โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

UTA ยอมรัฐขยายออก NTP สร้างสนามบินอู่ตะเภากลางส.ค.นี้ รออีอีซีชงครม.เจรจาสัญญา

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 16 ชั่วโมงที่ผ่านมา

นายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ อีอีซี (EEC) เปิดเผยว่า
EEC ได้ทำหนังสือถึง บริษัทอู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) แล้ว เพื่อแจ้งขอขยายเวลาส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (NTP: Notice to Proceed)โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

จากวันที่ 31 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมา ออกไปก่อนจนกว่า ครม.จะมีข้อสั่งการ ซึ่งทาง UTA ก็ได้ขยายให้ออกไปเป็นช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้

ทั้งนี้ EEC ได้ทำข้อมูลเพื่อรายงานครม. ถึงความคืบหน้าและปัญหาอุปสรรคการดำเนินโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท ที่มี UTA ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนฯ บมจ.การบินกรุงเทพ (BA), บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS), และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STECON) เป็นบริษัทคู่สัญญาได้ เพื่อเร่งแก้ไขปัญหา โดยหวังว่าจะมีการนำเสนอเข้าครม.ในวันที่ 5 ส.ค. 2568 นี้ หลังจากเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมายังไม่ได้มีการนำเรื่องเข้าครม.

ทั้งนี้ในการรายงานครม.จะมี 2 เรื่องหลัก ได้แก่

1.รับทราบ ปัญหาอุปสรรค ข้อเท็จจริงทั้งหมดที่เกิดขึ้นภายหลังการลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการฯ ซึ่งกระทบความเป็นไปได้ทางการเงินของโครงการอย่างร้ายแรง มีผลให้เอกชนคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินโครงการฯ ได้ตามสัญญาร่วมลงทุนของโครงการฯ รวมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นกับภาครัฐ

2. มอบหมายให้ สกพอ. เจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอุปสรรคตามข้อเท็จจริงทั้งหมดบนพื้นฐานความสมเหตุสมผลกับเอกชนคสัญญา เพื่อให้สามารถดำเนินโครงการฯ และการเกิดการลงทุนโครงการได้จริง

สนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก

ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขสัญญาร่วมลงทุน ให้ดำเนินการตามกระบวนการแก้ไขสัญญาร่วมประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ วิและกระบวนการ ในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. 2560 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม)

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมามีการเจรจากันมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เริ่มโครงการสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินฯ ปี 2561 และเซ็นสัญญาปี 2563 ซึ่งมีปัญหาจากปัจจัยที่มากระทบมาจากหลายสถานการณ์ที่แตกต่างกัน หลักการเจรจาต้องการแก้ไขปัญหาให้ครบทุกประเด็น

โดยหนึ่งในเงื่อนไขในการออก NTP คือต้องมีโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ด้วย แต่จากที่เจรจากันมา 6 เดือน โครงการรถไฟความเร็วสูงไม่มีความชัดเจน จึงเห็นว่าการเดินหน้าออก NTP ของสนามบินโดยไม่มีรถไฟความเร็วสูงถือเป็นการลดหย่อนเงื่อนไข

ทั้งนี้ทาง UTA ได้เสนอปรับแผนพัฒนา โครงการในระยะที่ 1 โดยขอเริ่มการพัฒนาขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารที่ 3 ล้านคน/ปี จากเดิมที่จะพัฒนารองรับที่ 12 ล้านคน/ปี

สำหรับแผนพัฒนาที่ตกลงไว้ก่อนหน้านี้ มีการปรับการพัฒนาจาก 4 ระยะ เป็น 6 ระยะ โดยระยะที่ 1 เริ่มต้นที่ 12 ล้านคน/ปี ซึ่งเป็นศักยภาพรองรับผู้โดยสารเทียบเท่ากับสนามบินภูเก็ตหรือสนามบินเชียงใหม่ ซึ่งเหมาะสมสำหรับการจะพัฒนาเพื่อเป็นฮับได้

ขณะเดียวกัน EEC ได้สอบถาม UTA ในทางกลับกันว่า หากดำเนินการไปแล้ว โครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบินมีการเปิดให้บริการ ซึ่งจะช่วยเพิ่มดีมานด์ให้สนามบินเหมือนเดิม ทาง UTA จะมีการพัฒนาในกรณีนี้อย่างไร ต้องคิดและเจรจากันไว้เลย ทั้งนี้เพื่อให้มีเหตุผลและแนวทางชี้แจงต่อทุกฝ่ายได้

