"ไฮเออร์" บุกตลาดเครื่องซักผ้า 1.6 หมื่นล้าน! อัด 3 เรือธงดันยอดขาย
ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ผู้เล่นสำคัญในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าโลก ซึ่งเป็นแบรนด์อันดับ 1 ติดต่อกัน 16 ปีซ้อน เผยผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 เติบโตต่อเนื่องถึง 27% คิดเป็นมูลค่า 3,500 ล้านบาท พร้อมประกาศรุกตลาดเครื่องซักผ้าพรีเมียมอย่างเต็มตัว ด้วยการเปิดตัวเครื่องซักผ้าเรือธง 3 รุ่นใหม่ นำเสนอนวัตกรรม AI ผสานดีไซน์ที่ตอบโจทย์สรีระผู้ใช้งานชาวเอเชีย หวังขยายฐานลูกค้ากลุ่มลักชัวรีและโฮมเดคอร์ยุคใหม่ และตั้งเป้าผลักดันยอดขายกลุ่มเครื่องซักผ้าโต 32% ภายในปีนี้
มร. ต่ง เจี้ยนผิง ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องซักผ้าในประเทศไทยปี 2568 มีมูลค่ากว่า 1.6 หมื่นล้านบาท และมีการเติบโตที่น่าสนใจราว 7% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยไฮเออร์ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดเป็น 15% ในปีนี้ แม้จะมีความท้าทายจากปัจจัยทางเศรษฐกิจ แต่กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูงยังคงเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ "ให้มากกว่าความสะดวก" โดยเน้นเทคโนโลยีอัจฉริยะและดีไซน์ที่สอดรับกับไลฟ์สไตล์ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อ
หนึ่งในเทรนด์สำคัญคือการเติบโตของกลุ่มสินค้าในบ้านที่ผสาน AI และฟีเจอร์อัตโนมัติ ซึ่งสะท้อนความต้องการสินค้าที่สามารถจัดการงานบ้านได้อย่างชาญฉลาด ประหยัดเวลา และถนอมเสื้อผ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
จากทิศทางดังกล่าว ไฮเออร์จึงได้เปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น L+, Laundry Center และ X Series ภายใต้แนวคิด "Love Life, Live Free – The Future is in Your Hand" ซึ่งได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะการแก้ไขข้อจำกัดเดิม ๆ ของเครื่องซักผ้าที่อาจไม่เหมาะกับสรีระคนเอเชีย เช่น ระดับความสูง หรือแผงควบคุมที่ต้องก้มสัมผัส นอกจากนี้ยังตอบโจทย์ผู้ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลเสื้อผ้าราคาแพง และมองหาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับดีไซน์ทันสมัยที่กลมกลืนกับการตกแต่งบ้าน
เครื่องซักผ้าทั้ง 3 รุ่น มาพร้อม 4 เทคโนโลยีเฉพาะตัวจากไฮเออร์ ได้แก่ ABT (วัสดุป้องกันแบคทีเรีย 99.9%), Laser Welding (การเชื่อมถังซักด้วยเลเซอร์เพื่อความทนทาน), Dual Spray (ระบบฉีดล้างคราบตกค้างบริเวณขอบยางและประตู), และ I-Refresh Pro (เทคโนโลยีกำจัดเชื้อโรค ไวรัส กลิ่นอับ พร้อมช่วยลดรอยยับบนเสื้อผ้า)
สำหรับภาพรวมผลประกอบการไตรมาสแรกปี 2568 ไฮเออร์ ประเทศไทย สร้างยอดขายเติบโต 27% ด้วยมูลค่า 3,500 ล้านบาท โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องปรับอากาศยังคงครองอันดับ 1 ในช่องทางออฟไลน์ ขณะที่ตู้แช่ครองอันดับ 1 ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ส่วนตู้เย็นอยู่ในอันดับ 2 และเครื่องซักผ้ายังคงครองอันดับ 4 ของตลาดโดยรวม มร. ต่ง เจี้ยนผิง มั่นใจว่าไฮเออร์จะสามารถผลักดันกลุ่มธุรกิจเครื่องซักผ้าให้เติบโตเพิ่มขึ้นทั้งในแง่ยอดขายและส่วนแบ่งตลาด โดยตั้งเป้ายกระดับประสบการณ์ซักผ้าให้กับผู้บริโภคชาวไทยอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปีนี้ ด้วยกลยุทธ์ "พรีเมียมที่มีคุณภาพ" เน้นความคุ้มค่าสูงสุดทั้งในด้านฟังก์ชัน เทคโนโลยี และราคา.