เจ้าของปั๊มโวยรัฐนิ่ง! เสียหาย 20 ล้าน “เสธ.ต๊อด” โต้ข่าวลือยึดปราสาทตาควายแล้วถูกสั่งถอย
รายการ โหนกระแส วันที่ 4 ส.ค. “หมวย อริสรา กำธรเจริญ” ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 วันนี้สะท้อนมุมความสูญเสียที่เกิดขึ้น จากการที่กัมพูชาโจมตีเป้าหมายพลเรือน ทำให้ปั๊มปตท.ที่กันทรลักษ์ ศรีสะเกษ ร้านสะดวกซื้อพังราบคาบ มีผู้เสียชีวิต 8 คน สองในแปดคือเด็กอายุ 8 ปี และ 14 ปี สัมภาษณ์ เลี้ยง เจ้าของปั๊มน้ำมัน ปตท. , เจน - บี ผู้บาดเจ็บอยู่ในปั๊ม , น้องหลิงหลิง ลูกสาวเจ้าของปั๊มอยู่ในเหตุการณ์ ถ่ายทอดความรู้สึกเป็นภาษาอังกฤษไปถึงชาวโลก รวมทั้ง, ชณทัต ปัทะมะภูวดล ผู้ก่อตั้งเพจชณทัตลุยครับ ผู้ที่เข้ามาช่วยพาเจ้าของปั๊มยื่นหนังสือ 4 หน่วยงานเมื่อเช้าที่ผ่านมา รวมทั้ง พลตรีวินธัย สุวารี หรือ เสธ.ต๊อด โฆษกกองทัพบก
ล่าสุดสถานการณ์เป็นอย่างไร?
พลตรีวินธัย : ถ้าเอาตั้งแต่วันที่มีการใช้อาวุธต่อกัน จุดเริ่มต้นฝั่งกัมพูชา ปราสาทตาเมือนธม บริเวณทุกๆ พื้นที่มีการใช้อาวุธ วันแรกถือว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียใจทหารฝ่ายกัมพูชาใช้อาวุธต่อเป้าหมายพลเรือนเยอะมาก จริงๆ เห็นว่าในพื้นที่ตรงปั๊มปตท. ค่อนข้างเป็นเหตุสลดใจนิดนึง หนึ่งอยู่ไกล สองดันมีคนอยู่ตรงนั้นเยอะ เพราะมันเป็นวันแรก เราก็ไม่นึกว่าจะไกลขนาดนั้น หลังจากวันนั้นถึงแม้ไกล ฝ่ายปกครอง มหาดไทยกับผู้ที่ดูแลพื้นที่ส่วนหลัง ก็มีการอพยพออกไป เพราะเห็นแล้วว่ามันกระทบต่อพลเรือนค่อนข้างเป็นวงกว้าง วันที่ 24 เป็นวันแรก แต่จุดอื่นใกล้เคียงมีจรวด BM-21 ลงเหมือนกัน แต่มันเป็นพื้นที่โล่ง ผมว่าถ้าตรงนั้นมีความหนาแน่นชุมชน เป็นอีกลักษณะนึง ที่มีสิ่งปลูกสร้างเยอะกว่านั้น ผมว่าน่าจะโชคดีเยอะกว่านั้น เพราะลูกอื่นไปตกลงบนถนน กู้แล้วระเบิดไปเมื่อวาน เป็นที่มาของเป้าหมายพลเรือนในวันแรก และสะเทือนใจที่สุดก็คือที่นี่
วันนั้นคุณเลี้ยงอยู่จุดไหน?
เลี้ยง : ตรงข้ามปั๊มน้ำมันเลยค่ะ มีพนักงานปั๊มน้ำมันโทรหาแฟน บอกว่ารถเยอะมากเลยครับ มาช่วยหน่อย เราก็เลยเกณฑ์คนจากอีกสถานีไปสองคนเพื่อไปช่วย ระหว่างนั้นโรงเรียนกำลังประกาศให้ผู้ปกครองมารับเด็กกลับบ้านเพราะมีเหตุปะทะที่ชายแดน รถก็เยอะ รถก็ติด เราก็ใช้รถมอเตอร์ไซค์ เพราะเราอยากมาช่วยเด็กขายของได้ทันท่วงที เพราะน้องบอกว่าไม่ไหวแล้ว เลยพากันขี่มอเตอร์ไซค์มา พอมาถึงก็ตรวจเช็กความเรียบร้อยสักพัก ก็ขี่มอเตอร์ไซค์กลับรถออกมา สักพักก็ได้ยินเสียง หันไปด้านหลัง เสียงระเบิดก็ลงเซเว่นค่ะ ตอนนั้นเวลา 10.50 น. โดยประมาณ ก็เห็นมันลงเลยค่ะ ลูกไฟพุ่งไปบนฟ้าก่อน ควันสีดำออกมามองไม่เห็นภาพปั๊มน้ำมันเลยค่ะ
ณ วินาทีนั้น?
เลี้ยง : ร้องกรี๊ดอย่างเดียวเลยค่ะ พี่ที่ขับรถอยู่ก็ตกใจ วินาทีนั้นไม่ได้ลงแค่เซเว่น มันตามมาอีก 3-4 ลูกค่ะ เราก็บอกให้พี่เขาจอดรถ พี่เขาตกใจมาก เร่งมอเตอร์ไซค์ไปเรื่อยๆ เราก็ร้องกรี๊ดบอกให้กลับรถไป ข้างในต้องมีผู้บาดเจ็บ ลูกสาวโทรเข้ามาพอดี ลูกสาวทำงานอยู่ น้องอยู่ช่วงปิดเทอม เราให้น้องไปทำงานตั้งแต่ 1 เดือน ปิดเทอมมา น้องก็ฝึกงานอยู่ที่ปั๊มค่ะ อยู่ร้านคาเฟ่อเมซอนค่ะ
พอภาพที่เห็น กลับรถกลับเข้ามาที่ปั๊ม?
เลี้ยง : เห็นผู้ชายใส่เสื้อสีส้ม น่าจะเป็นคนส่งขนมปัง อยู่ในคลอง มีคนอยู่ในคลองเยอะเลย มันมีคลองหน้าปั๊ม เขาน่าจะกระโดดลงไป มันมีท่อ เขาไปอยู่ในนั้น เลือดเต็มหน้าเต็มตัว เราขี่มอเตอร์ไซค์ตะโกนบอกว่าใครมีชีวิตอยู่ใหอพยพออกมาก่อน มันเป็นสีดำไปหมด เห็นลูกสาวก็ให้ขึ้นรถ พาลูกสาวไปส่ง เราก็ต้องเปลี่ยนเป็นรถกระบะออกมา น้องเจนก็โทรมาบอกว่าหนูช่วยเพื่อนไม่ได้ 2 คน เราก็บอกว่าใจเย็นๆ ก่อน ขอเอารถแล้วกลับไปก่อน เหตุการณ์ตอนนั้นประมาณนี้ค่ะ
ความโกลาหลที่เกิดขึ้น?
