เก่ง ธชย เผยสิ่งที่ทำให้ตกใจ หลังเคยเข้าไปช่วยเหลือวัดพระบาทน้ำพุ วอน หลวงพ่อลงกต รีบชี้แจง
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ รายการ โหนกระแส ยังคงนำเสนอความคืบหน้ากรณีวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ซึ่งถูกตั้งคำถามจากสาธารณชน หลังจากกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบการดูแลผู้ป่วยและการเก็บศพภายในวัด โดยพบร่างผู้ติดเชื้อเอชไอวีจำนวนกว่า 20 ชีวิต ที่ถูกฉีดฟอร์มาลีนแล้วปล่อยให้แห้ง วางไว้บนเตียงโดยมีกรงครอบไว้ มีเจตนาเพื่อใช้เป็นธรรมสังเวชแก่ผู้มาเยือน แต่ไม่ได้ดำเนินการขออนุญาตเก็บศพตามกฎหมาย
รายการดังกล่าวเชิญผู้เชี่ยวชาญหลากหลายด้านมาร่วมพูดคุย เช่น รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี (หมอหมู) ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์, ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา (มหาหมี) จากมูลนิธิกองทัพธรรม และศิลปินที่เคยร่วมทำบุญกับวัดอย่าง เก่ง ธชย ที่ออกมาเล่าประสบการณ์ตรง
เก่ง ธชย ระบุว่า ตนเคยศรัทธาในหลวงพ่ออลงกต ทั้งเคยโอนเงินบริจาค และไปมอบเงินทำบุญด้วยตนเอง รวมถึงเคยมีแผนจัดคอนเสิร์ตการกุศลร่วมกับ โจ หลุยส์ เพื่อช่วยเหลือวัด แต่ต้องยกเลิกเพราะโควิด-19 โดยเมื่อได้ลงพื้นที่วัดครั้งนั้น ยอมรับว่าตกใจกับขนาดพื้นที่วัดและทรัพย์สินที่ดูมากกว่าที่เข้าใจไว้
เขาเผยว่าแม้จะเคารพหลวงพ่อ แต่รู้สึกผิดหวังจากประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น พร้อมเรียกร้องให้หลวงพ่อออกมาชี้แจงต่อสังคมโดยตรง โดยกล่าวว่า
อยากให้หลวงพ่อออกมาเคลียร์ ผมงงว่าทำไมหลวงพ่อไม่ออกมาพูด
ในรายการ หมอหมูและมหาหมีได้อธิบายว่า ศพทุกศพต้องมี ใบมรณบัตร ที่ออกโดยหน่วยงานรัฐตามขั้นตอนกฎหมาย โดยต้องมีใบรับรองการตายจากแพทย์ และเอกสารแสดงตนของผู้ตายและผู้แจ้งตาย หากวัดไม่มีเอกสารเหล่านี้ ก็ถือว่าผิดกฎหมาย แม้มีเจตนาดี
นอกจากนี้ การเก็บศพโดยไม่ปิดมิดชิด มีความเสี่ยงต่อการระเหยของสารฟอร์มาลีน และอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ใกล้ หากไม่มีมาตรการควบคุมที่รัดกุม
ต่อมา มีรายงานว่าที่ โครงการธรรมรักษ์นิเวช 2 ใน อ.หนองม่วง จ.ลพบุรี ยังพบศพผู้เสียชีวิตอีก 9 ร่างถูกเก็บในลักษณะเดียวกัน พร้อมกับการตรวจพบถุงเถ้ากระดูกจากการฌาปนกิจแล้วกว่าหมื่นถุง ที่จัดเก็บรวมกันมาตั้งแต่ก่อตั้งวัด
หมอหมูและมหาหมีชี้แจงว่า การเก็บเถ้ากระดูกไม่ผิดกฎหมาย หากมีการลงบัญชีรายชื่อชัดเจน แต่ร่างที่ยังไม่ได้ฌาปนกิจ หากไม่มีการขออนุญาตตาม พ.ร.บ. สุสานและฌาปนสถาน ก็ถือว่ามีความผิด มีโทษปรับศพละ 2,000 บาท
ล่าสุดทางวัดเปิดเผยว่าสามารถเปิดตู้เก็บเอกสารสำคัญได้แล้ว เอกสารเป็นกระดาษเก็บมานานหลายสิบปีและกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบจับคู่กับร่างผู้เสียชีวิตเพื่อใช้ยืนยันตัวตน ก่อนดำเนินการฌาปนกิจต่อไป
ขณะเดียวกัน ทางเทศบาลตำบลเขาสามยอดและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลพบุรี ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่เก็บศพ และใช้เทปกั้นพื้นที่ พร้อมกำหนดฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์อัตลักษณ์