กรมประมงเปิดเวทีระดมสมองจัดทำ “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด”
กรมประมงเปิดเวทีกำหนดทิศทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดของไทย ในงานสัมมนาการ “จัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดระยะ 5 ปี
นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ได้มอบหมายให้ นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง เป็นประธานการเปิดงาน “แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด” ระยะ 5 ปีระหว่างวันที่ 27–28 สิงหาคม 2568 ณ โรงแรมเดอะเฮอริเทจ เชียงราย โฮเทล แอนด์ คอนเวนชั่น จังหวัดเชียงราย โดยมีนักวิจัย ผู้เชี่ยวชาญ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกว่า 150 คน
นางฐิติพร หลาวประเสริฐ รองอธิบดีกรมประมง กล่าวว่า การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดถือเป็นอีกอาชีพทางเลือกสำคัญของเกษตรกรไทย โดยจากข้อมูลสถิติการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด เมื่อปี 2567 พบว่า ประเทศไทยมีพื้นที่เพาะเลี้ยงรวมกว่า 847,884 ไร่ มีจำนวนฟาร์มทั้งสิ้น 523,255 ฟาร์ม ส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงในบ่อร้อยละ 98.19 รองลงมา คือ เลี้ยงในร่องสวน ร้อยละ 1.29 การเลี้ยงในกระชัง ร้อยละ 0.14 และเลี้ยงในนา ร้อยละ 0.37 โดยมีผลผลิตรวมกว่า 468,374 ตัน คิดเป็นมูลค่าถึง 30,083 ล้านบาท ซึ่งสัตว์น้ำที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ปลานิล ปลาดุก กุ้งก้ามกราม ปลาตะเพียน ปลาสวาย ปลาเบญจพรรณ ปลาสลิด และปลาช่อน เป็นต้น ซึ่งที่ผ่านมา กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มุ่งส่งเสริมการพัฒนาอาชีพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งการเพาะพันธุ์ การอนุบาล การเลี้ยง และการจำหน่าย เพื่อยกระดับสินค้าสัตว์น้ำของไทยให้มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐานรองรับความต้องการของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มโอกาสทางการแข่งขันในตลาดโลก พร้อมสร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร สามารถประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน
นางฐิติพร กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการงานวิจัยและนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2571–2575) นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดของไทยตลอดห่วงโซ่การผลิต ทั้งสัตว์น้ำจืดชนิดหลักซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมให้มีศักยภาพสูงขึ้น รวมถึงการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนากระบวนการผลิตสัตว์น้ำจืดชนิดที่มีแนวโน้มที่จะเป็นสัตว์น้ำที่เศรษฐกิจชนิดใหม่ ผ่านการระดมสมอง แลกเปลี่ยนความรู้ และประสบการณ์ระหว่างนักวิจัยรุ่นใหม่กับผู้เชี่ยวชาญที่มากด้วยประสบการณ์ เพื่อร่วมกันกำหนดทิศทางงานวิจัยด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดในอนาคต ที่มุ่งเน้นการพัฒนาความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง
นางฐิติพร กล่าวอีกว่า นักวิจัยสามารถใช้เป็นแนวทางในการวางแผนดำเนินการวิจัยให้เกิดประโยชน์สูงสุดตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นไปในทิศทางเดียวกันทั้งระบบ ทั้งนี้ ภายในงานสัมมนา ยังมีการบรรยายพิเศษ ในหัวข้อ แนวทางและขั้นตอนการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านงานวิจัยและนวัตกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด โดย นายบุญส่ง ศรีเจริญธรรม ที่ปรึกษากรมประมงและอดีตผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจัดการประมง และการเสวนาเรื่อง แนวทางการพัฒนางานวิจัยเพื่อการเพาะเลี้ยงในอนาคต โดย ผู้ทรงคุณวุฒิในแวดวงการประมง อีกด้วย
รองอธิบดีกรมประมง กล่าวด้วยว่า กรมประมงเชื่อมั่นว่า การจัดทำ (ร่าง) แผนปฏิบัติการวิจัยและนวัตกรรมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2571–2575) จะเป็นกรอบในการกำหนดทิศทางงานวิจัย สำหรับนำมาใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดที่ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรในอนาคต และเป็นเครื่องมือสำคัญ ในการยกระดับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดของไทยให้มีศักยภาพในการแข่งขัน พร้อมขับเคลื่อนภาคประมงไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO