โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

จี้รัฐเร่งเพิ่มขีดแข่งขันประเทศ TDRI ห่วงไทยตกเรดาร์ประชาคมโลก

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยปรับลดลงอย่างมากในปีที่ผ่านมาตามการจัดอันดับของสถาบันการจัดการนานาชาติ (IMD) ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงจากอันดับที่ 25 ลดลงไปอยู่ที่อันดับที่ 30 จาก 69 เขตเศรษฐกิจทั่วโลก ตามคะแนน และอันดับที่ลดลงจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

สาเหตุหลักของการถดถอยในอันดับ มาจากการลดลงในหลายมิติ ได้แก่ ประสิทธิภาพภาครัฐ (จากอันดับ 24 เป็นอันดับ 32) โครงสร้างพื้นฐาน (จากอันดับ 43 ลงมาอยู่อันดับ 47) และประสิทธิภาพทางธุรกิจ ที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องนอกจากนี้ โดย Reuters ยังระบุว่า ไทยยังมีข้อจำกัดเรื่องความโปร่งใส ความซับซ้อนของระบบราชการ และการปรับตัวให้ทันกับเศรษฐกิจดิจิทัลโลก

นอกจากนั้นนโยบายการปรับเพิ่มภาษีตอบโต้ของสหรัฐที่ 19% อาจมีส่วนสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการรายย่อยและเอสเอ็มอีไทย ซึ่งภาครัฐได้มีการตั้งงบประมาณในการรับมือผลกระทบนี้ผ่านกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทั้งเตรียมซอฟท์โลนสำหรับผู้ประกอบการไว้รองรับในการลดผลกระทบและปรับตัวของผู้ประกอบการ

นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ปัจจุบันขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยตกลงชัดเจนหลายด้านและตกลงต่อเนื่อง โดยไทยในวันนี้ในสายตาของโลกเราตกจากเรดาร์ของประชาคมโลก

ทั้งนี้ ปัจจุบันประเทศไทยไม่ใช่ประเทศที่มีความสำคัญในสายตาชาวโลกอีกต่อไป โดยสังเกตง่ายๆก็คือบรรดานักลงทุนสถาบัน หรือธนาคารขนาดใหญ่ เวลาที่จะเอาหุ้นกู้ไทย หรือ หุ้นกู้ของบริษัทที่อยู่ในประเทศไทยไปเสนอให้ นักลงทุนต่างประเทศมาซื้อไม่มีใครสนใจ เศรษฐกิจไทยไม่ได้เติบโตเร็วเหมือนในอดีต ขณะที่ผู้นำที่เป็นมหาอำนาจก็ไม่ได้ให้ความสนใจในการเดินทางมาเยือนประเทศไทย

“ทีดีอาร์ไอ”ชี้ผู้นำระดับโลกเมินไทย

“ลองดูผู้นำระดับโลกวันนี้ไม่ว่าจะเป็นประธานาธิบดีทรัมป์ หรือประธานาธิบดี สี จิ้น ไม่มาเยือนไทย นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรการลงทุนของไทยแทบจะจำไม่ได้ว่ามาไทยเมื่อไหร่ แต่ไปเพื่อนบ้าน และคู่แข่งไทยในอาเซียนหลายครั้ง" นายสมเกียรติ กล่าว

รวมทั้งหากเอาตัวเลขพวกนี้มาดูเราก็ต้องยอมรับว่าไทยไม่ได้อยู่ในศูนย์กลางความสนใจของโลกแล้ว ซึ่งไทยได้ตกจากลีก 1 มาอยู่ในลีกที่ต่ำกว่าแล้วก็ต้องดูว่าเราจะทำอย่างไรให้กลับขึ้นไปได้

ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยตกมาต่อเนื่องหลายปี โดยตรงนี้อาจต้องการความชัดเจนในการแก้ปัญหา เพราะดัชนีนั้นบอกอยู่แล้วว่าดัชนีเราตกที่ตรงไหน คะแนนส่วนไหนที่ฉุดรั้งขีดแข่งขันของประเทศ

“เรื่องเหล่านี้สภาพัฒน์เป็นตัวชี้เป้า แต่ผู้นำทางการเมืองต้องลงมาลุยเพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่เป็นอุปสรรคกับการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้”นายสมเกียรติ กล่าว

สำหรับหน่วยงานกลางที่ได้แก่สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆให้รัฐบาลสั่งการลงไปในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยส่วนใหญ่ที่เป็นปัญหารวมๆกันเลย คือ เรื่องของกฎระเบียบแย่ทำให้ทำหลายเรื่องติดขัดเรื่องของการเพิ่มขีดความสามารถ

