ก.สาธารณสุข เปิดตัวโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" ส่งเสริมพัฒนาการเด็กไทยอย่างรอบด้าน ตั้งแต่แรกเกิด
ก.สาธารณสุข เปิดตัวโครงการ "เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด" ส่งเสริมพัฒนาการเด็กไทยอย่างรอบด้าน ตั้งแต่แรกเกิด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดโครงการ “เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด” พร้อมด้วย นายแพทย์พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี Mr. Mark Landry รักษาการผู้แทนองค์การอนามัยโลก (WHO) ประจำประเทศไทย นางนภัทร พิศาลบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย องค์การยูนิเซฟ ประเทศไทยผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกรมอนามัย ร่วมงาน ณ บริเวณโถงชั้นล่าง อาคาร 3 ชั้น 1 สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข จังหวัดนนทบุรี
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังเผชิญกับอัตราการเกิดที่ลดลง และความท้าทายเรื่องคุณภาพของประชากร การลงทุนในช่วงปฐมวัย โดยเฉพาะในช่วง 1,000 วันแรกของชีวิต หรือ "ช่วงเวลาทอง" ที่สมองมีพัฒนาการสูงสุด กระทรวงสาธารณสุขเห็นถึงความสำคัญด้านโภชนาการเด็กและแม่ จึงควรได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อศักยภาพการเรียนรู้ในระยะยาว พร้อมทั้งแนะนำอาหารตามวัยที่มีธาตุเหล็กสูง รวมถึงการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบว่าเด็กเล็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป สามารถรับยาน้ำเสริมธาตุเหล็กและเข้ารับการคัดกรองภาวะโลหิตจางได้ฟรี ณ โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน
แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า การสร้างเด็กที่เติบโตอย่างมีศักยภาพตั้งแต่แรกเกิด พ่อแม่ ควรเข้าใจ ใส่ใจ และให้เวลาคุณภาพกับลูกอย่างสม่ำเสมอ ดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี ให้ลูกได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน โดยเฉพาะธาตุเหล็ก สร้างรากฐานที่แข็งแกร่งด้วยการเล่นและการปฏิสัมพันธ์ที่ดีเชิงบวกกับลูก โดยเฉพาะช่วงก่อนนอน ควรอ่านนิทานด้วยกัน เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เล็ก และลดการใช้หน้าจอให้น้อยที่สุด สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยเติบโตอย่างสมบูรณ์ เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ และเป็นกำลังสำคัญ ในการพัฒนาประเทศไทยต่อไป โดยกรมอนามัยได้ริเริ่มและขับเคลื่อนโครงการ “เด็กฉลาดสร้างได้ตั้งแต่แรกเกิด” อย่างเป็นรูปธรรม ครอบคลุมทั้งการส่งเสริมโภชนาการ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และการส่งเสริมพัฒนาการสมวัย และการพัฒนาการอ่าน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาสมองและทักษะชีวิตของเด็ก และเป็นสิ่งที่ครอบครัวไทยควรปฏิบัติ เพราะจะเป็นผลลัพธ์ที่ดีต่ออนาคตของชาติ
ดร.นายแพทย์ปองพล วรปาณิ รองอธิบดีกรมอนามัย ยังได้เน้นย้ำประเด็นด้านโภชนาการว่า อาหารมื้อแรกของชีวิตควรเริ่มเลยที่ 6 เดือนด้วยเมนูอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ข้าวผสมตับบด เนื้อสัตว์บด หรือไข่แดงบด เพื่อให้ได้รับสารอาหารครบถ้วน หลีกเลี่ยงการให้เพียงแค่กล้วยบดหรือข้าวบดผสมนมแม่เพียงอย่างเดียว เนื่องจากสารอาหารจะไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโต และควรเพิ่มความหลากหลายของอาหารด้วยผักใบเขียวเข้ม เช่น ตำลึง บรอกโคลี และผักโขม นอกจากนี้ เด็กช่วงอายุ 6 เดือนถึง 5 ปี ควรได้รับยาน้ำเสริมธาตุเหล็กสัปดาห์ละครั้ง
เพื่อป้องกันภาวะโลหิตจาง รวมถึงเด็กช่วงอายุ 6-12 เดือน และ 3-5 ปี สามารถเข้ารับการคัดกรองภาวะโลหิตจางได้ฟรี ตามชุดสิทธิประโยชน์ของ สปสช. ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพระดับตำบล (รพ.สต.) รวมถึงโรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน นอกจากนี้ กิจกรรมในวันนี้ยังประกอบด้วยนิทรรศการอีก 4 ส่วนหลัก ได้แก่ เริ่มที่แม่ ฉลาดที่ลูก, เด็กฉลาดด้วยธาตุเหล็ก, สร้างรากฐาน พัฒนาการเป็นเลิศ และ อ่านแต่เล็ก เด็กฉลาด รวมถึงกิจกรรมสาธิตต่าง ๆ สะท้อนแนวคิดของการลงทุนในช่วงปฐมวัย