เลี้ยง : วุ่นวายมากค่ะ มีคนวิ่งออกมาเต็มไปหมดเลย เราเห็นคนอยู่ในคลอง พนักงานปั๊มก็วิ่งออกมา ขี่มอเตอร์ไซค์กันออกมา รถก็วุ่นวายไปหมด ย้อนศรกันอยู่ตรงนั้นค่ะ
คุณเลี้ยงเปิดภาพเมื่อวันศุกร์ให้ทางผู้ช่วยทูตทหารได้ดู วินาทีก่อนระเบิด มีคนเอารถมาจอด มีเด็กวิ่งเข้าไปร้านสะดวกซื้อ?
เลี้ยง : มีเด็กจูงมือพี่สาววิ่งเข้าไปร้านสะดวกซื้อ น้องสามคนนั้น จากที่เราฟังจากพนักงานปั๊มเล่า เขามาเติมที่หัวจ่ายด้านหน้าค่ะ ฝั่งด้านหน้าสุด เขาเติมแล้วกำลังจะออกไปแล้วค่ะ แต่น้องข้างในร้องอยากเข้าไปซื้อของในเซเว่น คุณพ่อเขาเลยไปจอดรถหน้าเซเว่น น้องเขาจอดรถกันสามคน แต่คุณแม่ไม่ทราบเข้าเซเว่นก่อนหรือเปล่าหรืออย่างไร น้องจูงพี่ไปเข้าเซเว่น แป๊บเดียวก็ระเบิดค่ะ
มีบางคนโดนสะเก็ดระเบิด วิ่งออกมา?
ชณทัต : วิ่งไม่ไหว เจ็บขา โดนสะเก็ดระเบิด 7-8 จุด คนนี้
น้องเจนอยู่ในร้าน?
ชณทัต : ลากคนอื่นออกมาจากในร้านอีกทั้งที่โดน
7 จุดที่โดนตรงไหนบ้าง?
เจน : มีตรงแขน ขา ขาสองข้าง ต้นขา
น้องบีก็อยู่ในปั๊ม ถูกสะเก็ดระเบิดเหมือนกัน?
บี : ใช่ค่ะ
ภาพที่คุณเลี้ยงเห็นเริ่มโกลาหล?
เลี้ยง : มีรถถอยรถเข้าๆ ตรงนั้นค่ะ เสียงกรี๊ดดังค่ะ เสียงเราด้วย เราตะโกนบอกให้ออกไป ตะโกนบอกตามทางถนน เพราะถัดไปไม่ไกลจะมีปั๊ม PT อยู่ตรงนั้น เราก็ตะโกนบอกปั๊ม PT ให้เอารถออกจากจุดนี้ก่อน เพราะระเบิดตามมาหลายลูกค่ะ เราตะโกนบอกไปตามทางเรื่อยๆ จนไปส่งน้องที่บ้านอากงอาม่าเสร็จแล้วก็ย้อนกลับเข้ามา ตอนนั้นรถดับเพลิงกำลังเข้า เราไปช่วงเซเว่นเขาไม่ให้เราเข้า เขาให้เราข้ามไปหาพนักงานฝั่งตรงข้าม เพราะน้องบอกว่ายังอยู่เคาน์เตอร์ให้เข้าไปช่วยดึงออกมาหน่อย เราก็วิ่งเข้าไป ทางนั้นบอกเข้าไม่ได้ ให้เราข้ามไปฝั่งตรงข้าม เพื่อไปหาพนักงานค่ะ
ช่วงเวลานั้น วันธรรมดาจะมีคนอยู่เยอะมั้ย?
เลี้ยง : ไม่เยอะค่ะ จะเงียบหน่อย แต่พอดีวันนั้นเป็นวันที่เขาประกาศให้ผู้ปกครองมารับเด็กจากโรงเรียน มันเป็นวันที่เกิดการปะทะขึ้นค่ะ ก็มีคนมาซื้อของตุนไว้ที่บ้าน
ชณทัต : ปั๊มนี้เป็นศูนย์รวมคนในพื้นที่ทั้งหมด ยิ่งตอนเย็นจะหนัก เพราะรถโรงเรียนจะมาจอดที่นี่ทั้งหมด แต่โชคดีที่ยังไม่เป็นตอนเย็น ปั๊มเป็นจุดกระจายสินค้าหลักๆ ด้วย ในพื้นที่ปั๊มนี้เด่นที่สุด มีสินค้ามากที่สุด เป็นปั๊มใหญ่
เลี้ยง : มันเป็นพื้นที่จะไปชายแดน มันสุดท้ายคือปั๊มนี้ หลังจากนี้ไม่มีแล้วค่ะ
หลังจากคุณเลี้ยงกลับเข้ามา ภาพที่เห็น ในฐานะเจ้าของปั๊ม คาดว่า?
เลี้ยง : คาดว่าทุกคนจะวิ่งออกมาหมดได้ เพราะเราเห็นมันระเบิดขึ้นข้างบน ไม่คิดว่าจะมีผู้เสียชีวิต แต่เราก็กรี๊ดค่ะ คิดว่าน่าจะมีคนวิ่งออกมาได้ทันทั้งหมด ในความคิดแรก จนน้องพนักงานโทรมา เราก็รีบเอารถออกไปเลย
เจ้าของปั๊มเองยังไม่คิดว่าจะมี 7 ศพอยู่เซเว่น?
เลี้ยง : ใช่ค่ะ อีกศพอยู่สวนยาง เป็นลูกแรกที่ลง มีภาพที่เซเว่นสั่น ลูกนั้นลูกแรกค่ะ
เจนถูกสะเก็ดระเบิดไป 7 แผล?
