“สม รังสี” วอนคนไทยเมตตา “แรงงานกัมพูชา”
“อดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา” วอนคนไทยแยกประเด็น ปมขัดแย้งชายแดนกับแรงงานกัมพูชา ชี้ เป็นเหยื่อเหมือนกัน
(14 ก.ค. 68) นายสม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้านแห่งกัมพูชา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว วิงวอนพี่น้องประชาชนชาวไทย โปรดอย่ากล่าวโทษและอย่าแบ่งแยกกลุ่มต่อ “แรงงานกัมพูชา” ชี้ พวกเขาหนีจากการเป็นเหยื่อเผด็จการของ ฮุน เซน พร้อมย้ำชัด อย่าให้เล่ห์เหลี่ยมของคน ๆ เดียว ทำให้เราแตกแยกกัน
โพสต์ระบุว่า
ถึง พี่น้องชาวไทยที่รักทุกท่าน
ขณะที่ความตึงเครียดตามแนวชายแดนร่วมของเราเพิ่มสูงขึ้น ข้าพเจ้าขอยื่นมือออกไป ไม่เพียงในฐานะผู้นำทางการเมืองเท่านั้น แต่ในฐานะเพื่อนบ้านที่มีวัฒนธรรมร่วมกัน มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา และมีความหวังอันลึกซึ้งต่อสันติภาพและความเข้าใจในภูมิภาคของเรา
ในห้วงเวลาเปราะบางนี้ ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อจิตสำนึกของท่านว่า โปรดอย่ากล่าวโทษหรือปฏิบัติต่อแรงงานชาวกัมพูชาผู้บริสุทธิ์ในประเทศไทยอย่างไม่เป็นธรรม แรงงานกัมพูชากว่า 2 ล้านคน ทั้งที่มีเอกสารและไม่มีเอกสาร ล้วนพำนักและทำงานอยู่ในแผ่นดินอันงดงามของท่าน (ไทย) พวกเขาไม่ใช่ตัวแทนของระบอบปกครองกัมพูชา หากแต่เป็นเหยื่อของระบอบนั้น
ผู้อพยพเหล่านี้หลบหนีจากดินแดนที่เต็มไปด้วยความยากจน การกดขี่ และการคอร์รัปชัน ภายใต้การปกครองของฮุน เซน ผู้นำเผด็จการที่ยึดมั่นในอำนาจด้วยความรุนแรงและความหวาดกลัว ชาวกัมพูชาส่วนใหญ่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ต่างปฏิเสธการปกครองของเขา ความพยายามของเขาในการสถาปนาราชวงศ์ทางการเมืองกำลังถูกต่อต้านมากขึ้น และไม่อาจยืนหยัดต่อไปได้
ฮุนเซนไม่ใช่กัมพูชา เขาเป็นบุคคลที่เสื่อมเสียชื่อเสียง ผู้เปลี่ยนประเทศของเราให้กลายเป็นแหล่งหลบภัยของอาชญากรรมที่ดำเนินการโดยจีน โดยเฉพาะปฏิบัติการหลอกลวงทางไซเบอร์ ซึ่งขณะนี้กลายเป็นเป้าหมายของทางการไทย แทนที่จะให้ความร่วมมือในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้ เขากลับตอบโต้ด้วยการปิดพรมแดนและปล่อยโฆษณาชวนเชื่อต่อต้านไทย เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากความสมรู้ร่วมคิดของตน
นี่ไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ แต่เป็นการเผชิญหน้าระหว่างหลักนิติธรรมของไทย กับระบอบอาชญากรในกรุงพนมเปญ ชาวกัมพูชา รวมถึงผู้ที่ทำงานในประเทศไทย ไม่ต้องการมีส่วนร่วมในระบบของฮุนเซน พวกเขากำลังหลบหนีจากมัน
แรงงานเหล่านี้คือเพื่อนบ้านของท่าน เพื่อนร่วมศาสนาพุทธ และผู้ที่มีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของท่าน พวกเขาแสวงหาเพียงความปลอดภัย ศักดิ์ศรี และโอกาสในการเลี้ยงดูครอบครัว ข้าพเจ้าขอวิงวอนต่อคุณค่าของ เมตตา (ความรักใคร่) และ กรุณา (ความเห็นอกเห็นใจ) ของท่าน โปรดแสดงความเข้าใจและความอดทนต่อพวกเขาต่อไป
ประชาชนของเราทั้ง 2 ประเทศอยู่ร่วมกันมาหลายศตวรรษแล้ว อย่าให้คำโกหกและเล่ห์เหลี่ยมของคนเพียงคนเดียว มาทำให้เราต้องแตกแยก ฮุนเซนเป็นเพียงบุคคลชั่วคราว แต่สายสัมพันธ์แห่งภราดรภาพระหว่างประชาชนของเรานั้นเป็นนิรันดร์
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Sam Rainsy