หุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัว กรอบ 1,200 - 1,240 จุด ตอบรับเจรจาหยุดยิงไทย-กัมพูชา
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐาน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด (Liberator) วิเคราะห์หุ้นไทยวันนี้ (29 ก.ค.68) ว่า เหตุการณ์ความวุ่นวายระหว่างไทยกับกัมพูชา คาดมีแนวโน้มดีขึ้น
หลังจากช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้นำรัฐบาลไทยและกัมพูชา ได้มีการเจรจาหยุดยิงระหว่างกัน ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน เป็นผู้ประสานงานและอำนวยความสะดวก ซึ่งจะมีผลเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค. 68
และจะนัดประชุมกองกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ช่วงเวลา 7.00 น. ของวันที่ 29 ก.ค. นอกจากนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค. โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ คาดจะส่งผลให้สถานการณ์ความตึงเครียด ผ่อนคลายลง ถือเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อการลงทุนมากยิ่งขึ้น
ส่วนด้านการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดว่าท้ายที่สุด ไทยจะโดนอัตราภาษีอยู่ในระดับเท่าใด (จากเดิมที่ 36%) ขณะที่ความคืบหน้าของประเทศอื่นๆ ที่สำคัญ พบว่า ล่าสุดทรัมป์ ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับ EU แล้ว
โดยกำหนดอัตราภาษีนำเข้า 15% (ลดจาก 30%) สำหรับสินค้ายุโรปส่วนใหญ่ที่ส่งเข้าสหรัฐฯ ส่วน EU จะซื้อพลังงานจากสหรัฐฯ และลงทุนเพิ่มอีก 6 แสนล้านเหรียญ ถือเป็นปัจจัยบวกต่อภาพตลาดโลก
ทั้งนี้ คาด SET วันนี้ลุ้นฟื้นตัว ในกรอบ 1,200 - 1,240 จุด โดยปัจจัยในช่วงถัดไปยังต้องเกาะติดการรายงานงบบริษัทจดทะเบียน ดังนั้นกลยทธ์ยังเน้นย่อสะสมหุ้นที่คาดกำไรดี มี Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ และมีสตอรี่เชิงบวก
ปัจจัยที่ต้องจับตา
29 ก.ค.
- JOLTS Job Openings
- ดัชนีความเชื่อมั่น
- ผู้บริโภคสหรัฐฯ จาก Conf. Board
30 ก.ค.
- ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมไทย
- GDP สหรัฐฯ ไตรมาส 2/68
- การจ้างงานภาคเอกชน สหรัฐฯ จาก A DP
- ประชุม FED
- GDP ยูโรโซน ไตรมาส 2/68
- ดัชนีความเชื่อมั่น Eurozone
หุ้นเด่นแนะนำ
CBG ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 68.00 บาท
- คาดแนวโน้มกำไรในไตรมาส 2/68 ยังเติบโตได้ทั้งจากไตรมาสก่อน และเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน แต่ยังคงต้องติดตามภาพรวมในช่วงครึ่งหลังปี 68 ที่ภาวะการแข่งขันยังค่อนข้างรุนแรงในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มชูกำลัง
- ความคืบหน้าล่าสุดทางไทยและกัมพูชา ได้ทำข้อตกลงการหยุดยิงระหว่างกัน คาดกระตุ้นจิตวิทยาเชิงบวกมากขึ้น หลังช่วงระยะสั้นราคาหุ้นตอบรับเชิงลบกับประเด็นนี้กว่า 10%