เจน : เช้าวันที่ 24 เราก็ออกไปทำงานกันปกติ เวลาประมาณ 10 โมงเราก็มีการเช็กสถานการณ์ว่าวันนั้นมีสถานการณ์อะไรบ้าง จากนั้นช่วงประมาณ 10.40 น. มีเสียงเหมือนฟ้าร้องลงมารอบแรกค่ะ ตอนนั้นสั่นสะเทือนมาก พอมีลูกที่ 2 เข้ามา ทุกอย่างก็มืดไปหมดเลยค่ะ ณ ตอนนั้นเราได้ยินแค่เสียงดังก้องหูมาก จับใจความอะไรไม่ได้เลยค่ะ แล้วก็ได้ยินลูกที่ 3 อีก ณ ตอนนั้นเราได้ยินแต่เสียงคนร้องกรี๊ดค่ะ เราอยู่โซนห้องผู้จัดการ สั่งของกัน ช่วงระเบิดลงเสร็จ มีประกายเพลิงลุกเป็นไฟแล้ว ช่วงจังหวะที่พี่บีเห็นตรงทางประตูหนีไฟ เป็นระบบอัตโนมัติ พอระเบิดลงปั๊บเราก็เห็นแสงสะท้อนเข้ามานิดเดียว ข้างในคือมืดมาก ทั้งฝุ่นทั้งเศษเหล็กเศษกระเบื้อง ไม่แน่ใจเพราะมันหล่นมาทับเราทั้งสองคนเลย จากนั้นเราก็วิ่งออกประตูหลังร้าน อ้อมมาหน้าร้าน เช็กว่าพนักงานเราทั้งหมดมีอยู่ 6 คน มีน้องสองคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้าห้องไอซียู คนนั้นโดนสะเก็ดระเบิดตรงหน้าท้องทะลุปอด น้องมีอาการแน่นหน้าอก และอีกคนหนีออกมาได้จากด้านนอก มีน้องอีก 2 คนที่ยังไม่เห็น คิดว่าอยู่ข้างใน ก็ตะโกนเรียกชื่อน้อง เรามองไม่เห็น เราถามน้องที่อยู่ข้างนอกว่าน้องอยู่โซนไหนของร้าน น้องบอกว่าน้องอยู่ตรงแคชเชียร์ เราก็วิ่งไปหาน้องตรงโซนแคนเชียร์ จังหวะนั้นเห็นน้องสลบมีเลือดอาบ นอนหมดสติ ไม่แน่ใจว่าตอนนั้นน้องมีชีวิตอยู่หรือเปล่า จังหวะนั้นอุ้มประคองน้องขึ้นมา เรียกปลุกน้องให้ตื่น แต่น้องไม่ตอบสนองเราแล้ว เราก็อุ้มน้องออกมา แต่ด้วยตอนนั้นเจ็บไม่มี เราทำยังไงก็ได้ให้พนักงานเราออกมาให้ได้มากที่สุด (เสียงสั่นเครือ) เราลากน้องออกไป ความที่ลากน้องออกมาไม่ได้ ด้วยเศษกระจก เศษเหล็กด้วย ทับกันเข้าไป เราคิดว่าไม่ได้ ถ้าลากน้องออกมา เปอร์เซ็นต์น้องรอด ถ้าลากน้องออกมาอาจทำให้น้องเจ็บหนักกว่าเดิม เราเลยทำเป็นทางให้คนเห็นได้มากที่สุด พยายามเอาเศษเพดาน เศษฝ้าออก คิดว่าถ้าคนเข้ามาจะได้เห็นน้องให้เร็วที่สุด เสียใจที่สุดคือไม่สามารถเอาน้องออกจากที่เกิดเหตุได้ ส่วนน้องอีกคน ณ ตอนนั้นเรามองไม่เห็นน้องเลย เราเสียใจที่น้องติดอยู่ในนั้นสองคน เราในฐานะเป็นพี่ และเป็นหัวหน้างาน แต่ไม่สามารถนำน้องของเราออกมาได้ทั้งหมด พอเจ้าหน้าที่เข้าไป ก็แจ้งให้ผู้มีชีวิตรอดตั้งสติ และหนีไปให้ไกลจากที่เกิดเหตุให้เร็วที่สุด
เจ้าหน้าที่มาหลังจากระเบิดลงนานแค่ไหน?
เจน : ไม่ถึง 5 นาทีค่ะ แต่จังหวะนั้นไฟก็ลุกแล้วครึ่งนึงกลางร้านเลย เหลือโซนน้องแคชเชียร์ ไฟยังลุกไม่ถึง แต่ ณ จังหวะที่เจ้าหน้าที่เข้ามา ไฟก็ไหม้เกือบทั้งหมดแล้ว
มีพนักงานในร้าน 6 คน ช่วงเวลาเดียวกันของทุกวันก็จะอยู่กัน 6 คนทำหน้าที่?
เจน : เป็นบางวันค่ะ บางวันก็ 4-5 คน แต่ด้วยจังหวะชุลมุน โรงเรียนให้ผู้ปกครองไปรับลูกกลับมาบ้าน เราก็คิดว่าลูกค้าต้องเยอะ หนูก็เข้าไปสาขานั้นเพื่อช่วยน้อง
ไม่สามารถช่วยน้องออกมาได้?
เจน : ไม่สามารถช่วยออกมาได้ค่ะ
ภาพที่คุณบีเห็นระเบิดลง เป็นยังไง?
บี : ตอนนั้นอยู่ในห้องกับพี่เจนค่ะ กำลังสั่งของอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ พอเดินออกมาจะทำบิลให้พนักงานส่งขนมปัง อยู่ดีๆ ฝ้าก็ถล่มลงมา แล้วก็มืดไปหมดเลยค่ะ ตอนนั้นได้ยินแต่เสียงกรี๊ดจากข้างนอก พอดีหนูเดินมาข้างหลังเห็นแสง ประตูหนีไฟเปิด ก็บอกพี่เจนไปๆ ออกด้านหลังก่อน แล้วค่อยไปดูว่าน้องอยู่ตรงจุดที่ปลอดภัยมีกี่คน ค่อยไปดูน้องว่าเหลือติดอยู่ข้างในมั้ย
ถ้าประมาณการลูกค้าที่จะวิ่งหลบด้านหลังได้มีประมาณกี่คน?
เจน : ไม่มีค่ะ ช่วงจังหวะที่ลง มันมืดไปหมดเลยค่ะ
บี : แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยค่ะ ได้ยินแค่เสียงกรี๊ด เหมือนตกใจค่ะ
พลตรีวินธัย : มีแรงอัด แต่คิดว่าในเซเว่นมันมีชั้น มีอะไร ไม่งั้นโดยปกติแบบนี้ ใครที่อยู่ในบริเวณ 5 เมตร น่าจะอันตรายสาหัสหมด คิดว่าในเซเว่นอาจมีชั้นเป็นเครื่องกำบังขึ้นนิดนึง ก็ถือว่ายังเสียชีวิตส่วนนึง เพราะถือว่าลงกลางจุดเลย น้องก็แสดงความเป็นผู้นำ ผมฟังก็นับถือนะ พยายามแก้ปัญหาในช่วงวิกฤต ถือว่าทำได้ดีที่สุดแล้ว
จากลูกแรกที่ลงมา ไม่มีเวลาสั่งการ ไม่มีเวลาตะโกนบอกอะไรเลยใช่มั้ย?
เจน : ไม่มีเลยค่ะ ณ วันนั้นเราจับโทรศัพท์เราได้เครื่องเดียว พี่บีจับโทรศัพท์ร้าน เราพยายามโทรหาสายสุดท้าย จังหวะนั้นเราจะกดหาแทบไม่มีสติเลยค่ะ เราคิดไม่ออกว่าจะโทรหาใครเป็นอันดับแรก ทีนี้ก็เลยโทรหาผู้จัดการร้านอีกร้าน เป็นของน้ำอ้อม แจ้งให้น้องทราบว่าตอนนี้ระเบิดลงเซเว่นแล้วนะ ช่วยแจ้งประสานงานหัวหน้าหรือเจ้าของร้านให้ด้วย ว่าพวกพี่อยู่ข้างใน
ลูกค้าที่มาใช้บริการ ทุกอย่างมืดหมด?
