‘ราชทัณฑ์’ แจงย้าย ‘ลุงพล’ ขังเรือนจำกลางนครพนม ชี้โทษสูงเกิน 20 ปี
“ราชทัณฑ์” ย้าย “ลุงพล” ขังเรือนจำกลางนครพนม แทนเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เหตุ โทษสูงเกิน 20 ปี แม้ย้ายที่คุมขัง แต่ลุงพลยังไม่มีอาการเครียด ให้ความร่วมมือผู้คุมเป็นอย่างดี ส่วนญาติสามารถเยี่ยมได้ พุธ 20 ส.ค.
15 สิงหาคม 2568 - จากกรณีวันที่ 13 ส.ค. ศาลจังหวัดมุกดาหารได้นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 4 โดยพิพากษานายไชย์พล วิภา หรือลุงพล (จำเลยที่ 1) ทั้งหมด 3 ข้อหา คือ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเล็งเห็นผล จำคุก 15 ปี พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดา จำคุก 10 ปี และกระทำการใด ๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น จำคุก 1 ปี รวมจำคุกทั้งหมด 26 ปี ขณะที่ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือป้าเเต๋น (จำเลยที่ 2) พิพากษายกฟ้อง ต่อมาในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ควบคุมตัวนายไชย์พล ไปยังเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากศาลฎีกาอยู่ระหว่างพิจารณาคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากเมื่อวันที่ 14 ส.ค. ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิจารณาการยื่นประกันตัว นายไชย์พล จำเลยที่ 1 แล้วมีคำสั่งไม่อนุญาตให้ประกันตัว ต่อมาเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ได้เตรียมนำตัวย้ายไปเรือนจำกลางนครพนม เนื่องจากโทษจำคุกสูงกว่าอำนาจการคุมขังที่เรือนจำจังหวัดมุกดาหาร ซึ่งมีอำนาจคุมขังไม่เกิน 20 ปี โดยในวันนี้ เมื่อเวลา 10.30 น.ที่ผ่านมา เรือนจำกลางนครพนม ได้รับตัวนายไชย์พล ซึ่งย้ายมาจากเรือนจำจังหวัดมุกดาหาร อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนแรกรับเข้าเรือนจำฯ เจ้าหน้าที่พบว่าเจ้าตัวไม่ได้แสดงอาการเครียดแต่อย่างใด และให้ความร่วมมือในการตรวจค้น ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี และไม่มีการร้องขออะไรเป็นพิเศษ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงระเบียบ ข้อบังคับ การปฏิบัติตัวในการดำเนินชีวิตภายในเรือนจำฯ ซึ่งนายไชย์พล ไม่มีข้อสงสัยแต่อย่างใด
รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า จากนั้นเรือนจำฯ ได้นำตัวไปแยกกักโรคโควิด-19 เป็นเวลา 5 วัน โดยระหว่างกักโรค ยังสามารถพบทนายความได้ ส่วนญาติสามารถมาเยี่ยมที่เรือนจำได้ ตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. ซึ่งพ้นระยะกักโรคแล้ว และหลังจากครบกำหนดกักโรค จะนำตัวไปคุมขังที่แดนความมั่นคงสูงต่อไป ส่วนอาหารมื้อแรกที่เรือนจำจัดให้ เป็นเมนูข้าวต้มหมู ซึ่งรับประทานได้ปกติ