การเจรจาต้องให้ครบทุกประเด็นและทุกกรณีที่จะเกิดขึ้น ตอนนี้ UTA บอกว่าจะเริ่มทำสนามบินโดยไม่รอรถไฟความเร็วสูง แต่หากรถไฟเปิดให้บริการได้ ตอนนั้นแผนพัฒนาสนามบินจะเป็นอย่างไร ต้องหารือให้ชัดเจนก่อน นายจุฬา กล่าวทิ้งท้าย

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา UTA ได้ส่งหนังสือมาถึง อีซีซี เพื่อให้เร่งส่งมอบหนังสือเริ่มงาน โดยจะไม่ขอให้ขยายเวลาส่งมอบหนังสือให้เริ่มงาน (NTP: Notice to Proceed) เกินไปจากวันที่ 31 ก.ค.นี้ รวมถึงจะใช้สิทธิเรียกค่าเสียหายจากการดำเนินโครงการล่าช้าเป็นวงเงิน 5,100 ล้านบาทด้วย ก่อนที่อีอีซี จะขอให้ขยายเดตไลน์ออกไป และ UTA ได้เลื่อนให้ไปจนถึงกลางสิงหาคมนี้

UTA เรียกค่าเสียหายจากการดำเนินโครงการล่าช้าเป็นวงเงิน 5,100 ล้านบาท
ดังนี้

  • 1. ค่าใช้จ่ายจากการพัฒนาโครงการ

1.1 ค่าใช้จ่ายการดำเนินการเพื่อให้เงื่อนไขการให้สิทธิร่วม
ลงทุนในโครงการฯ แก่ บริษัทฯ สำเร็จ 9,220,163 บาท

1.2 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาโครงการฯ ในส่วนงานหลักของสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาให้สามารถบรรลุ
วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ2,508,078,908 บาท

1.3 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกให้สามารถบรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมายซองโครงการฯ 894,488,351 บาท

1.4 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการพัฒนามาตรการสนับสนุน
โครงการฯ เพื่อให้สามารถพัฒนาโครงการฯ ได้บรรลุ
วัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการฯ 179,888,429 บาท

1.5 ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการดำเนินการส่งเสริมความร่วมมือกับกองทัพเรือเพื่อประโยชน์โครงการฯ ตามมติคณะกรรมการคัดเลือกของโครงการฯ 368,800,000 บาท

  • 2.ค่าเสียหายจากการดำเนินการเพื่อประโยชน์ของโครงการฯตามสัญญาร่วมลงทุน 1,139,489,591บาท
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

ขุดทองแบบไหนที่โลกยอมรับ ดูตัวอย่าง “ปาปัวนิวกินี–เปรู”

46 นาทีที่แล้ว

'เงินดีดี‘ บริษัทลูกออมสิน บุกจำนำทะเบียนรถยนต์ ดอกเบี้ยต่ำ

48 นาทีที่แล้ว

เผ่าภูมิ ยัน หวยเกษียณไม่กระทบสถานะกองทุนออมฯ ชง สว. โหวต 4 สิงหานี้

51 นาทีที่แล้ว

วิธีเช็กซิมทรู 850 MHz ใครใช้อยู่รีบเปลี่ยน 3 ส.ค.68 วันสุดท้าย

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่นๆ

มาเลย์แห่เที่ยวทำพัทลุง ศก.โตถอยรถป้ายแดงคึกคัก

ประชาชาติธุรกิจ

'เงินดีดี‘ บริษัทลูกออมสิน บุกจำนำทะเบียนรถยนต์ ดอกเบี้ยต่ำ

ฐานเศรษฐกิจ

เผ่าภูมิ ยัน หวยเกษียณไม่กระทบสถานะกองทุนออมฯ ชง สว. โหวต 4 สิงหานี้

ฐานเศรษฐกิจ

"หวยเกษียณ" กลยุทธ์สู้หวยใต้ดิน พลิกเงินซื้อหวยเป็นเงินออม

ฐานเศรษฐกิจ

ภาคเอกชนขอบคุณชื่นชมเจรจาภาษี 19% สู้กับคู่แข่งได้ ตอกย้ำศักยภาพการค้าไทย–สร้างความเชื่อมั่นผู้ประกอบการและนักลงทุน

VoiceTV

DIPROM ร่วม “มศว.” มอบรางวัลผู้ชนะการประกวด “ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและความงามไทย”

77kaoded

รฟท.เปิดแนวทาง”ที่ดินเขากระโดง”หลังเพิกถอนโฉนด เจรจาไม่ย้ายออก ต้องทำสัญญาเข้าระบบเช่าตามระเบียบ

Manager Online
วิดีโอ

นักวิชาการ ให้เกรด B เจรจาภาษีสหรัฐฯ ชี้ไทยยังเสียเปรียบเวียดนาม | ข่าวภาคค่ำ

Ch7HD News - ข่าวช่อง7

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...