เจน : มองไม่เห็นเลยค่ะว่าทุกคนอยู่ตรงไหนบ้าง ตอนเข้าไปช่วยน้องทุกอย่างมองไม่เห็นเลยว่ามีใครอยู่จุดไหนบ้าง ตอนนั้นมีพี่คนที่สูญเสียแฟนและลูกชาย แกก็เข้าไป แล้วถามว่าเห็นน้องนักเรียนมั้ย แกก็วิ่งเพื่อหาน้องตรงนั้น แต่เรามองไม่เห็นใครเลยตรงนั้น เห็นแค่ผู้รอดชีวิตตรงนั้น คือพี่บี หนู และพี่ผู้ชายที่เดินเข้าไปหาแฟนแกข้างใน พวกหนูอยู่ในห้องเล็กในร้าน
จุดแคชเชียร์มีกี่คน?
เจน : มีสามคนค่ะ น้องซี1 เสียชีวิตค่ะ คนที่เอาน้องออกจากร้านไม่ได้ ซี2 รอดชีวิต เข้าห้องไอซียู ส่วนซี 3 ได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดเหมือนกัน น้องไม่ได้สลบ มีสติพาตัวเองวิ่งออกมาจากแคชเชียร์ ออกมาข้างนอก
ระหว่างเจนวิ่งไปหาแคชเชียร์ ได้ผ่านลูกค้าที่ได้รับแรงระเบิดมั้ย?
เจน : ช่วงจังหวะที่เข้าไป ตรงกลางร้านมืดไปหมดเลยค่ะ จะมองไม่เห็นอะไรเลยค่ะ ทุกอย่างกระจกแตกหมดเลยค่ะ กลางร้านโซนหลังแคชเชียร์ซี 1 มันมืดไปหมดเลย เราวิ่งไปหาน้องเพราะเราคุ้นเคยภายในร้าน รู้ตำแหน่งแคชเชียร์ค่ะ ตอนนั้นข้าวของกระจัดกระจาย ล้มระเนระนาดหมดเลยค่ะ
พ่อที่สูญเสียลูกวิ่งเข้าไปในร้าน?
เจน : ใช่ค่ะ วิ่งไปในโซนที่เราวิ่งไปช่วยเหลือน้อง มีแค่ตรงนั้นที่เข้าไปได้ แต่ไปลึกกว่านั้นไม่ได้ค่ะ
ตอนลงกลางร้าน ลูกค้าที่เข้ามาอยู่ตรงบริเวณแคชเชียร์ สามารถวิ่งไปได้มั้ย?
เจน : ไม่ได้เลยค่ะ
เลี้ยง : ตรงซี 1 เป็นกระจก ซี 2 เป็นผนัง ซี 3 เป็นผนัง โซนกระจกเหมือนสลบกันค่ะ โซนที่อยู่ข้างหลังเป็นผนังรอด กระโดดออกมาได้ น้องที่เสียชีวิต อยู่โซนกระจกค่ะ น้องเจนกับน้องบีอยู่ในห้องข้างในอีกที
พลตรีวินธัย : อำนาจการทำลายค่อนข้างสูง ไม่เหมือนระเบิดมือ ระเบิดขว้าง ผมก็รู้สึกสะเทือนใจว่าอำนาจการทำลายค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังดีใจที่เห็นผู้รอดชีวิตเพราะปกติแล้วอยู่ในรัศมี 5 เมตรถือว่าฉกรรจ์มาก แรงมันสูงมาก ระเบิดก็ใหญ่ อำนาจการทำลายสูงครับ รัศมี 5 เมตรถือว่าฉกรรจ์มาก
ชณทัต : ชุดผมเข้าไปวันที่ 3 ลูกระเบิดยังอยู่กลางร้าน เราเลยต้องถอยก่อน มันยังไม่เรียบร้อย ไม่รู้ว่าลูกไหนที่ยังไม่ระเบิด
กองทัพเอง มั่นใจในการสื่อสารข้อมูลที่เกิดขึ้น ความสูญเสียที่เกิดกับผู้บริสุทธิ์ ให้ทางทูตได้รับทราบอย่างไร?
พลตรีวินธัย : ทีมในฝ่ายไทยที่ลงไป มีระดับผู้แทนรัฐบาล กระทรวงต่างประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรื่องนี้ ทหารก็เหมือนเป็นออแกไนซ์หลักลงไป ไปถึงเราจัดองค์ประกอบเป็นสองแบบ แบบแรกเราไปฟังบรรยายสรุปที่มาที่ไป เราเล่าสั้นๆ เริ่มต้นเหตุการณ์นี้ เป็นมาอย่างไร จนนำไปสู่การใช้กำลังโดยกัมพูชาเริ่มก่อน เราก็ตอบโต้ไปตามสัดส่วนที่เหมาะสม กัมพูชาไม่ได้ใช้กำลังเป็นไปตามกติกาสากล จนกระทบต่อพลเรือน เราก็เลยพาเอกอัครราชทูต อุปทูต 11 ประเทศ ทูตทหารจำนวน 23 ประเทศ มีสื่อมวลชนภาษาอังกฤษ สื่อต่างประเทศ สื่อไทย วันนั้นประมาณ 150 คน โดยเราให้ฟังที่มาที่ไปของกิจกรรมในวันนั้น และพาลงพื้นที่ เราไปพื้นที่แรกคือที่นี่ เพราะถือว่าสะเทือนขวัญ ในทางทหารเราพยายามบอกว่ามันไกลมากแล้ว ความขัดแย้งใช้อาวุธคงได้ แต่ต้องอยู่ในกติกา ทีนี้ก็เกิดผลกระทบ สื่อต่างประเทศเอง เอกอัครราชทูต อุปทูต ทูตทหารเอง ก็ได้สัมผัสกับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ก็คุยกันเอง และเห็นภาพข้อเท็จจริงต่างๆ จากตรงนี้เราไปอีกที่ คือสถานพยาบาล ซึ่งอยู่ในกติกาสากลเหมือนกัน และที่สุดท้ายมันเป็นที่มาของผลกระทบทั้งปวง ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เมื่อเป้าหมายพลเรือนมันเกินขอบเขตมาขนาดนี้ มันนำไปสู่ต้องอพยพคนเยอะ ก็ไปดูศูนย์พักพิงชั่วคราว เราก็ได้เห็นการปฏิบัติงานของกลุ่มที่เขาดูแลพื้นที่ส่วนหลัง คือฝ่ายมหาดไทย หน่วยงานต่างๆ ฝ่ายปกครอง ฝ่ายท้องถิ่น และทหารที่เขาอยู่ในพื้นที่ส่วนหลัง และตร. ดูกันตรงนั้น เขาก็เห็นระบบการบริหารจัดการของประเทศไทย เป้าหมายหลักๆ คือเป้าหมายต่างประเทศ เพราะพี่น้องคนไทยค่อนข้างไม่ได้ตกข้อมูลข่าวสาร ถือว่าพวกเรา สื่อมวลชนในประเทศ ทั้งเป็นทางการและไม่ได้เป็นทางการทุกคนก็ช่วยกันนำเสนอ มีกลไกลหน่วยงานรัฐเป็นหลัก คร่าวๆ จะเป็นอย่างนี้
ประเมินว่าประสบความสำเร็จมากน้อยขนาดไหน?
