ส่องหุ้นเด่น ! รับอานิสงส์ สภาฯโหวตงบปี 69 ผ่านฉลุย มีตัวไหนบ้างเช็กที่นี่
ผ่านฉลุยเป็นที่เรียบร้อย ! สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 69 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท โดยผลลงคะแนนเห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นชอบ 230 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง หลังจากนี้จะเป็นการพิจารณาในส่วนของวุฒิสภาจะพิจารณาเพื่อให้ความเห็นชอบในลำดับถัดไป ก่อนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี นำร่างพ.ร.บ. ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายภายในวันที่ 1 ต.ค.2568 ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่
โดยงบประมาณที่ผ่านสภาฯ ครั้งนี้จะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจอย่างไร และเป็นบวกต่อ SET Index มากน้อยแค่ไหน หุ้นกลุ่มไหนน่าซื้อเติมพอร์ต วันนี้TNN Online พาไปไขคำตอบจากกูรูตลาดทุนกันค่ะ
เริ่มจาก“ภราดร เตียรณปราโมทย์” ผู้อำนวยการ สายงานวิจัยบล.เอเซีย พลัส ฉายภาพว่า งบประมาณปี 69 วาระ 2 และวาระ 3 ที่ผ่านสภาฯ จะเป็นบวกต่อการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ ของภาครัฐ และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยโตตามเป้าหมายที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 2.3% ส่งผลให้นโยบายการคลังเดินหน้าได้ปกติ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาในปีงบประมาณ 68 ที่ล่าช้ากว่าจะเบิกจ่ายได้ในเดือนก.พ.68 แทนที่จะเป็นเดือนต.ค.67 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในภาพรวม
โดยที่ผ่านมามีความกังวลว่าถ้างบประมาณ 69 ไม่ผ่านสภาฯ อาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยเกิดภาวะถดถอย เนื่องจากไทยได้รับผลกระทบจากภาษีทรัมป์ทำให้จีดีพีโตเพียง 1.4% ดังนั้นเมื่องบประมาณผ่านสภาฯ หนุนเศรษฐกิจผ่อนคลายไม่ชะลอตัวลงและมีเม็ดเงินเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น
ส่วนกรณีที่กระทรวงการคลังมีแนวคิดใช้นโยบาย Negative Income Tax (NIT) ในปี 2570 เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์เข้าระบบภาษีและยื่นภาษีเหมือนกันทุกคนนั้น จะทำให้ในอนาคตจะมีเม็ดเงินในคลังในการขยายการลงทุนมากขึ้น อย่างไรก็ตาม งบประมาณปี 69 ที่ผ่านสภาฯ ส่งผลบวกต่อหุ้นการลงทุนภาครัฐ เช่น CK ราคาเป้าหมาย 21 บาท และหุ้น STECON ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
สำหรับดัชนีหุ้นไทยในช่วง 1 ส.ค.-14 ส.ค.ที่ผ่านมา หุ้นที่ปรับตัวขึ้นมาหลักๆ คือ DELTA ร้อนแรงกว่า 57.3% และ THAI ดีดขึ้นมาประมาณ 69.5% (THAI ใช้ราคาปิดหลังวันกลับเข้าเทรด 1 วัน) ซึ่งรวมกันดันดัชนี 112 จุด จากดัชนี SET INDEX ที่ขึ้นมา 177 จุด (+16.3%) หรือคิดเป็นสัดส่วนถึง 63% จึงทำให้มีแรง TAKE PROFIT ในช่วงสั้นของนักลงทุนสำหรับ 2 หุ้นดังกล่าว
นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสเห็นเม็ดเงินย้ายจาก SAFE HAVEN มาสู่ตลาดหุ้นเพิ่มขึ้น ด้วยหลายปัจจัย คือ 1. ดอกเบี้ยนโยบายลดลงเหลือ 1.5% ถือเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จูงใจให้คนหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น 2. ตราสารหนี้เกิด BULL STEEPENING YIELD ตราสารระยะสั้นที่ปรับตัวลงแรงกว่าระยะยาว มักจะเกิดขึ้นเวลา เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มเติม 3. มูลค่า MARKET CAP ตราสารหนี้ 17.5 ล้านล้านบาท ยังสูงกว่าตลาดหุ้นที่ 16.1 ล้านล้านบาท ถ้ากลับขึ้น ไปเท่ากัน SET เท่ากับ 1405 จุด (ปกติ MARKET CAP ตลาดหุ้นจะสูงกว่าเสมอ) กลยุทธ์แนะสะสมหุ้นใหญ่ พื้นฐานดี GULF, BDMS และหุ้นขนาดกลางปัจจัยหนุนรอบด้าน SPALI, CK, COCOCO
ส่วนทิศทางหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า คาด SET มีแรงหนุนใน 3 ปัจจัยหลักคือ 1.งบประมาณปี 69 วาระ 2 และวาระ 3 ที่ผ่านสภาฯ หนุนนโยบายการคลังกระตุ้นเศรษฐกิจ 2.กำไรไตรมาส 2/68 ของบริษัทจดทะเบียนออกมาดีมากคาดกำไรแตะ 3.5 –3.6 แสนล้านบาท สูงกว่าระดับปกติ 2.5 แสนล้านบาทต่อไตรมาส หนุนกำไรปี 68 นี้ SET อาจมีกำไรส่วนเพิ่ม TOP UP กว่า 1 แสนล้านบาท (ราว 8 บาท/หุ้น)จากกำไรพิเศษ GULF หลังควบรวม INTUCH 5.6 หมื่นล้านบาท)
นอกจากนี้SCC ปรับโครงส้าง CHANDRA ASRI 1.6 หมื่นล้านบาท และ THAI คาดการกำไร 68F 2.8 หมื่นล้านบาท หนุน PE68F ณ SET 1,277 จุด ลดลงมาอยู่ที่ 13.5 เท่า แนะหุ้น FUND FLOW กับ หุ้นใหญ่ปันผลสูง PTT, SCC, ADVANC หุ้นรับดอกเบี้ยขาลง MTC, KTC, ERW 3.ฟุตซี่ เตรียมทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีในไตรมาส 3/68 โดยหุ้นไทย Outperform กำไรไตรมาส 2/68 โดดเด่นคาดว่าจะเพิ่มน้ำหนักหุ้นไทยมากขึ้น
ส่วนปัจจัยลบที่จะเป็นแรงกดดันตลาดหุ้นไทยคือ คดีมาตรา 112 ของนายทักษิณ ชินวัตร วันที่ 22 ส.ค. ศาลอาญานัดอ่านคำพิพากษา คดีจริยธรรมร้ายแรงของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปมคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ถูกตั้งข้อสงสัยเรื่องจริยธรรมและผลประโยชน์ทับซ้อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำพิพากษา 29 ส.ค.นี้
ด้านปัจจัยที่ต้องติดตามคือ.การประกาศจีดีพีไตรมาส 2/68 ของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) คาดว่าขยายตัว 2.5% ซึ่งต้องรอดูว่าดีกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด ประเมินกรอบแนวรับ 1,230-1,240 จุด แนวต้านที่ 1,280-1,300 จุด
กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะ
+หุ้นรับผลบวกจากงบประมาณปี 69 วาระ 2 และวาระ 3 ผ่านสภาฯ +
CK ราคาเป้าหมาย 12 บาท
STECON ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
หุ้นที่จ่ายปันผลระหว่างกาลโดดเด่น
SPALI ราคาเป้าหมาย 16.50 บาท ปันผล 7%
ICHI ราคาเป้าหมาย 12 บาท ปันผล 10%
