รวบหนุ่มแสบตุ๋นขายบ้าน หนีคดีเกือบ 5 ปี เหยื่อช้ำเสียเงินดาวน์-ไร้ที่อยู่
รวบหนุ่มแสบตุ๋นขายบ้าน หนีคดีเกือบ 5 ปี เหยื่อช้ำเสียเงินดาวน์-ไร้ที่อยู่
กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม กก.3 บก.ปอศ. ร่วมกันจับกุม นายวัด (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 3 หมายจับ ดังนี้
1. ศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 26 ต.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน”
2. หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ลงวันที่ 2 มิ.ย.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก”
3. หมายจับศาลแขวงนนทบุรี ลงวันที่ 27 ต.ค.63 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านพัก ซอย10/2 ต.คลองสาม อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
สืบเนื่องจาก บก.ปอศ. ติดตามจับคนร้ายหนีหมายจับเกือบ 5 ปี ภายใต้นโยบายการระดมกวาดล้างอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเปิดปฏิบัติการ "แผนยุทธการ พิชิตคนพาล อภิบาลคนดี" เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับและผู้กระทำความผิด ที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ กก.3 บก.ปอศ. ได้ รวบหนุ่มวัย 31 ปี ก่อเหตุสุดแสบ ใช้ช่องโหว่แคมเปญบ้านผ่อนง่าย ปลอมเอกสารสิทธิ์หลอกขายบ้านซ้ำซ้อนให้เหยื่อ หวังเงินดาวน์ก้อนโต สุดท้ายเหยื่อผ่อนลม ถูกล็อกบ้านไร้ที่อยู่
พฤติการณ์ของคนร้ายรายนี้เริ่มขึ้นเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2563 นายวัด (นามสมมุติ) ได้ซื้อบ้านจากโครงการหนึ่ง ที่จัดแคมเปญ“ซื้อบ้านง่าย ไม่ตรวจเครดิต” แต่แทนที่จะเข้าอยู่เอง กลับมองเห็นช่องทางในการหลอกลวง ประชาชน นายวัด (นามสมมุติ) ได้วางแผนหลอกลวงเหยื่อโดยเริ่มจากการปลอมแปลงเอกสารสัญญา เปลี่ยนชื่อผู้ซื้อ เป็นบุคคลอื่นเพื่อปกปิดสถานะการผ่อนชำระของตนเอง จากนั้นจึงนำบ้านไปประกาศขายดาวน์ผ่านเฟซบุ๊ก ชูจุดเด่นด้วยราคาผ่อนต่อเดือนที่ถูกกว่าความเป็นจริงเพื่อดึงดูดใจผู้ที่อยากมีบ้าน เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ และตกลงทำสัญญา นายวิริยะฯ จะหลอกให้วางเงินดาวน์ก้อนแรกกว่า 200,000 บาท และรับเงินผ่อน รายเดือนจากเหยื่อ
หลังจากผู้เสียหายจ่ายเงินดาวน์และผ่อนค่างวดไปได้เพียง 1 เดือน บ้านที่อาศัยอยู่กลับถูกล็อกกุญแจ พร้อมมีป้ายประกาศแจ้งว่า “ค้างชำระค่างวด” ทำให้ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ เมื่อผู้เสียหายตรวจสอบความจริง จึงได้รู้ว่าถูกหลอก เนื่องจากชื่อในสัญญาที่แท้จริงไม่ใช่ชื่อของนายวิริยะฯ แต่เป็นชื่อบุคคลอื่นที่ถูกปลอมแปลง ขึ้นมา ทำให้ตนเองต้องสูญเสียทั้งเงินดาวน์ก้อนโต เงินที่ลงทุนปรับปรุงบ้านไป และยังต้องไร้ที่อยู่อาศัย จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี หลังจากการรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวนได้ออกหมายจับนายวัด (นามสมมุติ) รวม 3 หมายจับ แต่นายวิริยะฯ ได้หลบหนีไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่า นายวัด (นามสมมุติ) ได้หลบหนีมาซ่อนตัวอยู่ที่ จ.ปทุมธานี จึงได้นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุด หลังหลบหนีการจับกุมมานานเกือบ 5 ปี และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โทร 089-6161-771
“การเผยแพร่ข่าวเป็นไปเพื่อประโยชน์สาธารณะของประชาชน
ให้รู้เท่าทันภัยอันตรายรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อสร้างการตระหนักรู้เป็นวงกว้าง
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาหรือจำเลยยังเป็นผู้บริสุทธิ์ ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด
ดังนั้น สำหรับการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชน ขอให้พิจารณาถึงประโยชน์และสิทธิของผู้ต้องหาข้างต้น