พลตรีวินธัย : ผมว่าดีนะ เพราะจริงๆ อยากเรียนว่าตอนแรกอาจคิดว่าเหมือนเราทำช้าจริงๆ เราไม่ได้ทำช้า มันอยู่ในแผนวินาทีแรก แต่องค์ประกอบเราคนเยอะ เราดูความพร้อมของทุกส่วน ของทุกหน่วย เพราะระดับกลไกให้สื่อสารต่างประเทศ ตั้งแต่เอกอัครราชทูต กลุ่มทูตทหาร สื่อต่างประเทศ ถือว่าค่อนข้างสมบูรณ์ สื่อไม่ได้ไปวันนั้นถือว่าตกกระบวนข่าวพอสมควร ก็ถือว่าน่าจะบรรลุผลตามเป้าหมายรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ช่วงการพบกับผู้สูญเสีย ทูตหลายท่านน้ำตาคลอ?
พลตรีวินธัย : กิจกรรมทางทหารมันเกิดขึ้นได้ แต่ต้องอยู่ในขอบเขต เขาเองก็เข้าใจว่าความขัดแย้งเกิดขึ้น เราพยายามแก้ตามสัดส่วน มันมีกติกา มีกฎเกณฑ์ของมันอยู่ วิธีปฏิบัติต่อกัน ถึงใช้กำลังทหาร แต่ไม่ควรกระทบมาไกล ถึงขั้นพลเรือนได้รับผลกระทบขนาดนี้ ผมว่าภาพนี้น่าจะสร้างความสะเทือนขวัญไประดับโลกเลยทีเดียว
ผลตอบรับจากทูตดี จะมีครั้งต่อไปมั้ย?
พลตรีวินธัย : ต้องดูตามโอกาสอีกครั้งนึง แต่ถือว่าสิ่งสำคัญและเป้าหมายหลักที่เราต้องการสื่อสาร ถือว่าบรรลุเป้าแล้ว ต่อไปถ้าจะมี ก็เรื่องการสื่อสาร ตอนนี้น้ำหนักอยู่ที่การสื่อสารและการทำงานของกระทรวงต่างประเทศ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเองเขาก็เปิดฉากได้สวย ได้คุยกับระดับเวทียูเอ็น ผมว่าเขาก็ทำงานได้ดี ตอนนี้หน่วยงานเราจับมือกันทุกส่วนแล้ว ทุกคนก็เกื้อกูลการทำงานซึ่งกันและกัน ผมว่าถ้ามุมส่วนตัว เราน่าจะไปได้ดีทีเดียวประเทศไทย
วันนี้มีการประชุมจีบีซี ทุกอย่างเดินหน้าไปตามแผนที่เราวางไว้ ไม่ได้ช้าไป?
พลตรีวินธัย : ไม่ได้ช้า ทุกหน่วยใช้กลไกตัวเองอยู่แล้วก่อนเราไปรวมกันบ้าง ขณะที่เราแยกกัน ทุกคนจะมีเส้นเรื่องเดียวกันทั้งหมด อย่างส่วนกองทัพไทย จะเชิญกลุ่มผู้ช่วยทูต ซึ่งเราไม่ได้ทำวันนั้นวันเดียว ก่อนหน้านั้นเราก็เชิญมาหลายครั้ง เราพยายามอัปเดตสถานการณ์อยู่เรื่อยๆ เราไม่ได้ปล่อยแล้วนานๆ ทำทีนะ เราทำอยู่เรื่อยๆ แต่วันนั้นเราเห็นว่าทั้งสามส่วน ทั้งกระทรวงการต่างประเทศด้วย กองทัพไทยด้วย ไปจอยกันที่นั่น เป็นแบบนั้น แต่ขณะนี้ทุกคนก็ใช้ช่องทางตัวเองอยู่ในกรอบที่ตัวเองจะทำได้
มีการเตรียมข้อมูลต่างๆ ภาพขึ้น วิดีโอขึ้น เปิดให้ทูตได้เห็น และบรรยากาศจริง ณ วินาทีนั้นเป็นยังไง?
พลตรีวินธัย : ผมถึงบอกว่าแบ่งเป็นสองพาร์ต ส่วนแรกให้เข้าใจเรื่องย่อในแบบกระชับและครบถ้วน กระจ่างเลย จากตรงนั้นก็เหลือไปมองสภาพจริง เขาเพิ่มเติมคือได้เห็นจากของจริง เห็นสภาพ
ชณทัต : สภาพศูนย์พักพิง ที่ไปดูมา ต่างประเทศเขาโพสต์เลยว่านอนกับเสื่อ ไม่มีที่นอน คนเป็นพัน นอนกับเสื่อ นอนกับพื้น ถามว่าเจ็บหลังมั้ย คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายทุกคนเจ็บหลังหมด แต่ต้องทนอยู่เป็นอาทิตย์
พลตรีวินธัย : แต่ข้อดีของไทยคือว่าทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐหรือเอกชน ทุกคนไปรุมช่วยกันแสดงน้ำใจอยู่ที่นั่น มันก็เป็นภาพอีกแบบนึงถึงความสามัคคี ทุกคนเข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ต่างฝ่ายต่างให้กำลังใจกัน วันนั้นคนที่อยู่ที่นั่นก็ให้กำลังใจทหาร เราเองก็อยากให้กำลังใจเขา เขาได้รับผลกระทบ ให้กันไปให้กันมา มันเลยเป็นบรรยากาศเหมือนของแถมให้ตัวแทนชาวต่างประเทศเขาได้เห็น ตรงนั้นก็สำคัญ
เหตุการณ์วันนั้น น้องหลิงหลิง ลูกสาวเจ้าของปั๊มอยู่ในเหตุการณ์ วันที่ผู้ช่วยทูตทหารลงพื้นที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา น้องหลิงหลิงก็เป็นหนึ่งความรู้สึกที่ถ่ายทอดไปสู่ผู้ช่วยทูตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วันนั้นน้องอยู่ในเหตุการณ์ หนูอยู่จุดไหน?
หลิงหลิง : อยู่ร้านกาแฟอเมซอนค่ะ ห่างจากเซเว่นประมาณ 20 เมตรค่ะ หนูยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์ค่ะ
หนูมาทำงานช่วงปิดเทอม ลูกค้าคาเฟ่อเมซอนเยอะมั้ยตอนนั้น?
หลิงหลิง : ตอนนั้นไม่มีเลยค่ะ
เลี้ยง : ช่วงนั้นหมดช่วงกาแฟไปแล้วค่ะ จะมาอีกทีช่วงเที่ยงครึ่งค่ะ แล้วมีเหตุการณ์ปะทะกันที่ชายแดน เขาก็รีบกลับไป ไม่มีใครมานั่งเล่นในร้านค่ะ
หลิงอยู่กับพนักงานกี่คน?
หลิงหลิง : 2 คนค่ะ แต่ตอนระเบิดลง คนนึงวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
เลี้ยง : เขาอยู่กัน 3 คน คนนึงเข้าห้องน้ำ สองคนอยู่ในร้าน
หนูถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นให้ผู้ช่วยทูตได้ฟัง หนูถ่ายทอดยังไง?
