ผู้ว่าอุดรฯขอแก้แบบ ทางพาดรถไฟทางคู่บ้านจั่น รฟท.ยอมพบกันครึ่งทางยกรางทางคู่ข้าม แต่ยังคงรางเดิมไว้
ผู้ว่าอุดรฯขอแก้แบบ ทางพาดรถไฟทางคู่บ้านจั่น รฟท.ยอมพบกันครึ่งทางยกรางทางคู่ข้าม แต่ยังคงรางเดิมไว้
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 สิงหาคม ที่ห้องประชุม POC ชั้น 4 อาคาร 2 ศาลากลาง จ.อุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าฯอุดรธานี เป็นประธานการหารือเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการ ในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่น-อุดรธานี บริเวณจุดตัดทางรถไฟทางหลวง 216 (แยกบ้านจั่น) อ.เมือง จ.อุดรธานี มีผู้แทนจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำ บ.เทสโก้ จก., บ.เอ็มเอชพีเอ็น. จก. และ บ.เอเชียน เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแต้นท์ จก. ที่ปรึกษาจ้างงานออกแบบรายละเอียด และจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม มาชี้แจงตลอดจนข้อสอบถาม โดยมีหน่วยงานราชการ, อปท.ในพื้นที่, ภาคเอกชน และภาคประชาชน เข้าร่วมประชุม
ที่ประชุมรายงานว่า โครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 ขอนแก่น-หนองคาย ได้ออกแบบและทำรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่ ม.ค.2562, คณะรัฐมนตรีอนุมัติดำเนินการ 16 ต.ค.2567, รฟท.เริ่มก่อสร้าง เม.ย.2568 ที่ผ่านมา โดยเมื่อ 2 ปีก่อน คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) อุดรธานี ขอให้ รฟท.ปรับปรุงแก้ไขรูปแบบ บริเวณจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวงเลข 216 หรือทางพาดรถไฟ บ้านจั่น ซึ่ง รฟท.เห็นด้วยที่จะยกรางรถไฟทางคู่ข้ามทางพาด แต่ยังคงรางรถไฟเดิม เพื่อให้รถไฟไปส่งค้าที่โรงงาน และโกดังใกล้สถานีหนองขอนกว้าง
ที่ปรึกษาได้รับการว่าจ้างเข้ามาศึกษาออกแบบ โดยจุดเริ่มต้นการยกระดับรางจะอยู่บริเวณสถานีจอดบ้านคำกลิ่ง ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ซึ่งเป็นบริเวณใกล้เคียงกับการเริ่มยกระดับรถไฟความเร็วสูง จนมาถึงบริเวรสถานีหนองขอนกว้างราว 5 กม. ทำให้ช่วงนี้ผู้รับจ้างสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 จะชะลอการก่อสร้างบริเวณนี้ได้ เพื่อรอการออกแบบที่มีสัญญาว่าจ้าง 3 ก.ค.2568-29 มี.ค.2569 รวม 270 วัน จึงจะนำไปแก้ไขปรับปรุงสัญญา เพื่อดำเนินการก่อสร้างต่อไป
นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าฯอุดรธานี ได้ขอความคิดเห็นจากที่ประชุม โดยเริ่มจากคำถามของตนเองก่อนว่า “ทำไมการศึกษาออกแบบตอนแรก จึงไม่ยกระดับทางรถไฟข้ามทางพาด และเห็นด้วยกับการแก้ไข แต่ก็อยากเห็นการแก้ไขที่ยั่งยืน คือแก้กันครั้งเดียวไม่ต้องแก้ไขอีก” ได้รับคำตอบจากผู้แทน รฟท.ว่า ในการออกแบบได้มองในมิติของการให้บริการของ รฟท. ที่มีการให้บริการขนส่งทางรางเป็นหลัก และบริเวณนั้นมีคลังสินค้าของเอกชน และได้ใช้บริการของ รฟท.อยู่แล้ว จึงคงให้มีรางรถไฟระดับเดิมไว้ แต่เมื่อภาคประชาชนมาให้ข้อเสนอภายหลัง ก็พิจารณาแล้วเห็นว่าน่าจะแก้ไข
นายชัยฤทธิ์ หรือทนายแม็ค เขาวงศ์ทอง ตัวแทนภาคประชาชนที่เริ่มขับเคลื่อนให้แก้ไข กล่าวขอบคุณ รฟท. ที่ยอมรับฟังความเห็นชาวอุดรธานี ที่เห็นว่ารูปแบบเดิมของรถไฟทางคู่จะอยู่บนดินในระนาบเดิม เพื่อไปส่งสินค้าที่ห่างไปราว 1 กม. ก่อนจะยกระดับขึ้น ขณะที่รถไฟความเร็วสูงจะยกระดับข้ามไป จะส่งผลกระทบการจราจรและวิถีชีวิตประชาชนอย่างรุนแรงและตลอดไป เนื่องจากมีข้อจำกัดหลายประการ และได้แก้ไขให้ยกระดับรางรถไฟทางคู่ขึ้น แต่ยังมีเรื่องฝากไปยัง รฟท.ว่าการออกแบบแก้ไขครั้งนี้ จะทำให้เกิดถนนคู่ขนานทางรถไฟช่วงผ่าน ทน.อุดรธานี ไปพร้อมกัน
จากนั้นที่ประชุมได้มีข้อเสนอให้พิจารณา 1.ยกรางรถไฟข้ามไปทั้งหมดได้หรือไม่ (ไม่เหลือรางของปูน) 2.ทำถนนคู่ขนานทางรถไฟ พร้อมกับทำทางระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำท่วมไปพร้อมกัน เพราะน้ำท่วมใหญ่เมืองอุดรธานี ปี 43, 44 ก็เกิดจากทางรถไฟ 3.ให้สร้างกำแพงป้องกันเสียงไว้เลย เพราะที่ผ่านมาปัญหาเสียง “โอเวอร์พาค 2 แห่ง” ทั้งที่แยกสันตพล ถ.นิตโย และแยกรังสินา ถ.มิตรภาพ กำลังส่งผลกระทบกับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น หากสร้างแล้วจะได้ไม่ต้องมาแก้ไขอีก และ 4.ขอให้เปิดเผยแบบโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 อย่างละเอียด
นายราชันย์ ซุ้นฮั้ว ผู้ว่าฯอุดรธานี กล่าวตอนท้ายว่า ยังไม่เห็นด้วยที่ยังคงรางรถไฟขนส่งสินค้า ไม่ยกข้ามทางพาดรถไฟบ้านจั่น อยากจะให้ข้ามไปทั้งหมดเลย ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนผ่านวันละ 3-4 แสนคน จะได้ไม่ต้องมาชะลอหรือหยุดรถ อยากให้ รฟท.กลับไปคิดทางวิศวกรรมด้วยว่าจะสามารถนำรถขนสินค้าที่ไปส่งโกดังใกล้ๆ วิ่งข้ามไปได้หรือไม่ หากการศึกษาออกแบบมาแล้ว ผลต่อแทนอยู่ที่ 50/50 ก็อยากจะให้รถขนสินค้ายกข้ามไป และยอกรับได้หากจะยังคงรางที่พื้นราบ คือ 73/30 รวมไปถึงเรื่องในอนาคต โรงงานขนาดใหญ่ที่มีโกดังสินค้าตั้งอยู่ในเขต ทน.อุดรธานี น่าจะต้องพิจารณาขยับขยาย เอาที่ดินไปพัฒนาเป็นห้างหรืออย่างอื่นจะดีกว่า ฝาก รฟท.พิจารณาศึกษาเรื่องนี้มาด้วย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผู้ว่าอุดรฯขอแก้แบบ ทางพาดรถไฟทางคู่บ้านจั่น รฟท.ยอมพบกันครึ่งทางยกรางทางคู่ข้าม แต่ยังคงรางเดิมไว้
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th