ตร.อุตรดิตถ์ บูรณาการร่วม ตม. จับกุมชาวไทใหญ่พร้อมชาวเมียนมา รวม 49 คน
ตร.อุตรดิตถ์ บูรณาการร่วม ตม. จับกุมชาวไทใหญ่พร้อมชาวเมียนมา รวม 49 คน หนีเข้าเมือง มากับรถไฟหวังเป็นลูกจ้างแรงงานในไทย
(22 ส.ค. 2568) ที่สถานีตำรวจภูธรพิชัย อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ พ.ต.อ.โยธิน ยากองโค ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพิชัย, พ.ต.ท.ชาตรี เครือเถา สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนและเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจภูธรพิชัย นำตัวบุคคลที่ราบสูง สัญชาติพม่า 2 คน พร้อมชาวพม่าชาย-หญิงอีก จำนวน 47 คน รวมทั้งหมด 49 คน ออกจากห้องควบคุมตัวสถานีตำรวจภูธรพิชัย พร้อมสัมภาระกระเป๋าเสื้อผ้า ขึ้นรถตู้ จำนวน 5 คัน เป็นชาวต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง เพื่อนำตัวผลักดันออกนอกประเทศไทย ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองประจำแม่สาย จ.เชียราย ให้กับด่านตรวจคนเข้าเมืองประเทศพม่า
ทั้งนี้ สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.ไกรสิทธิ์ พรหมปฏิมา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองอุตรดิตถ์ ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า มีบุคคลต่างด้าวจำนวนหลายคน หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมายมากับขบวนรถไฟขบวนที่ 14 ตู้ที่ 7-8 จากจังหวัดเชียงใหม่ จึงเดินทางตรวจสอบที่สถานีรถไฟศิลาอาสน์ แต่รถไฟได้ออกจากสถานีรถไฟศิลาอาสน์แล้ว จึงประสานงานแจ้งให้ พ.ต.อ.โยธิน ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรพิชัย และ พ.ต.อ.จิรกฤต ทองจินดา หัวหน้าศูนย์ควบคุมขบวนรถไฟสายเหนือรับทราบ พร้อมนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรพิชัยและเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ เข้าตรวจสอบบุคคลที่ราบสูงไทใหญ่ สัญชาติพม่าพร้อมชาวพม่าชาย-หญิงอีก รวมจำนวน 49 คน ตามที่ได้รับแจ้ง
โดยประสานงานกับทางหัวหน้าสถานีรถไฟบ้านดารา อ.พิชัย แจ้งให้หยุดรถไฟขบวนที่ 14 เชียงใหม่-กรุงเทพอภิวัฒน์ และเข้าตรวจค้นพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติพม่าในรถตู้ที่ 7 และ 8 ตามที่ได้รับแจ้งมาจริง จึงเชิญตัวบุคคลต่างด้าวทั้งหมดลงจากรถไฟ ตรวจสอบไม่พบหนังสือเดินพาสปอร์ตเอกสารที่รับรองสัญชาติของผู้ถือ และเป็นเอกสารแสดงตน (identity) ของผู้ถือ ซึ่งออกให้โดยรัฐบาลของแต่ละประเทศสำหรับใช้เดินทางระหว่างประเทศ จึงควบคุมชาวต่างด้าวสัญชาติพม่าทั้งหมดมาที่สถานีตำรวจภูธรพิชัย
จากการสอบปากคำ Mr. SAI SAM LAW อายุ 21 ปี บุคคลที่ราบสูง และ Mr. RUWAY TIMORSO อายุ 37 ปี ชาวพม่า ให้ปากคำว่ามีชาวไทใหญ่ สัญชาติเมียนมา จำนวน 2 คน ชาวพม่าหรือเมียนมา อีก 47 คน รวมทั้งหมด 49 คน มีอายุตั้งแต่ 17 ปี ถึง 45 ปี หลบหนีเข้ามายังประเทศไทย โดยตีตั๋วรถไฟขึ้นจากสถานีเชียงใหม่ ปลายทางกรุงเทพอภิวัฒน์ หวังเป็นลูกจ้างแรงงานในประเทศไทย และได้นัดพบตัวแทนรับจ้างแรงงาน สถานที่แห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เพื่อนำบุคคลทั้งหมดไปเป็นลูกจ้างแต่มาถูกจับได้เสียก่อน สำหรับตั๋วรถไฟนั้นได้แจ้งชื่อเป็นรายบุคคล โดยมีนายหน้าเป็นผู้ประสานนำตั๋วรถไฟมาให้กับทุกคนก่อนขึ้นรถไฟ เมื่อถึงสถานีที่กรุงเทพแล้ว ก็จะมีคนมารับไปทั้งหมดโดยที่ไม่ทราบว่าคนที่มารับนั้นเป็นใคร
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรพิชัย พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อนำตัวบุคคลชาวต่างด้าวทั้งหมด ผลักดันออกจากประเทศไทย