หลิงหลิง : (พูดภาษาอังกฤษเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อยู่ในคาเฟ่อเมซอน ไม่ได้มีลูกค้า หลังเสียงบอมพ์ดังขึ้น แม่มารับน้องกลับไป สิ่งที่ย้ำประโยคสุดท้ายคือไทยแลนด์ไม่ใช่ผู้เริ่มก่อน นี่คือสิ่งที่ต้องการบอกให้ทั่วโลกได้รับรู้)
วันนั้นสะเทือนใจเราขนาดไหน?
หลิงหลิง : มากอยู่ค่ะ
พลตรีวินธัย : น้องได้วิ่งเข้าไปดูมั้ย หรือกันออกมาเลย
เลี้ยง : น้องวิ่งออกมาตรงออฟฟิศค่ะ ช่วงหลังปั๊ม วิ่งมาตรงออฟฟิศ แต่จุดนั้นมีลูกปรายวิ่งเข้าไปบ้านพักคนงานซึ่งอยู่ช่วงนั้นเหมือนกัน น้องวิ่งไปตรงนั้น น้องโทรมา ก็บอกว่าให้ไปอยู่ตรงนั้น แล้วหมอบไว้นะ ให้คนอื่นหมอบไว้ด้วยนะ เราก็แจ้งไว้แบบนี้ ลูกปรายพุ่งไปบ้านพักคนงาน กระจกทะลุด้วย แล้วก็พุ่งไปตรงลานเติมน้ำมัน
ชณทัต : เสาน้ำมัน ตู้น้ำมัน ไปหมด
เลี้ยง : พังหมด กระจกคาเฟ่อเมซอนก็มีลูกปรายพุ่งไปประมาณ 4-5 ลูก ถ้ามีคนนั่งอยู่ตรงโซฟาก็น่าจะเรียบร้อย เพราะมันพุ่งตรงระดับศีรษะ
ชณทัต : จากการตรวจเส้นลูกปรายจะกระเด็นไปไหนบ้าง ก็ได้รู้ว่ามันอยู่ระดับศีรษะหมดเลย
ถ้าเป็นด้านจิตใจ ไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่ถ้าในแง่มูลค่าที่ประเมินมา ความเสียหายที่ต้องซ่อมร้านสะดวกซื้อ ธุรกิจที่ต้องปิดให้บริการ ตัวเลขที่ออกมาเท่าที่รายงานข่าวไป คืออยู่ที่ 18 ล้านบาท?
เลี้ยง : มูลค่ารวมวันนี้คือ 20 ล้าน เราต้องปิดถึง 3 เดือน พอเรามาดูแล้วลูกปรายเข้าไปที่ตู้จ่ายไม่สามารถเปิดสถานีบริการเปิดน้ำมันได้ ถ้าเราเปิดปั๊มน้ำมันกับเซเว่นไม่ได้ อเมซอนเราก็เปิดไม่ได้เหมือนกันค่ะ
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณเลี้ยงเดินทางมายื่นหนังสือผ่าน 4 หน่วยงาน มีที่ไหนบ้าง?
เลี้ยง : กระทรวงการคลัง คปภ. ซีพีออล ปตท. ประกันมีสองฉบับค่ะ ฉบับนึงเกี่ยวกับตัวทิพยประกันภัย คุ้มครองปั๊มและโครงสร้างในสถานีน้ำมัน ตัวที่สองเป็นประกันคุ้มครองบุคคลที่สาม ผู้บาดเจ็บและทุพลภาพตลอดชีวิต ซึ่งเรามีผู้บาดเจ็บและทุพลภาพตลอดชีวิตด้วยนะคะ อยู่ 1 คนค่ะ ตอนนี้รักษาตัวที่รพ.รามาฯ น่าสงสารมากค่ะ เขาเส้นประประสาทที่คอขาดหมดเลยค่ะ เขาเป็นลูกค้าที่มาจ่ายเงินตู้ที่ 1 มันลงหลังเขา บาดเจ็บสาหัส ทุพลภาพค่ะ ตรงนี้คือเป็นห่วงค่ะ อยากให้เขาได้รับการเยียวยา ในหลวงร.10 ท่านก็เยียวยาให้ตลอดก็จริง แต่คุณพ่อคุณแม่เขาก็ต้องใช้เงินค่าใช้จ่ายส่วนตัว ก็อยากให้เขาได้รับในส่วนนี้ค่ะ อยากทราบกรอบเวลาที่ชัดเจนและจำนวนด้วยค่ะ ทั้งภาครัฐด้วยค่ะ ไม่ใช่แค่พีซีออลกับปตท. นะคะ ขอภาครัฐด้วย เพราะมันเป็นเรื่องรัฐต่อรัฐค่ะ มันไม่ใช่เรื่องซีพีออล ปตท. กับอีกรัฐนึง อยากทราบเหมือนกันว่าภาครัฐจะว่ายังไง กรอบเวลา และจำนวน ว่าจะเยียวยาเราเท่าไหร่อย่างไร จะคลอบคลุมทั้งหมดนี้มั้ย เพราะมันก็ไม่ใช่ความผิดของเราค่ะ ไม่ใช่ความผิดพนักงาน ที่เครียดคือช่วงหยุดงาน พนักงานจะทำอะไร ภาครัฐจะช่วยยังไง เพราะบางส่วนเราได้กระจายให้ไปบ้างแล้ว แต่ไม่ได้ทั้งหมด เพราะมัน 30 กว่าคนโดยประมาณค่ะ จุดสถานที่ตรงนั้น เซเว่นแถวอำเภอ เป็นสวรรค์เด็กน้อยนะคะ เขาเห็นก็วิ่งอยากเข้าไป ตรงจุดนั้นเป็นจุดเดียวที่คนละแวกนั้นได้รับความสะดวกสบาย ได้ใช้สินค้าเหมือนคนในเมือง ร้านค้าที่ปิดไปทั้งหลายแหล่ด้วยค่ะ ว่าระยะเวลาช่วงนี้ รัฐจะทำยังไงกับคนที่อยู่ตามขอบชายแดนทั้งหลาย ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ ทุกอย่าง อยากทราบ ทำไมไม่มีคำตอบใดๆ ออกมาเลย คำตอบที่ได้คือรอประชุม รอเข้าสภาวาระ
พลตรีวินธัย : ผมเข้าใจแล้วล่ะ เหตุการณ์แบบนี้มันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ ถ้าคนต้องรับผิดชอบ ต้องยิงจรวดมาโดน คนนี้ก็ต้องไปตามเอาที่กัมพูชาให้ได้ สมมตินะ เหมือนกันอิสราเอล ฮามาส ทุกคนได้รับผลกระทบหมด มันมีอีกหลายเคส หลายตัวอย่าง แต่แน่นอน คนทำคือกัมพูชาแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์
