โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

‘พริษฐ์’ หั่นงบ ‘หลักสูตร บยส.’ 16 ล้าน อบรมศาลเลิกสร้างระบบอุปถัมภ์

ไทยโพสต์

อัพเดต 16 สิงหาคม 2568 เวลา 3.35 น. • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

'พริษฐ์' ชงหั่นงบ 'หลักสูตร บยส.' ของ ศาลยุติธรรม 16 ล้าน เหตุ สุ่มเสี่ยงสร้างระบบอุปถัมภ์-กระทบความเป็นอิสระศาล

15 สิงหาคม 2568 - เวลา 18.10 น. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มาตรา 31 หน่วยงานของศาล นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายขอปรับลดในส่วนของโครงการหลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.) ว่า ที่ผ่านมาหลักสูตรการฝึกอบรมของหน่วยงานรัฐมักถูกวิจารณ์ว่า สุ่มเสี่ยงก่อให้เกิดระบบอุปถัมภ์มากกว่าเดิม เนื่องจากหลักสูตรส่วนใหญ่มักมีผู้เข้าร่วมเรียนที่มาจากองค์กรที่ควรทำหน้าที่ตรวจสอบกันและกัน เช่น การมีทั้งนักการเมืองและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมาเรียนร่วมกัน หรือมีผู้เข้าเรียนจากองค์กรที่เสี่ยงเอื้อประโยชน์ให้แก่กันและกัน เช่น บริษัทผู้รับเหมากับหน่วยงานรัฐที่เป็นเจ้าของโครงการ เป็นต้น

นายพริษฐ์ ระบุว่า หนึ่งในหลักสูตรที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก คือหลักสูตร บยส. ของศาลยุติธรรม ที่ปีนี้มีการขอรับงบประมาณมาอยู่ที่ 16 ล้านบาท ซึ่งตนจำเป็นต้องสงวนความเห็นและทักท้วงการจัดสรรงบประมาณและตัวหลักสูตรดังกล่าว เนื่องจากสถาบันตุลาการเป็นองค์กรที่ประชาชนคาดหวังให้ทำหน้าที่อย่างเที่ยงตรง เป็นอิสระ และปราศจากอคติ การที่ผู้เรียนซึ่งเป็นผู้พิพากษาจะพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้เรียนที่เป็นบุคคลภายนอก แม้จะไม่ได้เป็นความผิดในตัวเอง แต่ความเสี่ยงจะเกิดขึ้นทันทีหากผู้เรียนที่เป็นบุคคลภายนอกในอนาคตกลายเป็นคู่ความในคดีที่ผู้พิพากษาที่เรียนร่วมกันเป็นผู้พิพากษาในคดีดังกล่าว

นอกจากนี้ สถาบันตุลาการเป็นองค์กรที่จำเป็นต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของตนเองในสายตาสังคม ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพียงแค่ว่าผู้พิพากษาปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงและเที่ยงธรรมหรือไม่ แต่ยังขึ้นกับว่าประชาชนมีความเชื่อมั่นหรือไม่ หรือขึ้นกับว่า ผู้พิพากษาถูกมองว่าปฏิบัติหน้าที่อย่างเที่ยงตรงและเที่ยงธรรมด้วยหรือไม่ หากภาพลักษณ์ดังกล่าวจะถูกกระทบจากหลักสูตรเหล่านี้ ก็ย่อมทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมถูกกระทบตามไปด้วย

หากประโยชน์ที่ผู้ร่วมเรียนและสังคมจะได้รับจากหลักสูตรเหล่านี้ เป็นที่วัดผลได้ยาก หรือไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับความเสี่ยงต่อความเป็นอิสระและภาพลักษณ์ความเป็นอิสระของผู้พิพากษา การเดินหน้าหลักสูตรเช่นนี้อาจจะเป็นการได้ไม่คุ้มเสีย

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ปัญหานี้ไม่ได้เป็นปัญหาที่ถูกตั้งคำถามจากคนนอกสถาบันตุลาการเท่านั้น แต่ยังเป็นปัญหาที่ผู้พิพากษาบางส่วนเองก็มีความกังวลเช่นกัน เมื่อเดือนมกราคม 2568 มีผู้พิพากษาศาลฎีกา 2 ท่านได้ทำหนังสือถึงประธานศาลฎีกา เรียกร้องให้มีการยกเลิกหลักสูตร บยส. รวมถึงเรียกร้องให้มีการกำหนดไม่ให้ผู้พิพากษาเข้าร่วมอบรมหลักสูตรของหน่วยงานอื่นที่มีลักษณะคล้ายกัน ต่อมาเมื่อเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 2568 มีการทำแบบสำรวจผู้พิพากษา มีผู้มาตอบแบบสอบถาม 1455 คน ซึ่ง 87% ของผู้ตอบเห็นว่าหลักสูตร บยส. นั้นกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้พิพากษา และ 82% เห็นว่าสมควรที่จะยกเลิกหลักสูตร บยส.