ฝั่ง “ฐกฤต ชาติเชิดศักดิ์" AISA, CFTe ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.กรุงศรีมองว่า สภาฯ ผ่านร่าง พ.ร.บ. งบประมาณ ปี 69 เป็นจิตวิทยาบวกต่อ SET Index ในวันจันทร์คาดลดความเสี่ยง Downside เศรษฐกิจไทยและบวกต่อหุ้น Domestic ที่ได้ประโยชน์จากงบประมาณผ่าน เช่นกลุ่มธนาคารKTB,SCB, KBANK เน้นKTB กลุ่มค้าปลีกCPALL กลุ่มรับเหมา SCC , PYLON ,CK
ส่วนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า “แกว่งในกรอบ” ประเมินแนวต้านแรก 1,283 จุด แนวต้านถัดไป 1,295จุด แนวรับแรกที่ 1,247 จุด แนวรับถัดไป 1,231จุด แม้ตลาดผ่านช่วงปรับสถานะหุ้น หลังรายงานกำไร 2Q25 แล้ว แต่ภาพกำไร SET ที่ยังไม่เด่น และ Outlook ส่วนใหญ่ภาพกังวลผลกระทบเศรษฐกิจ แรงขับเคลื่อนหลักยังอยู่ที่ Fund Flows
โดยคาดตลาดยังรอติดตามรายงานเศรษฐกิจสหรัฐฯ และท่าที Fed ในการประชุม Jackson Hole หุ้นนำสัปดาห์หน้า แนะนำเน้นหุ้นฝั่ง Domestic Plays อาทิ ธนาคาร ค้าปลีก รับเหมา+วัสดุก่อสร้าง รับภาพบวกคาด ส.ส. ผ่านร่างงงบประมาณปี 2569 และ GDP ไทย งวด 2Q25 คาดยังดี จากแรงส่งการเร่งส่งออก ผสาน หุ้นดอกเบี้ยขาลงหนุน อาทิ โรงไฟฟ้า High Yield หนี้สูง
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
18 ส.ค. ติดตามรายงาน GDP 2Q25 คาด +2.6%y-y, +0.4%q-q vs prev. +3.1%y-y, +0.6%q-q
19 ส.ค. ติดตามยอดขอสร้างบ้านใหม่ ก.. คาด 1.298 บ้านหลัง vs prev. 1.321 ล้านหลัง
20 ส.ค. ติดตามการประกาศอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดีของ PBOC คาดคงที่ทั้งอายุ 1 ปี และ 5 ปี ที่ระดับ 3.0% และ 3.5%
21 ส.ค. ติดตามยอดขายบ้านมือสอง ก.ค. คาด 3.9 ล้านหลัง vs prev. 3.93 ล้านหลัง
21 ส.ค. ติดตามการรายงาน การประมาณการภาคการผลิตของประเทศ โดยอิงจากผลตอบแบบสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ ส.ค. คาด 49.8 จุด
22 ส.ค. ติดตามการประชุมวิชาการประจำปีของ Fed โดยเฉพาะการกล่าวปาฐกถาของคุณ Jerome Powell
กลยุทธ์การลงทุน
• KTB(TP25F-28): คาดแรงส่งจากความชัดเจน ส.ส. ผ่านร่างงบประมาณปี 2569
• SCB(TP-145) : แนวทางใช้ดอกเบี้ยขาลงช่วงปลายเน้นเป้าลูกหนี้ SMEs + ครัวเรือน บวกคุณภาพสินทรัพย์เปิด Upside ต่อ SCB ที่มีสัดส่วนหนี้ดังกล่าวสูง
• CPALL(TP25F-80): ความชัดเจน ส.ส. ผ่านร่างงบประมาณปี 2569 + Deep Value
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- นักวิเคราะห์มอง "หุ้นไทยจบรอบการขึ้นแล้ว" แนะจับตาทั้งทองคำและบิตคอยน์
- หุ้นไทยวันนี้ 7 สิงหาคม 2568 เพิ่มขึ้น 0.68 จุด ตัดขายทำกำไรช่วงบ่ายลดเสี่ยง
- ตลาดทุนไทยส่งสัญญาณบวก จากกระแสการลงทุนเพื่อความยั่งยืน ดึงดูดเม็ดเงินจากต่างชาติ
- บล.กรุงศรี ชี้หุ้นไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว! ลุ้น Fund Flow หนุนดัชนีแตะ 1,330 จุด
- หุ้นไทยวันนี้ 4 สิงหาคม 2568 ปิดพุ่ง 11.07 จุด รีบาวด์ตามตลาดโลก