นระยะๆ แต่ก็ไมได้สืบว่าพระอลงกต เป็นญาติตนหรือไม่อย่างไร
ขณะที่พ.อ.ประชุม กล่าวว่า เดิมพระใช้ใบสุทธิ ไม่ตัองมีบัตรประจำตัว ส่วนคนที่ลงข้อมูล ไม่แน่ใจว่าเป็นตัวพระเองหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพระอุปัชฌาย์ เป็นผู้ลงข้อมูล
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : วัดพระบาทน้ำพุ แจงยิบข่าวลือ โต้เลข 13 หลัก พระอลงกต นามสกุลพูลมุข ไม่ซ้ำคนอื่นแน่
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th