โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

S&P 500 คืออะไร? ลงทุนอย่างไรให้ปลอดภัย

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา
S&P 500 คืออะไร? ลงทุนอย่างไรให้ปลอดภัย

สินทรัพย์หนึ่งที่กำลังได้รับความสนใจในแวดวงนักลงทุนไทยเวลานี้ หนีไม่พ้นตลาดหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะดัชนี S&P 500 ที่เป็นที่พูดถึงมากขึ้น ที่พิสูจน์ตัวเองมาหลายครั้ง หลายวิกฤติ แม้กระทั่งล่าสุดที่เจอสงครามการค้า ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump ประกาศ Liberation Day หรือวันปลดแอกสหรัฐฯ ด้วยมาตรการภาษีตอบโต้หรือ Reciprocal Tariffs กับคู่ค้าทุกประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ตลาดการเงินการลงทุนทั่วโลกปั่นป่วนอย่างหนัก รวมถึง S&P 500 ที่ตลาดมองว่าปรับตัวขึ้นมาสูงมากแล้ว และทำสถิติ All Time High มาหลายปี ก็น่าจะถึงเวลาเข้าสู่ขาลงเสียที แต่กาลกลับไม่เป็นเช่นนั้นสิครับ เมื่อสถานการณ์คลี่คลายดัชนี S&P 500 ก็กลับมาทำ New High อีกครั้ง

ไม่แปลกที่นักลงทุนไทยจะเริ่มมองหาโอกาสการลงทุนในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยเองยังไร้ทิศทาง S&P 500 ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกการลงทุนที่พิสูจน์ตัวเองได้แล้วว่าจะสร้างผลตอบแทนได้ในระยะยาวได้แน่

ส่วนตัวผมเองก็มองเห็น เป็นจริงตามนั้นครับ ที่ผมเชื่อในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ไม่ใช่แค่เพราะฐานะที่เป็นตลาดใหญ่และสำคัญที่สุดของโลก แต่การออกไปลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังช่วยกระจายการลงทุนของคุณให้กว้างไกลมากขึ้น ลดความเสี่ยงจากความผันผวนในตลาดหนึ่งตลาดใดได้

นอกจากนี้ปัจจุบันผู้คนหันมาสนใจเรื่องการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับการลงทุนเองก็เข้าถึงง่าย เพราะเครื่องมือการลงทุนต่างๆ ถูกพัฒนาอย่างหลากหลาย ทุกคนเข้าถึงการลงทุนได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ในประเทศใด ไม่เว้นแม้แต่เทรนด์ฮิตอย่าง S&P500 ETF ก็ได้เช่นกัน

ทำไมดัชนีนี้ถึงดึงดูดใจนักลงทุนทั่วโลก วันนี้ผมจะพาไปทำความรู้จัก S&P 500 ดัชนีที่เป็นตัวแทนของเศรษฐกิจสหรัฐฯ พร้อมวิธีลงทุนที่สะดวก และเหมาะกับคนไทยทั้งมือใหม่และมือเก๋ากันเลยครับ

S&P 500 ย่อมาจาก Standard & Poor's 500 คือ ดัชนีตลาดหุ้น (Stock Market Index) ที่ใช้วัดผลการดำเนินงานโดยรวมของ บริษัทมหาชนขนาดใหญ่ที่สุด 500 แห่ง ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เช่น เทคโนโลยี การเงิน บริการสุขภาพ สินค้าอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกมากมาย

เปรียบเสมือน ‘ตัวชี้วัด’ สุขภาพและความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในภาพรวม เพราะหุ้นทั้ง 500 บริษัทนี้มีมูลค่ารวมกันคิดเป็นประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมดในสหรัฐฯ ครอบคลุมหลากหลายกลุ่มธุรกิจ เปรียบเสมือน ‘ตัวชี้วัด’ สุขภาพและความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในภาพรวม เนื่องจากหุ้นทั้ง 500 บริษัทนี้มีมูลค่ารวมกันคิดเป็นประมาณ 80% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั้งหมดในสหรัฐฯ

สำหรับข้อดีของการลงทุนใน S&P 500 มีจุดเด่นที่สำคัญหลายข้อ ได้แก่

  • กระจายความเสี่ยงดี เพราะลงทุนในบริษัทชั้นนำกว่า 500 บริษัท จากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม
  • ผลตอบแทนระยะยาวสูง โดยผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวย้อนหลังประมาณ 9-10% ต่อปี
  • ค่าธรรมเนียมและเงินลงทุนเริ่มต้นต่ำ เมื่อลงทุนผ่าน ETF หรือกองทุนดัชนี
  • ความโปร่งใสและสภาพคล่องสูง นักลงทุนสามารถซื้อและขายได้สะดวก อีกทั้งเกณฑ์การคัดเลือกหุ้นเข้าดัชนีก็มีความโปร่งใสและชัดเจน