แนะใช้ข้อมูลแม่นยำแก้ปัญหาประเทศ

นายสมเกียรติ กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาให้ประเทศไทยสามารถกลับมาแข่งขันได้ ต้องอยู่บนการใช้ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์ ซึ่งทุกประเทศที่มีการเจริญขึ้นมาได้ จะมีการใช้ข้อมูลที่เป็นวิทยาศาสตร์มาแก้ปัญหาให้ตรงจุด และพัฒนาประเทศจากข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งภาครัฐก็ต้องมีการลงทุนในสิ่งเหล่านี้ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ต้องทำและใช้เวลาค่อนข้างมากในการดำเนินการในส่วนนี้

แต่หากทำได้จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า ซึ่งภาครัฐจะสามารถวางแผนโดยใช้ข้อมูลจากบิ๊กดาต้าที่มา เช่น การจะทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ รัฐต้องมีข้อมูลที่มากพอว่าใครจะเป็นลูกค้า จะทำในพื้นที่ใดจึงจะดึงดูดการลงทุนได้จริง

เช่นเดียวกับเรื่องอื่นเพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างแม่นยำ เช่นเดียวกับในการวางแผนจัดทำนโยบาย ซึ่งต้องมีข้อมูลที่มากพอ เป็นการบริหารจัดการแบบมืออาชีพที่จะทำให้ไทยแก้ปัญหาต่างๆและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในอนาคต

ส่วนการใช้เงินจากกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในการจะดึงอุตสาหกรรมต่างๆเข้ามาลงทุน นายสมเกียรติ กล่าวว่า ไทยต้องต่อยอดการลงทุนได้ เพราะที่ผ่านมาไทยมีโรงงานเข้ามาลงทุน แต่ไม่ได้ใช้ชิ้นส่วนในเมืองไทย หรือว่าชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศไทยได้มากเท่าที่ควร

ทั้งนี้ปัจจัยดังกล่าวทำให้ไม่ได้มีประโยชน์กับเศรษฐกิจมาก โดยต้องการที่จะเพิ่มการจ้างงานให้กับคนไทย ใช้วัตถุดิบจากประเทศไทย ใช้ซัพพลายเออร์คนไทย

บีโอไอกางแผนใช้เงินกองทุน

นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) กล่าวว่า รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ให้กับกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรจะนำมาจัดสรรเพื่อตอบโจทย์ 3 เรื่องหลักได้แก่

1.ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐ

2.สนับสนุนผู้ประกอบการรายสำคัญที่ได้รับผลกระทบจากทั้งภาษีส่วนเพิ่ม (Global Minimum Tax) ของ OECD และมาตรการภาษีสหรัฐ

3.ดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศไทย ถ่ายทอดเทคโนโลยี และพัฒนาบุคลากรไทย

ทั้งนี้อุตสาหกรรมที่จะเน้นในการดึงดูดการลงทุนที่จะใช้งบประมาณจากกองทุนนี้ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง อุตสาหกรรมต้นน้ำของแบตเตอรี่ในระดับเซลล์ ดิจิทัลขั้นสูงและการพัฒนาเทคโนโลยี AI เทคโนโลยีทางการแพทย์ และเทคโนโลยีชีวภาพ

รัฐบาลต้องมีนโยบายเศรษฐกิจใหม่

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานหอการค้าไทยและนายกสมาคมอาหารแห่งอนาคต กล่าวว่า จากการจัดอันดับ IMD World Competitiveness Ranking 2025 ไทยอยู่อันดับที่ 30 จาก 69 ระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ลดลงจากอันดับที่ 25 ในปี 2024 โดยในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไทยรั้งอันดับ 3 รองจาก สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายที่ไทยต้องเผชิญในเวทีการแข่งขันระดับโลก (ที่มา: nationthailand.com)

อย่างไรก็ตาม ไทยยังมีโอกาสจากการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจใหม่ เช่น การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) และเซมิคอนดักเตอร์ การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลผ่านการลงทุนด้าน AI และ cybersecurity

รวมถึงการขยายเขตเศรษฐกิจพิเศษ เช่น เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) , เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (SEC) เพื่อสร้าง value chain ใหม่ รวมถึงการใช้โอกาสจากความตึงเครียดทางการค้าสหรัฐ-จีน ดึงดูดการลงทุน

นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า สำหรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อยกระดับขีดความสามารถแข่งขันของไทย คือปรับโครงสร้างภาครัฐให้โปร่งใสและมีประสิทธิภาพ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการคมนาคม สร้างทักษะแรงงานรองรับเศรษฐกิจใหม่ และส่งเสริมการแข่งขันในภาคธุรกิจให้เป็นธรรมและเปิดกว้างมากขึ้น

แนะยกเครื่องเศรษฐกิจครั้งใหญ่

ทั้งนี้ ภาครัฐต้องดำเนินการปรับปรุงกฎหมายและระเบียบที่ล้าสมัย เพื่อเอื้อต่อการลงทุน นวัตกรรม และการแข่งขันอย่างเสรี โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งด้านคมนาคม โลจิสติกส์และโครงข่ายดิจิทัล ให้เชื่อมโยงทั่วประเทศ และสอดรับเศรษฐกิจโลก

รวมทั้งยกระดับคุณภาพการศึกษาและทักษะแรงงานให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมอนาคต เช่น EV, AI, Green Economy และ Smart Farming ลดขั้นตอนราชการที่ต้องเพิ่มความโปร่งใส ใช้ดิจิทัลมาช่วยให้บริการเพื่อสร้างความเชื่อมั่น สะดวกรวดเร็ว ลดต้นทุนให้นักลงทุนและผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างชาติ

รวมถึงแก้ปัญหาทุจริตตัวอย่างเรื่องที่ภาคเอกชนควรดำเนินลงทุนในนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนา (R&D) โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น อาหารแห่งอนาคต สุขภาพ พลังงานสะอาด และดิจิทัล ผลิตสินค้าที่มีความแตกต่างมากขึ้น ลดปัญหาแข่งขันด้านราคา

นอกจากนีิ้ยกระดับมาตรฐานแรงงานและคุณภาพสินค้าเพื่อแข่งขันในตลาดโลก โดยเน้น ESG, traceability และมาตรฐานสากลเสริมศักยภาพของ SME และสตาร์ทอัปผ่านการจับมือกับพันธมิตรและใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น AI, blockchain, e-commerce มีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางเศรษฐกิจร่วมกับรัฐผ่านเวทีสาธารณะ หอการค้า สภาอุตสาหกรรม และการเสนอข้อเสนอเชิงนโยบายอย่างสร้างสรรค์

“ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยยังอยู่ในระดับกลางของโลก แต่หากสามารถเร่งปฏิรูปเชิงโครงสร้างและใช้โอกาสจากกระแสเศรษฐกิจโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไทยยังมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางเศรษฐกิจในภูมิภาคได้ในระยะยาว”นายวิศิษฐ์ กล่าว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

'ทรัมป์' ลั่น จะขับไล่ 'คนไร้บ้าน' ออกจากเมืองหลวงและจับอาชญากรขังคุก

40 นาทีที่แล้ว

ทูตไทยประจำนิวยอร์ก-เจนีวา ลุยตอบโต้กัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวา

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จีนต่อรองสหรัฐลดควบคุมส่งออกชิป AI เพื่อบรรลุข้อตกลงการค้า

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เก็บกู้อาวุธกัมพูชาใช้โจมตี 4 จว.ไทย 384 รายการ พบ BM-21 เพียบ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

Morning Report 2025-08-11

StockRadars

สรุปข่าวต่างประเทศ ประจำวันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม 2568

efinanceThai

ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์บวก 206.97 จุด แนสแดคปิดทำนิวไฮต่อเนื่อง แรงหนุนหุ้นเทคฯ - ความหวังเฟดลดดอกเบี้ย

efinanceThai

อัปเดตราคาน้ำมันวันหยุด 11 ส.ค. เช็กราคาเบนซิน-ดีเซล-โซฮอล์ ล่าสุดที่นี่

The Bangkok Insight

‘ซันสวีท’ ชูแผนปั้นรายได้ปี’68 โหมสินค้าพร้อมทาน-รุกสะดวกซื้อ ตปท.

ประชาชาติธุรกิจ

‘นูโทรจีนา’ ส่งสูตรใหม่ ชิงเค้กกันแดด 5 พันล้าน

ประชาชาติธุรกิจ

BBL กำไรเงินลงทุนเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจ

'อรภัค สุวรรณภักดี' คว้ารางวัลผู้นำอาเซียน ตอกย้ำผู้นำด้านการศึกษา-ไอที

กรุงเทพธุรกิจ

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...