เลี้ยง : แต่ว่ารัฐบาลไทยไปนั่งโต๊ะเจรจากับกัมพูชาว่าให้หยุดยิงไม่มีเงื่อนไข ไม่มีผู้แพ้ชนะ แล้วใครจะเป็นคนมาเยียวยา
พลตรีวินธัย : แพ้ชนะไม่เกี่ยวครับ ถ้าลักษณะแบบนี้ใครเป็นคนต่อย ใครเป็นคนยิง มันอยู่ตรงนั้น บางทีหยุดแล้ว แต่ยังทำอยู่ ก็ยังหนักเป็นสองเท่า เราน่าจะใช้บทขอความเห็นใจซึ่งกันและกัน แต่ถ้าใช้ระบบแบบนี้ จะกลายเป็นใช้ระบบนิตินัย แทนที่จะใช้ระบบพฤตินัย หรือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน หากองทุน ผมคิดเองแบบเร็วๆ นะครับ เรามีคนทั้งประเทศให้กำลังใจอยู่ แต่คนนี้ดันมีภูมิภาคอยู่แถวนี้ อะไรแบบนี้ ผมว่ามันน่าจะมีทาง แต่ถ้าเราเดินในรูปแบบเก่าๆ หรือเราศึกษาก่อนว่าลักษณะแบบนี้ ถ้าเกิดกับต่างประเทศ ที่เกิดความเสียหายหนักกว่าเราอีก มีตึกใหญ่อะไรต่างๆ เยอะแยะ ผมคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดคือเราจะทำยังไงให้คนเห็นใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น บางทีมันเยอะกว่า เหมือนทหาร เราจะเห็นว่าเขาสูญเสียหรือทุพลภาพ รัฐอาจกำหนดไว้ในระบบส่วนนึง แต่ปรากฏว่านับไปนับมา คนเข้าใจเขา ถ้าเปรียบเทียบปริมาณกลับสูงกว่าที่รัฐกับรัฐบาลดูแลอีก
ชณทัต : คำนี้น่าใช้ กองทุนผู้ประสบภัยจากการสู้รบอะไรก็ตาม รัฐบาลอาจตั้งงบประมาณนี้มาโดยตรง แล้วเข้ามาตรวจสอบ
พลตรีวินธัย : หมายถึงวันนี้เรากำลังคุยในฐานะประชาชนคนนึง ณ ตอนนี้ต้องไม่มองว่าพี่ต๊อดเป็นทหารนะ เดี๋ยวกลายไปยุ่งเรื่องคนอื่นอีก มันเสียมารยาท แต่พี่มองเอง เพราะมันคิดตลอดแหละเวลาเราทำอะไร ทหารเองเราคิดมาก่อนแล้ว ว่าเราต้องต่อยบนเวทีนะ ไม่ใช่ลงไปฟาดคนดู เรารู้ว่าขอบเขตแค่ไหน เป้าหมายทางทหารเท่านั้น ผมไม่ไปซื้อรถถังใช้คุณด้วยนะ ไม่ใช่ มันบอกกันชัดเจน มีกติกายอมรับ ทีนี้ในเมื่อไปโดนพลเรือนจะเอายังไง ถ้าเรามองในทางกฎหมาย ต้องไปร้องเอากับกัมพูชา นี่คือสิ่งที่ผมคิดเหมือนประชาชนทั่วไปที่พยายามมองหลายๆ มุม
ชณทัต : หลักมนุษยธรรม คิดแบบนี้ถูกต้อง ความเห็นใจซึ่งกันและกัน
เรื่องการอพยพคน ทางมาลีบอกว่าเราสั่งอพยพคนที่สุรินทร์?
พลตรีวินธัย : ต้องตั้งหลักว่า สิ่งที่กลาโหมกัมพูชาพูดมา มันไม่มีความน่าเชื่อถือ มันไม่มีเลย ไม่มีที่มาที่ไป ถามว่าด้วยเหตุผลอะไร แต่ไม่เป็นไร ผมว่าสังคมหรือฝ่ายไทยน่าจะรู้จักโฆษกกลาโหมแล้ว แต่เราก็ยืนยันไปตามระบบว่าไม่มี เพราะเราเองก็เคร่งครัดเรื่องกติกา ถ้าระดับรัฐบาลตกลงแล้ว ถ้าไม่สุดๆ จริงๆ ก็ต้องอยู่ให้ได้ในกรอบนี้เพราะสังคมโลกมองอยู่ แต่เราก็ไม่ได้ปิดประตู ถ้ามากระทำต่อเราอีก ก็มีโอกาสเหมือนกัน ใช้ความอดทนอดกลั้นให้ถึงที่สุด
เรื่องโดรนล่าสุดที่สุรินทร์ก็เป็นของกองทัพเราเอง?
พลตรีวินธัย : ใช่ๆ เพราะว่าตอนนี้การใช้เครื่องมือตรวจการ เราเองก็รับมือให้ทัน ช่วงหยุดยิงต่างฝ่ายต่างหาข้อมูล ช่วงหยุดยิงที่ผ่านมา ข้อมูลด้านการข่าวก็น่าเชื่อถือว่ากัมพูชาไม่ได้หยุดที่จะเพิ่มกำลัง หรือมีท่าทีทำนองยั่วยุก็ยังมีอยู่ เราก็ต้องมีความพร้อม นอกเหนือจากกำลัง เราก็มีมาตรการรองรับ เราก็ตรวจการในส่วนของเราเองเหมือนกัน แต่ขณะนี้ไม่มีปรากฎบินข้ามพรมแดน แต่ฝั่งกัมพูชาอาจบอกว่าเราข้ามแต่จริงๆ ไม่มีหรอกครับ ส่วนใหญ่เราก็ดูว่าของใคร ช่วงนี้งดโดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน งดไม่ให้มีการบินอยู่แล้ว ถ้าบินก็ผิดกฎหมาย ส่วนใหญ่เรากังวลว่าอาจไม่ได้ขึ้นมาจากฝั่งกัมพูชา กลัวว่ามาอยู่ในพื้นที่เราแล้วฝากคนโน้นคนนี้มาหาข่าว เท่านั้นเอง
เราแยกไม่ได้ว่าเป็นโดรนของใคร ถ้าประชาชนเห็นการบินโดรนก็ให้แจ้ง?
พลตรีวินธัย : แจ้งไว้ก่อน ไม่เป็นไร ถ้าเป็นส่วนราชการเขาจะรู้เองว่าอันนั้นเป็นของเขา ดีกว่าไม่มีข้อมูลเลย โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้เคียง หรือสถานที่สำคัญของราชการ หรือที่ตั้งหน่วยทหาร ถ้าเห็นแถวนั้นไม่ได้เลย อาจต้องกำจัดเลย ต้องทำลาย
เรื่องปราสาทตาควาย เนิน 350 ที่มีข่าวว่าเราเคยยึดได้แล้ว แต่มีคำสั่งให้ถอย?
