เปิดวิธีวางแผนค่าใช้จ่าย - หารายได้เพิ่มจากอาชีพเสริม ฉบับครูในสหรัฐฯ ที่มีรายได้ 2 ล้านบาท/ปี
เมื่อเศรษฐกิจมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น การมี 'อาชีพเสริม' อาจช่วยเพิ่มช่องทางการหารายได้ใหม่ๆ เสมือนการมีเกราะป้องกันเพื่อรองรับความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ช่วยพยุงการเงินให้ไปต่อได้หากวันหนึ่งเราถูกเลิกจ้างอย่างกะทันหัน หรือธุรกิจที่ทำอยู่ต้องปิดกิจการ
ยุคนี้ใคร ๆ ก็มี "อาชีพเสริม"
Maddie Baker ครูประถมศึกษา วัย 27 ปี ในสหรัฐอเมริกา เผยที่มาของรายได้ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐ/ปี (ราว 2.04 ล้านบาท) กับทาง CNBC ว่า เธอไม่ได้ทำแค่อาชีพครูเท่านั้น แต่ยังมีงานเสริมคือการสร้างรายได้จากคลิปใน TikTok เพราะเธอมีเป้าหมายทางการเงินคือ การเก็บเงินฉุกเฉินและออมเพื่อซื้อบ้านในอนาคต
ทั้งนี้ รายได้ก่อนหักภาษีที่ 63,000 ดอลลาร์สหรัฐนั้นแบ่งเป็นเงินเดือนครูที่จะได้รับประมาณ 58,000 ดอลลาร์ (ราว 1.88 ล้านบาท) และส่วนที่เหลือคือรายได้จากคลิปต่างๆ บนโลกโซเชียล ที่ปีนี้สร้างรายได้อย่างน้อย 5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.62 แสนบาท) ซึ่งมาจากค่าโฆษณา สัญญาจากแบรนด์ต่างๆ และค่าคอมมิชชันการแนะนำสินค้าจาก Amazon
Maddie เล่าว่า ก่อนที่เธอคิดจะเริ่มทำคอนเทนต์ในรูปแบบคลิปอย่างจริงจังในช่วงต้นปี 2024 นั้น เธอมักจะมองหาวิธีสร้างรายได้เสริมอื่น ๆ เช่น รับสอนพิเศษในปิดเทอมช่วงซัมเมอร์ และทำงานเสริมเป็นที่ปรึกษาให้ครูที่เพิ่งบรรจุใหม่
เธอยังกล่าวอีกว่า คนส่วนใหญ่ที่เธอรู้จักพยายามหาช่องทางเพิ่มรายได้ เช่น เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งทำงานพิเศษช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลจากสมาคมการศึกษาแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ออกมาในเดือนเมษายนปีนี้ ที่ระบุว่า 40% ของครูระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาในสหรัฐฯ มักมีหลายอาชีพ
สำหรับ Maddie ที่สร้างรายได้มากขึ้น ล่าสุดเธอตัดสินใจซื้อกล้อง Canon G7 X ที่จับจ้องมานานด้วยเงินพิเศษที่เธอทำคอนเทนต์ และในปีการศึกษาหน้าเธอวางแผนที่จะเก็บออมเงินมากขึ้นเพื่อเตรียมเงินสำหรับดาวน์บ้านสักหลักไว้ใช้ชีวิตอยู่กับสามี
จากกรณีนี้หากเธอทยอยเก็บออมวันละนิดจากเงินเดือนครูเพียงอย่างเดียว อาจใช้ระยะเวลานานขึ้นกว่าซื้อกล้องที่ใฝ่ฝัน แต่เมื่อมีรายได้เสริมมาอีกทางจึงทำให้เธอไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วขึ้น
ประหยัดต่อไปแม้รายได้จะเพิ่มขึ้น
แม้ Maddie จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการทำคลิปใน TikTok แต่เธอให้ความสำคัญกับการวางแผนใช้เงินทุกบาท เช่น แทนที่จะไปฉลองความสำเร็จด้วยการทำเล็บที่ร้าน แต่เธอกลับเลือกที่จะทำเล็บเองที่บ้าน หรือเลือกชงกาแฟดื่มเองที่บ้านมากกว่าไปซื้อตามร้าน เป็นต้น
นอกจากนี้ เธอยังแยกบัญชีอย่างชัดเจน คือ เงินเดือนครูจะโอนตรงไปยังบัญชีค่าใช้จ่ายประจำวัน ในขณะที่รายได้จากโซเชียลมีเดียของเธอนั้นไม่ว่าจะ 0 ดอลลาร์ หรือ 2,000 ดอลลาร์ต่อเดือนจะถูกฝากเข้าบัญชีออมทรัพย์โดยตรง เพราะเธอไม่ได้ต้องการแค่มีเงินเก็บเพิ่มขึ้น แต่ต้องไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ด้วย
ในด้านค่าใช้จ่ายในบ้าน Maddie เลือกวิธีแชร์กับสามีคนละครึ่ง ไม่ว่าจะค่าเช่าบ้าน ค่าสาธารณูปโภค ของใช้ต่างๆ รวมถึงค่าสมาชิกบริการรายเดือน ซึ่งการบริหารเงินด้วยการหารครึ่งระหว่างสามี - ภรรยา ช่วยลดภาระทางการเงินของเธอให้น้อยลง
เส้นทางการเงินของ Maddie Baker ถือเป็นอีกตัวอย่างที่จับต้องได้ ว่าการสร้างรายได้เสริมจากโซเชียลมีเดีย สามารถเริ่มต้นที่ตัวเรา แต่หัวใจสำคัญคือเราต้อง สำรวจตัวเอง สำรวจตลาด เลือกสิ่งที่ใช่ และลงมือทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
หมายเหตุ: อัตราแลกเปลี่ยนที่ 32.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
ที่มา : CNBC,ธนาคารแห่งประเทศไทย
อ่านข่าวการเงินส่วนบุคคล และการวางแผนการเงิน กับ Thairath Money เพื่อให้คุณ "การเงินดีชีวิตดี" ได้ที่ https://www.thairath.co.th/money/personal_finance
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เปิดวิธีวางแผนค่าใช้จ่าย - หารายได้เพิ่มจากอาชีพเสริม ฉบับครูในสหรัฐฯ ที่มีรายได้ 2 ล้านบาท/ปี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- Gen Z ไม่รองานประจำ! เปลี่ยนความชอบ ให้เป็นรายได้ ผู้นำเทรนด์ในยุคที่เศรษฐกิจ-การเมืองไทย ชะลอตัว
- หนี้ ไม่ใช่ผู้ร้ายทางการเงิน! ถอดรหัส "วัคซีนหนี้" จากนักวางแผนการเงินมืออาชีพ
- 10 นิสัย “คนรวย” ที่ “คนทั่วไป” มักไม่ทำ
- เปิดวิธีวางแผนค่าใช้จ่าย - หารายได้เพิ่มจากอาชีพเสริม ฉบับครูในสหรัฐฯ ที่มีรายได้ 2 ล้านบาท/ปี
- เด็กจบใหม่ ไม่ขอเป็นมนุษย์เงินเดือน เปิดอาชีพน่าสนใจ เรียนจบปุ๊บ ลุยได้ปั๊บ
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath