แม่ทัพภาค 2 ปฏิเสธข่าวลือกัมพูชาขอทหารไทยช่วยกู้กับระเบิด ย้ำฝ่ายไทยปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด

วันนี้ (4 สิงหาคม) พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee – GBC) ระหว่างวันที่ 4-7 สิงหาคมนี้ โดยระบุว่า สถานการณ์ปัจจุบันต่างฝ่ายต่างหยุดยิง โดยเราให้โอกาสกำลังทหารของกัมพูชามานำตัวผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตกลับไปยังประเทศ โดยเราจะอำนวยความสะดวกในการที่จะนำทหารแต่ละฝ่าย โดยเฉพาะฝ่ายกัมพูชาไปรักษา และขอความร่วมมือไม่ให้มีการยิง ซึ่งเราปฏิบัติตามข้อตกลงอยู่แล้ว และขอให้ทุกคนติดตามผลการประชุม GBC

ส่วนกรณีที่ พล.ท. มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมของกัมพูชา อ้างว่าไทยละเมิดข้อตกลงนั้น พล.ท. บุญสิน กล่าวว่า เรามีการปะทะกันก่อนที่จะเกิดข้อตกลง แต่เมื่อมีข้อตกลงเราก็หยุดยิง เป็นการปฏิบัติตามเส้นเขตแดนอยู่แล้ว ภายใต้กรอบเส้นปฏิบัติการของเรา ไม่รุกนอกประเทศ เราต้องหยุดอยู่ตรงไหนอยู่ตรงนั้น เลื่อนจุดประสานเขตออกไป เพราะที่ผ่านมามีการรุกล้ำเขตแดนที่ไทย เราก็หยุดอยู่แล้ว ไม่ได้ปฏิบัตินอกเหนือจากกฎเกณฑ์การหยุดยิง

ขณะที่คำสั่งงดการบินโดรน พล.ท. บุญสิน ระบุว่า ในส่วนของ 20 จังหวัดภาคอีสาน ตนเองได้ประชุมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (ผอ.รมน.) ร่วมกับตำรวจภูธรทั้ง 2 ภาค ให้ไปดำเนินการแก้ไข และค้นหาบุคคลที่ขัดคำสั่งของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ที่ห้ามบินโดรนเด็ดขาด ซึ่งปัจจุบันก็จับได้หลายคน อยู่ในระหว่างการสอบสวนทางลึกว่าเป็นใครมาจากไหน พร้อมขอให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด อย่าเพิ่งเชื่อที่เขาพูด

“อย่างไรก็ตาม เรามีความพร้อมในทุกพื้นที่ ทุกค่าย ทุกสถานที่ราชการ ผู้ว่าฯ เป็นผู้รับผิดชอบ เช่น โรงไฟฟ้า ศาลากลาง สถานีตำรวจ และค่ายทหารต้องรับผิดชอบทั้งหมด อย่าอยู่เฉยๆ ทั่วประเทศต้องช่วยกันดู เพราะทุกวันนี้เป็นการปฏิบัติโดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ฝากประชาชนช่วยกันเป็นหูเป็นตา” พล.ท. บุญสิน กล่าว

แม่ทัพภาคที่ 2 ยังฝากถึงประชาชนด้วยว่า ขอให้ติดตามสื่อหลักของกองทัพ หรือรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม กองทัพบก และกองทัพภาคที่ 2 ส่วนหน้า ที่อยู่ในจังหวัดสุรินทร์อยู่แล้ว มีการอัปเดตข่าวทุกวัน ขอให้ประชาชนได้ติดตาม

พล.ท. บุญสิน ยังชี้แจงกระแสข่าวระบุว่า ทหารกัมพูชาขอร้องให้ทหารไทยไปช่วยเก็บกู้ระเบิดในพื้นที่ปราสาทตาควายนั้น โดยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นข่าวเท็จ ขอให้ประชาชนระมัดระวังการติดตามข่าว และอยากให้ติดตามเฉพาะเพจหลักจากกองทัพเท่านั้น แต่ก็ยอมรับว่ามีแรงกดดันจากการทำหน้าที่ในครั้งนี้ ซึ่งจะขอทำอย่างดีที่สุด และรายงานผู้บังคับบัญชาตลอด