ตลาดคาร์บอนเพิ่มเงินทุน 4.9 แสนล้านดอลลาร์ ช่วยชาติเปราะบางสู้โลกร้อน
ไม่มีสิ่งใดที่สะท้อนถึงความเร่งด่วนของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ชัดเจนไปกว่าการมีชีวิตอยู่เพียง 1.5 เมตร เหนือระดับน้ำทะเลที่กำลังสูงขึ้น เช่นเดียวกับประเทศมัลดีฟส์
แต่เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ประเทศกำลังพัฒนาอย่างมัลดีฟส์ และชาติอื่น ๆ ในกลุ่ม Climate Vulnerable Forum (CVF) ที่มี 74 ประเทศ จำเป็นต้องใช้เงินทุน
ประเทศที่เปราะบางที่สุดต้องการเงินทุนประมาณ 490,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปีภายในปี 2030 เพื่อดำเนินกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศ ซึ่งรวมถึงการบรรเทา การปรับตัว และการจัดการความสูญเสียและความเสียหาย อย่างไรก็ตาม การสนับสนุนด้านการเงินเพื่อสภาพภูมิอากาศจากประเทศผู้ปล่อยมลพิษรายใหญ่กลับยังคงไม่เพียงพออย่างมาก
นี่สะท้อนถึงโครงสร้างการเงินโลกที่ล้าสมัยและเมินเฉยต่อผู้ที่อยู่แนวหน้าของวิกฤติสภาพภูมิอากาศ ระบบการเงินโลกจะมีประโยชน์ หากปฏิเสธโอกาสให้ประเทศที่เปราะบางที่สุดสร้างความยืดหยุ่นต่อหายนะทางภูมิอากาศ ขณะที่ประเทศอื่น ๆ ยังคงปล่อยมลพิษคาร์บอนที่ผลักดันให้โลกร้อนขึ้น
ในบริบทนี้ ตลาดคาร์บอนมาร์จึงถือว่ามีศักยภาพในการระดมทุนเร่งด่วนเพื่อสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการลดช่องว่างด้านการเงินและส่งเสริมความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ
ฟอรั่ม Climate Vulnerable Forum และกลุ่มรัฐมนตรีการคลัง Vulnerable 20 (CVF-V20) ยอมรับว่าตลาดคาร์บอนเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่จะสามารถปลดล็อกเงินทุนเพิ่มเติมได้ปีละ 20,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ให้แก่ประเทศ V20 (Vulnerable Twenty Group) คือ กลุ่มความร่วมมือระหว่างประเทศที่เสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งนี้จะช่วยเสริมสร้างความยืดหยุ่นด้านสภาพภูมิอากาศ ลดการสูญเสียทางเศรษฐกิจ และเปิดโอกาสให้ประเทศเหล่านี้เดินหน้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
การขยายคาร์บอนผ่านโครงการที่มีมาตรฐานและความโปร่งใสสูงจะช่วยเพิ่มช่องทางการลงทุนด้านธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศ ลดต้นทุนการดำเนินแผนด้านสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ (Nationally Determined Contributions: NDCs) ลงครึ่งหนึ่ง และสนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาอื่น ๆ
สิ่งนี้จะสร้างรายได้ให้รัฐบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับโครงการที่อิงธรรมชาติ มาตรการบรรเทา และการเสริมความยืดหยุ่น ขณะเดียวกันยังช่วยจัดการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้สอดคล้องกับลำดับความสำคัญของชาติ ผลลัพธ์อาจสร้างอิมแพ็กต์มากกว่าปกติถึง 7 เท่าสำหรับประเทศเจ้าภาพโครงการคาร์บอน
ประเทศ V20 จำนวนมากมีศักยภาพเฉพาะตัวในการลดการปล่อยและกักเก็บคาร์บอน เช่น การอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าเขตร้อนและเขตอบอุ่น ทำให้ประเทศเหล่านี้เหมาะสมต่อการเป็นเจ้าภาพโครงการคาร์บอนที่ทรงพลัง ซึ่งช่วยบรรลุทั้งเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศภายในประเทศและระดับนานาชาติ
อย่างไรก็ตาม ประเทศเหล่านี้ที่มีศักยภาพสูงสุดในการใช้ประโยชน์จากคาร์บอนมาร์เก็ตกลับไม่สามารถเข้าถึงการเงินคาร์บอนได้เต็มที่ เนื่องจากขาดความรู้เฉพาะทาง รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานตลาดที่เหมาะสม เช่น กฎหมายและระเบียบที่สอดคล้อง