สำหรับผลตอบแทนย้อนหลังของ S&P 500 แม้ผลตอบแทนในอดีตจะไม่ใช่เครื่องการันตีอนาคต แต่ในระยะยาว S&P 500 มีประวัติศาสตร์การสร้างผลตอบแทนที่น่าประทับใจ โดยผลตอบแทนเฉลี่ยระยะ 10 ปีที่ผ่านมา (2014-2024) อยู่ที่ประมาณ 12.2% ต่อปี และหากมองย้อนหลังไปช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ดัชนีมีการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10.5% ต่อปีเลยทีเดียว ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนถึงความมั่นคงและการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้อย่างชัดเจน (อ้างอิงจาก Macrotrends)

มุมมองที่น่าสนใจของการลงทุน S&P 500 ในปัจจุบันนั้น จะพบว่าไม่ว่ากี่ปีก็ตาม S&P 500 ก็ยังคงเป็นที่นิยมจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังวิกฤติ Covid-19 และการเติบโตของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Apple Microsoft และ Amazon ซึ่งมีสัดส่วนสำคัญในดัชนี ทำให้ S&P 500 ยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีในการลงทุนในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกมีความผันผวน

หากคุณถามว่า S&P 500 เหมาะกับใคร? ผมก็บอกได้เลยว่า เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะยาว อย่างน้อย 5-10 ปีขึ้นไป รับความเสี่ยงได้ และมองหาโอกาสเติบโตที่สม่ำเสมอ และที่สำคัญคือไม่ต้องการเสียเวลาวิเคราะห์หุ้นรายตัว แต่ต้องการลงทุนในหุ้นชั้นนำในสหรัฐฯ ก็สามารถลงทุนผ่านดัชนีได้เลยครับ

ปัจจุบันนักลงทุนสามารถเข้าถึงดัชนี S&P 500 ได้ง่ายกว่าเดิมผ่านการลงทุนในกองทุน ETF หรือกองทุนรวมดัชนี (Index Funds) ซึ่งมีต้นทุนต่ำ และสามารถซื้อขายได้ผ่านบริษัทหลักทรัพย์ทั่วไป

ผมขอตัวอย่าง ETF ที่น่าสนใจ ได้แก่ iShares Core S&P 500 ETF (IVV), SPDR S&P 500 ETF Trust (SPY) และ Vanguard S&P 500 ETF (VOO)

ที่ Jitta Wealth เองก็มีทางเลือกที่ช่วยนักลงทุนที่ต้องการลงทุนใน S&P 500 ได้อย่างสะดวก สบายใจ ผ่านนโยบาย Thematic DIY โดยเลือกธีม ‘ตลาดหุ้นสหรัฐฯ’ ที่ลงทุนใน iShares Core S&P 500 ETF (IVV) ที่อ้างอิงดัชนี S&P 500 โดยตรง หรือหากคุณต้องการกระจายความเสี่ยงที่มากขึ้น เพื่อให้เซฟๆ และปลอดภัยต่อความผันผวนก็สามารถเลือกลงทุนในนโยบาย Global ETF ที่จะลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ และหุ้นชั้นนำทั่วโลก ร่วมกับ ตราสารหนี้สหรัฐฯ ซึ่งจัดพอร์ตมาให้แล้วตามหลักการระดับโลกอย่าง Modern Portfolio Theory

ดัชนี S&P 500 ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมอย่างล้นหลามในหมู่นักลงทุนทั่วโลก ตั้งแต่มือใหม่ไปจนถึงผู้จัดการกองทุนมืออาชีพ ไม่ใช่เพียงเพราะเป็นตัวเลขที่ปรากฏในข่าวเศรษฐกิจทุกวัน แต่ด้วยเหตุผลหลากหลายประการที่ทำให้ดัชนีนี้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ

แต่อย่าลืมว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอนะครับ ไม่ว่าสินทรัพย์ใดจะเป็นขาขึ้นยาวนานเพียงใด ก็ต้องมีขาลงเช่นกันครับ การรู้จัก S&P 500 อย่างเดียวคงไม่พอ ลงทุนอย่างไรให้พอร์ตปลอดภัยน่าจะสำคัญกว่า ดังนั้นสิ่งที่ผมอยากแนะนำ หากคุณต้องการลงทุนใน S&P 500 ตามกระแสสุดฮิตตอนนี้ก็คือ การจัดพอร์ตแบบกระจายความเสี่ยง โดยเฉพาะหลักการจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite ยังเป็นหัวใจสำคัญที่จะพาพอร์ตของคุณให้รอดปลอดภัย โดย Core Port หรือพอร์ตหลักควรเน้นลงทุนกระจายในสินทรัพย์ต่างๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำและสามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ สัดส่วนอยู่ที่ 80% จะปลอดภัยครับ และ 20% เป็น Satellite Port ที่จะเป็นพอร์ตที่ทำกำไรให้พอร์ตเติบโตได้เร็วขึ้น ผ่านสินทรัพย์ที่เสี่ยงสูงขึ้น

ในช่วงที่ตลาดขาขึ้นอาจจะหอมหวานชวนลงทุน แต่หากคุณต้องการให้พอร์ตเติบได้ได้อย่างปลอดภัยในระยะยาวครับ คุณต้องมีสติ ไม่ทุ่มสุดตัวในสินทรัพย์หนึ่งสินทรัพย์ใดจนหมดหน้าตัก เพราะคุณคงรู้ดีว่าไม่ว่าตลาดไหนจะขึ้นไปทำสถิติอย่างไร ก็ไม่มีใครรับประกันความปลอดภัยให้พอร์ตคุณได้ แต่การจัดพอร์ตแบบ Core & Satellite เป็นเคล็ดลับที่คุณสามารถนำไปใช้กับทุกๆ สินทรัพย์ที่คุณเลือกลงทุนที่ผมพิสูจน์มาแล้วว่าสร้างสมดุลให้พอร์ตได้จริงทุกสถานการณ์ เช่นเดียวกับ S&P 500 ที่พิสูจน์ตัวเองมาแล้วครั้งแล้วครั้งเล่า

ไม่ว่าคุณจะเลือกลงทุนในตลาดใดหรือสินทรัพย์ใด ไม่ว่าจะทำสถิติ All Time High มากี่ครั้ง แต่ผมก็เชื่อว่าคุณอยากเห็นเงินต้นของคุณยังอยู่ครบ จริงไหมครับ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

ญี่ปุ่น ประกาศเตือนภัยสึนามิ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาดรุนแรง

31 นาทีที่แล้ว

อังกฤษประกาศรับรอง "รัฐปาเลสไตน์" ประเทศที่สองในยุโรปต่อจากฝรั่งเศสที่ประกาศก่อนหน้านี้

35 นาทีที่แล้ว

"ภาษีทรัมป์" จ่อกระทบราคากาแฟในสหรัฐฯ เหตุ"บราซิล"ถูกรีดภาษี 50% ธุรกิจอ่วม-คอกาแฟรับกรรมจ่ายแพงขึ้น

48 นาทีที่แล้ว

กองทัพอากาศ ยืนยัน “ข่าวปลอม” กองบิน 21 ถูกฝูงโดรนโจมตี

52 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Thailand becomes top world exporter of Tapioca

Thai PBS World

หอการค้าไทยหวังกัมพูชายึดมั่นหยุดยิง เร่งทีมไทยแลนด์ปิดจบดีลภาษีทรัมป์

Thairath Money

รุกตลาดยุโรป เปิดตัว “Green Tourism Collections” ดันไทยสู่ท่องเที่ยวยั่งยืนโลก

ประชาชาติธุรกิจ

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้30ก.ค.“ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลง” ที่ระดับ 32.38 บาทต่อดอลลาร์

ฐานเศรษฐกิจ

”บีโอไอ”ผนึกเอกชนชูธง “ฐานเซมิคอนดักเตอร์อาเซียน”บุกมาเลเซียโชว์ศักยภาพไทย

Thairath Money

"ภาษีทรัมป์" จ่อกระทบราคากาแฟในสหรัฐฯ เหตุ"บราซิล"ถูกรีดภาษี 50% ธุรกิจอ่วม-คอกาแฟรับกรรมจ่ายแพงขึ้น

TNN ช่อง16

IMF หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปี 68 หลังสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีนำเข้าเกือบทั้งโลก

ฐานเศรษฐกิจ

พาณิชย์ปรับวิธีส่งสินค้า-คุมราคาห้ามเอาเปรียบ กู้วิกฤติค้าขายเขมร

Thairath Money

ข่าวและบทความยอดนิยม

หุ้นไทยวันนี้ 29 กรกฎาคม 2568 ปิดบวก 16.53 จุด ตอบรับไทย-กัมพูชาหยุดยิง

TNN ช่อง16

5 ทักษะสำคัญ ทำให้การวางแผนการเงินได้ผลจริง

TNN ช่อง16

บัตรเรา เขารูด ใครจ่าย?

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...