ปู่ทำให้กิน! หลานรักวัย 28 ตับไตวาย ดับสลด แพทย์เตือนไก่แบบนี้ "มีพิษร้าย" ทิ้งเท่านั้น!!!
หนุ่มวัย 28 ปี เสียชีวิตหลังกินไก่ แพทย์เตือนไก่ชนิดนี้ “มีพิษร้ายแรง” ไม่ควรกิน ทิ้งเท่านั้น!!!
การบริโภคไก่ที่ปรุงอย่างไม่ถูกต้อง อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากมาย ดังเช่นตัวอย่างของชายวัย 28 ปีในประเทศจีน ถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ที่ชัดเจน
สำนักข่าว China News รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 โรงพยาบาลเมืองจี่หนิง มณฑลซานตง ประเทศจีน ได้ให้การรักษาผู้ป่วยชายอายุ 28 ปี เข้าโรงพยาบาลด้วยอาการโคม่าและท้องอืด ผลการวินิจฉัยของโรงพยาบาลระบุว่าผู้ป่วยมีภาวะตับวายและตับวาย
ตามคำบอกเล่าของครอบครัว เมื่อวันที่ 28 เมษายน ผู้ป่วยได้กลับบ้านเกิดเพื่อไปเยี่ยมญาติๆ ปู่ของเขาได้ต้มไก่ที่ครอบครัวเลี้ยงไว้ให้กิน ซึ่งสมาชิกในครอบครัวสงสัยว่าไก่ตัวนั้นมีอาหารป่วย เซื่องซึม และไม่ได้กินอาหารมาหลายวันแล้ว จึงสงสัยว่ามันอาจติดเชื้อ และแนะนำให้ทิ้งไป
อย่างไรก็ตาม ชายชรายังคงปรุงไก่ตัวนั้นเพราะรู้สึกเสียดายมัน สมาชิกในครอบครัวไม่กล้ากิน มีเพียงผู้ป่วยเท่านั้นที่รักปู่ของเขามากๆ จึงกินไก่ที่ปรุงสุกแล้วจนเกือบทั้งหมด
ผลก็คือ หลังจากรับประทานไก่แล้ว ในวันที่ 29 เมษายน เขาเริ่มมีไข้สูง ปวดท้อง และปวดหัว จึงรับประทานยาปฏิชีวนะอะม็อกซิลลิน ยาแก้อักเสบไอบูโพรเฟน และยาอื่นๆ อีกบางชนิด
ต่อมา วันที่ 5 พฤษภาคม ชายหนุ่มหมดสติกะทันหัน และถูกครอบครัวนำตัวส่งโรงพยาบาล แพทย์ได้ทำการรักษาฉุกเฉินทันทีและถ่ายพลาสมาจำนวนมากให้ หลังจากนั้นผู้ป่วยได้รับการติดตามอาการในหอผู้ป่วยหนัก ก่อนเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม
สายพันธุ์ไก่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรค
แพทย์ประจำโรงพยาบาลเมืองจี่หนิง ระบุว่า ผู้ป่วยรายข้างต้นน่าจะติดเชื้อ“ไข้หวัดนก” จากการรับประทานไก่ที่ปรุงไม่สุก ซึ่งติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิด A (H5N1) และผู้ป่วยไม่ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอย่างทันท่วงที ส่งผลให้อาการทรุดลงและเสียชีวิต
แพทย์ผู้รักษาระบุว่า ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ (H5N1) เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงสูง ถือเป็นโรคติดเชื้ออันตรายเช่นกัน โดยผู้ติดเชื้อประมาณ 50% มีความเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงขึ้น เช่น ภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว อวัยวะภายในล้มเหลว และเสียชีวิต ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำว่าไม่ควรรับประทานอาหารที่ทำจากไก่ป่วย หรือไก่ที่ตายจากไข้หวัดนกโดยเด็ดขาด
เมื่อติดเชื้อไข้หวัดนก ผู้ป่วยอาจมีอาการไข้ หรือไข้สูงเฉียบพลัน (มากกว่า 38 องศาเซลเซียส) ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ไอแห้ง เจ็บคอ อ่อนเพลีย และอาจมีอาการท้องเสีย เป็นต้น แพทย์แนะนำว่าหลังจากรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำ โดยเฉพาะอาหารประเภทสัตว์ปีก หากพบอาการผิดปกติใดๆ ในร่างกาย ให้รีบไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา ตรวจ และรักษาอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ไข้หวัดนกแพร่ระบาดสู่มนุษย์อย่างจริงจัง จำเป็นต้องดำเนินมาตรการดังต่อไปนี้
- ห้ามซื้อ ขาย แปรรูป หรือบริโภคสัตว์ปีกที่ป่วย ตาย หรือไม่ทราบแหล่งที่มา
- เมื่อพบสัตว์ปีกป่วยหรือตาย ห้ามฆ่าหรือนำไปใช้โดยเด็ดขาด แต่ให้แจ้งหน่วยงานท้องถิ่นและสัตวแพทย์ประจำพื้นที่ทันที
- ควรรับประทานอาหารที่ปรุงสุกและดื่มน้ำต้มสุก
- ล้างมือด้วยสบู่ก่อนรับประทานอาหาร