อุปสรรคเหล่านี้ทำให้ตลาดเกิดใหม่และเศรษฐกิจกำลังพัฒนาไม่สามารถใช้ตลาดคาร์บอนเพื่อขับเคลื่อนการลดคาร์บอนและสร้างเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นต่อสภาพภูมิอากาศ พร้อมไปกับการเดินหน้าตามลำดับความสำคัญด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่ตลาดคาร์บอนจะถูกนำมาใช้หาประโยชน์จากประเทศกำลังพัฒนา และเพื่อเพิ่มศักยภาพของผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศและประโยชน์ด้านการพัฒนา ประเทศที่เปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศต้องได้รับอำนาจในการตัดสินใจอย่างรอบรู้และมีอธิปไตยในการเข้าร่วมและบริหารจัดการคาร์บอนมาร์เก็ต
เหตุนี้ CVF–V20 จึงได้ร่วมมือกับ Voluntary Carbon Markets Integrity Initiative (VCMI) องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ เพื่อช่วยให้ประเทศกำลังพัฒนาบูรณาการการเข้าถึงคาร์บอนมาร์เก็ตเข้าสู่แผน Climate Prosperity แผนเหล่านี้เป็นกลยุทธ์แห่งชาติหลายระยะในการลงทุนและเข้าถึงเทคโนโลยี เพื่อสนับสนุนให้ประเทศที่เปราะบางสามารถเปลี่ยนความเสี่ยงด้านสภาพภูมิอากาศให้กลายเป็นโอกาสที่สามารถลงทุนได้
ความร่วมมือนี้ CVF–V20 จะใช้ชุดเครื่องมือใหม่ของ VCMI เกี่ยวกับการเข้าถึงตลาดคาร์บอน เพื่อช่วยสมาชิกประเมินและกำหนดทิศทางการมีส่วนร่วมกับตลาดคาร์บอนหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่ตลาดภาคสมัครใจ ไปจนถึงตลาดที่จัดตั้งขึ้นภายใต้มาตรา 6 ของความตกลงปารีส
อ้างอิงจากประสบการณ์จากโครงการ Access Strategies Programme ของ VCMI เครื่องมือนี้จะมอบคู่มือเชิงปฏิบัติแบบทีละขั้นตอนแก่ประเทศ V20 สำหรับการตัดสินใจสำคัญ เช่น วิธีการจัดการประเด็นทางกฎหมายและสถาบัน รวมถึงการเป็นเจ้าภาพโครงการคาร์บอนที่มีความโปร่งใสสูงซึ่งสร้างประโยชน์ที่จับต้องได้
ตั้งแต่ปี 2021 โครงการ Access Strategies Programme ของ องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ VCMI ได้ช่วยประเทศต่าง ๆ สร้างกรอบการดำเนินงานและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับการสร้างและขายคาร์บอนเครดิตคุณภาพสูงที่ตรงกับความต้องการ ตัวอย่างเช่น ได้พัฒนาแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับตลาดคาร์บอนในรัฐยูกาตันของเม็กซิโก เพื่อจัดการกับความกังวลเกี่ยวกับการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรมต่อชุมชนท้องถิ่น และสร้างเครื่องมือ Decision Matrix ให้แก่รัฐบาลเบนิน ซึ่งระบุช่องว่างการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศมูลค่า 11,300 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
โครงการเช่นนี้ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากจนถึงปัจจุบัน ประชาคมระหว่างประเทศยังคงให้การสนับสนุนประเทศที่เปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศไม่เพียงพอในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ขณะที่เรียกร้องให้มีการปฏิรูปโครงสร้างการเงินโลก ประเทศเหล่านี้ก็กำลังเสริมสร้างขีดความสามารถภายในประเทศเพื่อปลดล็อกเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการลงทุนด้านสภาพภูมิอากาศ การพัฒนา และธรรมชาติ ประเทศเปราะบางต่อสภาพภูมิอากาศกำลังทำงานร่วมกับพันธมิตรอย่าง องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรระหว่างประเทศที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อสร้างความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือให้กับตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจ VCMI เพื่อหาทางออกที่สามารถตอบสนองต่อความเร่งด่วนและขนาดของความท้าทายที่เผชิญ
อ้างอิงข้อมูล
- aljazeera