พลตรีวินธัย : ไม่ใช่เลย ตลอดเวลาผมจะพูดอยู่เสมอ ว่าเรากำลังพยายามกระทำต่อพื้นที่ไหน พื้นที่ตาควายก็บอกว่าเป็นความพยายามสูงของฝั่งเรา ฝั่งโน้นก็เป็นพื้นที่ความพยายามสูงเหมือนกัน มันจะเหลือกันไม่กี่พื้นที่ ผมจะพูดในภาพรวม เพราะว่าผมเองในช่วงชุลมุน ในช่วงที่มีการปะทะ เราเองก็ไม่อยากให้เขาเสียสมาธิ ข้อมูลอาจไม่ไปรบกวนกันมาก แต่พยายามเก็บรายละเอียดมาให้ แต่ลักษณะได้แล้วไปถอย ไม่มีหรอกครับ ไม่มีคำสั่งแบบนั้น แต่ผมเห็นว่าช่วงนึงการใช้อาวุธกันในวันสุดท้าย เหมือนให้กำลังใจกันมากกว่า อย่างภูมะเขือเป็นพื้นที่ยากที่นึง แต่ทำได้เบ็ดเสร็จจริง มันมี 3 องค์ประกอบเท่านั้น การปฏิบัติของเรา เราต่อสู้ด้วยแผนเผชิญเหตุ ตรงไหนมีอะไรใช้อาวุธแบบไหน เราก็ตอบโต้เป็นพื้นที่ๆ ไป ไล่มาเป็นพื้นที่ เพราะลักษณะชายแดนจะมีพื้นที่ส่วนนึงที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ แต่เดิมจะมีการประท้วงถ้าทำอะไรผิดข้อตกลง แต่คราวนี้พื้นที่อ้างสิทธิ์ เริ่มมีกัมพูชามาขุดคูเรต เราก็ประท้วงก่อนนะ ก่อนมีเหตุปะทะ กรณีแบบนี้มันจะมีอยู่เรื่อยๆ แต่หลังจากมีการใช้กำลัง โดยกัมพูชาเริ่มก่อนที่ปราสาทตาเมือนธม เมื่อมีการใช้กำลัง คราวนี้ทุกพื้นที่เลยใช้กำลัง เหมือนแต่ก่อนใช้การเจรจา ประท้วง แต่คราวนี้ผลักดันกันด้วยกำลัง ไล่ไปทีละพื้นที่ๆ จนพื้นที่ตาควายเป็นพื้นที่สุดท้าย มันก็ยังมีความพยายามกันอยู่ ตาควายเราได้อยู่ 3 ลักษณะ คือต่างฝ่ายต่างไม่มีใครวางกำลังเลย ใช้กันได้ตามเงื่อนไขโดยไม่มีอาวุธนะ ถึงจะเดินไปเดินมาได้ นี่คือแบบที่หนึ่ง แบบที่สองเราสามารถควบคุมได้แม้กระทั่งการวางกำลัง และการควบคุมด้วยอาวุธ แบบที่สามมีอยู่ปราสาทตาควาย เราควบคุมโดยการใช้อาวุธ เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องจังหวะสุดท้ายที่จะเข้าไปบริเวณพื้นที่ที่จะเอากำลังวางเลย มันมีเรื่องทุ่นระเบิด มันเป็นพื้นที่รอการสังหาร รอระดมใส่อาวุธจากฝั่งตรงข้าม เลยขอคุมอยู่ข้างนอกด้วยอาวุธ พื้นที่ทั้งหมดคือการปกป้องดินแดนเรา เพียงแต่คราวนี้เราเลือกใช้เส้นปฏิบัติการเราเป็นหลัก ปราสาทตาควายเราผลักไปอยู่ริมได้ แต่เราไม่สามารถเข้าไปวางกำลังได้
ไม่ได้หมายความว่ายึดแล้วถูกสั่งให้ถอย?
พลตรีวินธัย : ไม่ใช่ๆ ปราสาทตาควาย บางทีพูดถึงหน่วยมันก็ไม่ใช่ หน่วยอื่นผมไม่ออกชื่อ มีหน่วยรับผิดชอบอยู่แล้ว เพียงแต่ 2-3 วันแรกเป็นช่วงที่มีความพยายามต่อกัน เขาตีเราก็มี เราตีเขาก็มี มันยื้อกันอยู่ จนวินาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา พวกเราระดมสรรพกำลัง จะเข้าแล้วประสบเหตุมีสนามทุ่นระเบิด ตรงนี้ทำให้การเคลื่อนที่ข้างหน้าในจังหวะสุดท้ายมีผล
หลายเพจได้โพสต์ได้ยินเสียงหมาหอนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมากับศพทหารกัมพูชา กองทัพเองจะชี้แจงอย่างไร?
พลตรีวินธัย : ผมเองในฐานะที่เป็นทหาร ตรงนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องที่เราเองรู้สึกหดหู่ การปฏิบัติการต่อร่างเพื่อนทหารด้วยกัน มีความสำคัญมาก ผมได้รับข้อมูลไม่เป็นทางการตั้งแต่ช่วงแรก มันนานมาแล้ว น่าจะแถวภูผี จนกระทั่งเป็นข่าวผ่านสื่อมา จริงๆ เราเองก็จะเห็นว่าถ้าอยู่ในพื้นที่เรา เราจะจัดการให้ด้วยซ้ำไป เจรจา และนำส่ง บางทีพลโทมาลีบอกว่าไม่ใช่ของเขาอีก เรามองว่าแบบนี้ถือว่าไม่สง่างาม ไม่ให้เกียรติผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้กับประเทศตนเอง ในทางทหารไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเชลยหรืออยู่ในฐานะอะไร เราให้เกียรติความเป็นทหาร ความเป็นสุภาพบุรุษมันมีอยู่นะ ถึงใช้อาวุธต่อกัน มันมีกฎกติกา ธรรมเนียมปฏิบัติอยู่ แต่กรณีแบบนี้ถูกทิ้งเหมือนไม่เยื่อใย เราดูหนัง ดูภาพยนตร์จะเห็นว่าต้องเอาร่างเพื่อนมาให้ได้ เรียกอากาศยานมารับ เหนื่อยหนักหนาสาหัส คนขับต้องรักษาตัวเอง มาเอาร่างเพื่อนกลับไป มันเป็นขวัญและกำลังใจ แต่แบบนี้ถือว่าผิดธรรมเนียมปฏิบัติของทหาร และเป็นอย่างนั้นจริงครับผม
ยังต้องการยาดมกับหน้ากาก N95?
พลตรีวินธัย : ในพื้นที่เขาบอกว่าเพียงพอ ตอนแรกเขาพูดมาแรกๆ แต่ตอนนี้น่าจะเพียงพอแล้วครับ ยังไม่ได้ต้องการ ถ้าขาดเหลืออะไรจะส่งสัญญาณให้พี่น้องประชาชนได้แสดงน้ำใจ แต่ตอนนี้ยังครับ
เลี้ยง : เรื่องรถผู้ประสบภัยกับพนักงานที่ไหม้ ผู้ประสบภัยบางคนกราบบอกว่ารถเขาประกันไม่รับ เรื่องรถอีกเรื่องนึงค่ะ และรออยู่นะคะที่ไปยื่นมาวันนี้
ชณทัต : เดี๋ยวตามให้เต็มที่
เลี้ยง : ท่านรองนายกประเสริฐได้มาพบแล้ว เลขาฯ ท่านก็ยังไม่ได้ติดต่อกลับมา ก็ติดต่อมาหน่อยก็ดีนะคะ กรอบเวลากับจำนวนเงินที่จะเยียวยา