ทาสหมา-แมวต้องรู้! วิธีขึ้นทะเบียน + เอกสารที่ใช้ ฝังไมโครชิปฟรี
วันที่ 22 ส.ค.2568 ที่ศาลาว่าการกทม. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวแนวทางดำเนินการตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง การควบคุมการเลี้ยงหรือปล่อยสัตว์ พ.ศ. 2567 ซึ่งจะประกาศใช้อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ม.ค.69
โดยสาระสำคัญคือการกำหนดให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมวในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้องนำสัตว์เลี้ยงของตนไปขึ้นทะเบียนและฝังไมโครชิป เพื่อสร้างระบบฐานข้อมูลที่สามารถควบคุม ติดตาม และช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงกรณีพลัดหลงได้ ว่า
เจตนารมณ์ของข้อบัญญัตินี้มุ่งหวังที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของสัตว์เลี้ยง ป้องกันปัญหาการทอดทิ้งสัตว์จนกลายเป็นสัตว์จรจัด และเพื่อสุขอนามัยที่ดีของประชาชนโดยรวม
นอกจากนี้ ข้อบัญญัติยังครอบคลุมถึงการควบคุมจำนวนสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมกับขนาดของพื้นที่ แต่ได้ผ่อนปรนให้สำหรับประชาชนที่เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนที่กำหนดไว้ก่อนวันที่ข้อบัญญัติจะมีผลบังคับใช้ โดยสามารถเลี้ยงสัตว์เหล่านั้นต่อไปได้จนสิ้นอายุขัย เพียงแต่ต้องไปแจ้งเรื่องต่อสำนักงานเขต และห้ามมีการขยายพันธุ์เพิ่ม
ด้าน น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวว่า รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทะเบียนนั้น เจ้าของสามารถนำสุนัขและแมวไปรับบริการฉีดฝังไมโครชิปได้ฟรีที่คลินิกสัตวแพทย์ของ กทม. ทั้ง 8 แห่ง และหน่วยสัตวแพทย์เคลื่อนที่ที่จะหมุนเวียนไปตาม 50 เขต หรือสามารถรับบริการได้ที่สถานพยาบาลสัตว์เอกชน (อาจมีค่าใช้จ่าย)
สำหรับคลินิกสัตวแพทย์ กทม. ที่ให้บริการยื่นคำขอจดทะเบียนและฉีดฝังไมโครชิปฟรี มี 8 แห่ง ดังนี้
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 1 (สี่พระยา) เขตบางรัก โทร. 0-2236-4055 ต่อ 213
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 2 (มีนบุรี) เขตมีนบุรี โทร. 0-2914-5822
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 3 (วัดธาตุทอง) เขตวัฒนา โทร. 0-2392-9278 ต่อ 118
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 4 (บางเขน) เขตจตุจักร โทร. 0-2579-1342 ต่อ 15
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 5 (วัดหงส์รัตนาราม) เขตบางกอกใหญ่ โทร. 0-2472-5895 ต่อ 109
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 6 (ช่วงนุชเนตร) เขตจอมทอง โทร. 0-2476-6493 ต่อ 1104
คลินิกสัตวแพทย์ กทม. 7 (บางกอกน้อย) เขตบางกอกน้อย โทร. 0-2411-2432
กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า เขตดินแดง โทร. 0-2245-3311
เอกสารที่เจ้าของต้องใช้ในการยื่นคำขอจดทะเบียนเพื่อรับบัตรประจำตัวสัตว์ (คลส.3) ที่สำนักงานเขตหรือคลินิกสัตวแพทย์ กทม. ประกอบด้วย
บัตรประชาชนของเจ้าของ
ทะเบียนบ้านที่สัตว์อาศัยอยู่
หนังสือรับรองการฉีดวัคซีน,
หนังสือรับรองการทำหมัน (ถ้ามี)
หนังสือยินยอมจากผู้ให้เช่า (กรณีเป็นผู้เช่า)
หนังสือมอบอำนาจ (หากให้ผู้อื่นดำเนินการแทน)
ทั้งนี้ เจ้าของต้องนำสุนัขและแมวไปฝังไมโครชิปและจดทะเบียนภายใน 120 วันนับตั้งแต่สัตว์เกิด หรือภายใน 30 วันนับแต่วันที่นำสัตว์เข้ามาเลี้ยงในเขตกรุงเทพมหานคร โดยประโยชน์ของการดำเนินการดังกล่าว คือ
ไมโครชิปจะอยู่กับสัตว์ไปตลอดชีวิต ไม่สูญหาย ช่วยเพิ่มโอกาสในการติดตามหาเจ้าของเมื่อสัตว์พลัดหลง, ใช้เป็นเครื่องมือระบุตัวตนกรณีเกิดข้อพิพาท และช่วยป้องกันการทอดทิ้งสัตว์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ด้านพื้นที่และจำนวนการเลี้ยงหมาแมวที่กำหนดไว้ คือ
ห้องเช่าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ขนาด 20-80 ตารางเมตร เลี้ยงได้ 1 ตัว,
ห้องเช่าหรืออาคารชุด (คอนโดมิเนียม) ขนาด 80 ตารางเมตร ขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 2 ตัว
เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 20 ตารางวา เลี้ยงได้ 2 ตัว
เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 50 ตารางวา เลี้ยงได้ 3 ตัว
เนื้อที่ดิน ไม่เกิน 100 ตารางวา เลี้ยงได้ 4 ตัว
เนื้อที่ดิน 100 ตารางวา ขึ้นไป เลี้ยงได้ไม่เกิน 6 ตัว
สำหรับผู้ที่เลี้ยงสัตว์เกินจำนวนที่กำหนดก่อนวันที่ 10 ม.ค.69 จะต้องแจ้งการเลี้ยงสัตว์เกินจำนวนต่อสำนักงานเขตภายใน 90 วัน (ระหว่างวันที่ 10 ม.ค.-9 เม.ย. 2569) ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์เพื่อประกอบกิจการ เช่น ฟาร์ม, คาเฟ่สัตว์ หรือร้านขายสัตว์ จะต้องปฏิบัติตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พ.ศ. 2561
ส่วนสัตว์ประเภทอื่น เช่น สัตว์น้ำ, สัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์ดุร้าย ไม่จำเป็นต้องฝังไมโครชิปและจดทะเบียน แต่เจ้าของยังคงมีหน้าที่ต้องควบคุมการเลี้ยงอย่างเข้มงวด และห้ามปล่อยในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด
ทั้งนี้ การเลี้ยงสัตว์เพื่อจำหน่ายหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน หากเข้าข่ายเป็นกิจการที่อาจก่อให้เกิดเหตุรำคาญหรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพ จะอยู่ภายใต้การควบคุมของ พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 29 กำหนดว่า ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งห้ามประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ มีโทษปรับไม่เกิน 25,000 บาท
และข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครว่าด้วยกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะกำหนดรายละเอียดและควบคุมการเลี้ยงสัตว์ เช่น สัตว์เลี้ยงเพื่อการค้าหรือเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนอย่างละเอียด