ดังนั้น ตนจึงเสนอให้สภาผู้แทนราษฎรปรับลดงบประมาณในส่วนของหลักสูตร บยส. โดยอาจพิจารณาได้สองแนวทาง คือ การตัดลดงบประมาณออกทั้งหมด 16 ล้านบาท เพื่อนำไปสู่การยกเลิกหลักสูตร บยส. ในปีนี้

หรือหากยังเห็นความจำเป็นในการมีอยู่ของหลักสูตร บยส. ตนก็เสนอให้พิจารณาปรับลดงบประมาณของหลักสูตรออกบางส่วน เพื่อปรับรูปแบบของหลักสูตรให้ใช้งบประมาณน้อยลง และลดความเสี่ยงต่อความเป็นอิสระของผู้พิพากษาให้เหลือน้อยที่สุด เช่น อาจปรับรูปแบบการจัดการเรียนการสอนให้เป็นออนไลน์มากขึ้น เพื่อลดกิจกรรมสันทนาการระหว่างผู้ร่วมเรียน หรือเปลี่ยนจากหลักสูตรที่รับผู้เข้าเรียนเป็นรุ่นมาเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามหัวข้อและผู้เข้าร่วมเป็นครั้งตามความเหมาะสม

นอกจากนั้น ยังอาจพิจารณาปรับเรื่ององค์ประกอบของผู้เรียน โดยแยกชัดเจนระหว่างกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นผู้พิพากษาจากภายในองค์กรกับกิจกรรมที่ผู้เรียนเป็นบุคคลภายนอก หรือการเพิ่มความโปร่งใสเกี่ยวกับประโยชน์ที่สังคมจะได้รับจากหลักสูตรนี้ เช่น การเผยแพร่คลิปการสอนจากหลักสูตร บยส. หรือการลดความเสี่ยงต่อความเป็นอิสระของผู้พิพากษาหลังจากเรียนหลักสูตรนี้จบไป เช่น การจัดเก็บฐานข้อมูลผู้เรียนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้พิพากษาคนใดได้ปฏิบัติหน้าที่ในคดีความที่เกี่ยวข้องกับผู้ที่เคยเรียนร่วมกัน

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ตนเข้าใจดีว่า นอกเหนือจากหลักสูตร บยส. ประเทศไทยยังมีอีกหลายหลักสูตรของหน่วยงานอื่นที่มีปัญหาในลักษณะเดียวกัน ซึ่งตนก็มีจุดยืนเดียว แต่เมื่อหลักสูตร บยส. เป็นหลักสูตรที่ตนเคยได้มีโอกาสหารือกับผู้บริหารหลักสูตรโดยตรง ไม่ว่าจะในคณะกรรมาธิการงบประมาณ หรือคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง และในเมื่อหลักสูตรนี้เป็นหลักสูตรที่มีการเรียกร้องจากภายในองค์กรให้มีการยกเลิกหรือทบทวนหลักสูตรอย่างชัดเจน

สุดท้าย ตนจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า หากศาลยุติธรรมจะลุกขึ้นมาเป็นผู้นำในการแก้ไข ปัญหาเรื่องของระบบอุปถัมภ์ในประเทศไทย โดยการยกเลิกหรือทบทวนหลักสูตรดังกล่าว ตนเชื่อว่าความกล้าหาญของผู้บริหารศาลยุติธรรมนั้นจะได้รับความชื่นชมจากหลายภาคส่วนในสังคม และจะสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้บริหารของหน่วยงานอื่นที่มีการจัดหลักสูตรในลักษณะคล้ายๆ กัน เดินตามความกล้าหาญของศาลยุติธรรมเช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

‘ราชทัณฑ์’ แจงย้าย ‘ลุงพล’ ขังเรือนจำกลางนครพนม ชี้โทษสูงเกิน 20 ปี

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ปส.ลาก ร.ต.ท.-ส.ต.อ. สืบเมืองปทุม พัวพันฟอกเงินเครือข่ายยานรก 35 ล้าน

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

‘ธัญธร’พรรคประชาชนฉะ’สตง.’ตึกพันล้านถล่มยังไร้คำอธิบายแต่จะของบสร้างเพิ่ม 10 จังหวัด 750 ล้านบาท

เดลินิวส์

รัฐบาลมอบรางวัลประกวดภาพยนตร์สั้น “ความเป็นไทย” จุดประกายเยาวชนสืบสานเอกลักษณ์ชาติ

สยามรัฐ

”ศิริกัญญา“ ตั้งข้อสังเกต ขรก.ในพระองค์ได้งบเพิ่ม 800 ล้าน สูงเป็นอันดับที่ 5

THE ROOM 44 CHANNEL

กองทัพบกย้ำ! ข่าวจับ-ทรมานทหารกัมพูชาเป็นข่าวปลอม

สยามรัฐ

“ธิษะณา” จวก ป.ป.ช. ใช้งบเช่ารถหรูเฉลี่ย 5.5 ล้าน/คัน

THE ROOM 44 CHANNEL

“ภัณฑิล” แฉ รัฐสภาใช้งบฟุ่มเฟือย จี้ลดโครงการหรูไร้เหตุผล

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม