คดี พิเชษฐ์ โดนฟัน ม.144 อาจสั่นเก้าอี้ แพทองธาร ในอนาคต
คำวินิจฉัยล่าสุดของศาลรัฐธรรมนูญ กรณี พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 10 ปี และพ้นจากสมาชิกภาพ ส.ส. จากการมีส่วนได้ส่วนเสียในการแปรญัตติงบประมาณ กลายเป็น บรรทัดฐานใหม่ ที่อาจส่งผลสะเทือนต่อการพิจารณางบประมาณของรัฐบาลในอนาคต รวมถึงรัฐบาลภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร ที่กำลังเผชิญการร้องเรียนในประเด็นเดียวกัน
คำวินิจฉัยของศาล ซึ่งมีมติ 6 ต่อ 3 ชี้ชัดว่า พิเชษฐ์ มีพฤติการณ์ขัดกันแห่งผลประโยชน์ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 144 เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการแปรญัตติเพิ่มงบประมาณใน 3 โครงการที่ดำเนินกิจกรรมในพื้นที่เขตเลือกตั้งของตน โดยมีทั้งบทบาทเสนอแปรญัตติ ลงลายมือชื่อในเอกสารราชการ และเป็นกรรมการหรือที่ปรึกษาในคณะกรรมการบริหารโครงการดังกล่าว
การกระทำเหล่านี้ ถูกตีความว่าเข้าข่ายการมีส่วนได้ส่วนเสียในงบประมาณ ทั้งโดยตรงและโดยอ้อม ซึ่งรัฐธรรมนูญมาตรา 144 ห้ามไม่ให้กระทำโดยเด็ดขาด โดยบทบัญญัติระบุว่า สมาชิกสภาฯ ไม่สามารถเสนอ แปรญัตติ หรือกระทำใด ๆ ที่นำไปสู่การมีส่วนเกี่ยวข้องกับงบประมาณ หากเป็นการเอื้อประโยชน์ส่วนตน
กรณีนี้ส่งผลให้พิเชษฐ์ กลายเป็นนักการเมืองคนแรกภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ต้องหลุดจากตำแหน่งและโดนตัดสิทธิ์การเมือง 10 ปี ตามมาตรานี้
ขณะเดียวกัน สถานการณ์ของรัฐบาลแพทองธารก็เริ่มร้อนแรงขึ้น เมื่อมีการร้องเรียนว่าการโยกงบประมาณปี 2568 ไปใช้ในโครงการ ดิจิทัลวอลเล็ต อาจเข้าข่ายการกระทำผิดมาตรา 144 เช่นกัน หากศาลตีความในแนวทางเดียวกัน อาจนำไปสู่การสิ้นสุดสมาชิกภาพของ ส.ส. หรือรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาลโดยตรง
การเมืองไทยจึงกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดว่า บรรทัดฐานพิเชษฐ์ จะกลายเป็นแนววินิจฉัยถาวรหรือไม่ และจะสั่นสะเทือนโครงสร้างอำนาจในสภาฯ ได้มากเพียงใด
ขอบคุณข้อมูลจาก bangkokbiznews