โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

เช็คสัญญาณลงทุนเปิดกิจการใหม่แนวโน้มระดับต่ำ ทั้งปี 1,600 แห่ง

ฐานเศรษฐกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จากข้อมูลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 เกี่ยวกับการเปิด ขยาย เลิกกิจการ ทำให้พบว่า

มีจำนวนโรงงานที่เปิดกิจการทั้งหมด 601 แห่ง มีมูลค่า 80,534.18 ล้านบาท แบ่งเป็น

  • ม.ค. จำนวน 147 แห่ง มูลค่า 18,119.94 ล้านบาท
  • ก.พ. จำนวน 144 แห่ง มูลค่า 22,858.73 ล้านบาท
  • มี.ค. จำนวน 94 แห่ง มูลค่า 13,552.01 ล้านบาท
  • เม.ย. จำนวน 117 แห่ง มูลค่า 10,248.99 ล้านบาท
  • พ.ค. จำนวน 99 แห่ง มูลค่า 15,754.51 ล้านบาท

โรงงานขยายกิจการ 84 แห่ง มูลค่า 12,649.28 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • ม.ค. จำนวน 14 แห่ง มูลค่า 1,499.64 ล้านบาท
  • ก.พ. จำนวน 22 แห่ง มูลค่า 954.42 ล้านบาท
  • มี.ค. จำนวน 22 แห่ง มูลค่า 6,042.53 ล้านบาท
  • เม.ย. จำนวน 12 แห่ง มูลค่า 2,374.45 ล้านบาท
  • พ.ค. จำนวน 14 แห่ง มูลค่า 1,778.24 ล้านบาท

โรงงานที่ปิดกิจการไปแล้ว 258 แห่ง มีมูลค่า 8,283.26 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • ม.ค. จำนวน 42 แห่ง มูลค่า 1,302.74 ล้านบาท
  • ก.พ. จำนวน 47 แห่ง มูลค่า 1,485.60 ล้านบาท
  • มี.ค. จำนวน 51 แห่ง มูลค่า 902.19 ล้านบาท
  • เม.ย. จำนวน 82 แห่ง มูลค่า 3,549.16 ล้านบาท
  • พ.ค. จำนวน 63 แห่ง มูลค่า 1,043.57 ล้านบาท

เลิกจ้างงานทั้งหมด 8,883 คน ประกอบด้วย

  • ม.ค. จำนวน 1,614 ราย
  • ก.พ. จำนวน 1,293 ราย
  • มี.ค. จำนวน 798 ราย
  • เม.ย. จำนวน 1,655 ราย
  • พ.ค. จำนวน 3,523 ราย
เช็คสัญญาณลงทุนเปิดกิจการใหม่แนวโน้มระดับต่ำ ทั้งปี 1,600 แห่

แหล่งข่าวจาก กรอ. ระบุกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า จากข้อมูลภาพรวมล่าสุดของภาคอุตสาหกรรมในปี 2568 แม้ว่าภาคอุตสาหกรรมไทยในปี 2568 จะต้องเผชิญกับปัจจัยกดดันรอบด้าน ทั้งภายในประเทศและจากเศรษฐกิจโลก แต่ภาพรวมของภาคอุตสาหกรรมยังคงมี ทิศทางการขยายตัวต่อเนื่องเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

ข้อมูลล่าสุดระบุว่าในไตรมาสแรกของปี 2568 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) หดตัว 1.61% อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์มวลรวมภาคอุตสาหกรรม หรือ GDP อุตสาหกรรมยังสามารถขยายตัวได้ 0.60% และเมื่อพิจารณาในช่วง 4 เดือนแรกของปี พบว่า MPI หดตัวเพียง 0.7% เท่านั้น

จากการประเมินแนวโน้มทั้งปี 2568 คาดว่า MPI มีโอกาสขยายตัวในช่วง 0.0 – 1.0% ขณะที่ GDP ภาคอุตสาหกรรมอาจขยายตัวเพิ่มขึ้นในช่วง 0.5 – 1.5% ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงภาวะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปแม้จะยังเผชิญกับความท้าทายอยู่มาก

ส่วนแนวโน้มการเปิด-ปิดโรงงาน มีสัญญาณชะลอตัวต่อเนื่อง จากข้อมูลในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2568 พบว่าโรงงานเปิดใหม่เฉลี่ยเพียง 120 โรงงานต่อเดือน ลดลงจากปี 2567 ที่เฉลี่ย 170 โรงงานต่อเดือน หากแนวโน้มนี้ยังคงอยู่ คาดว่าจำนวนโรงงานที่เปิดใหม่ทั้งปี 2568 จะอยู่ที่ประมาณ 1,400 – 1,600 โรงงาน ซึ่งเป็นระดับต่ำ

จะเห็นว่าเป็นปีที่ท้าทายมากสำหรับภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SMEs) แม้ว่าจะมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่ต้องปิดตัวลงซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยกดดันที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ การนำเข้าสินค้าราคาถูกจากต่างประเทศ รวมถึงปัญหาภาคครัวเรือนและการบริโภคภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ การลงทุนในภาคเอกชนที่มีทิศทางชะลอตัวลงอันเกิดจากความไม่แน่นอนของนโยบายเศรษฐกิจโลกทั้งนโยบายทางการเงินและราคาพลังงานที่ผันผวน รวมถึงเงื่อนไขการค้าระหว่างประเทศเริ่มมีบทบาทมากขึ้น และปัจจัยภายนอกอื่นๆ อีกมากมาย

หากแต่ในขณะเดียวกัน ประเทศไทยก็มีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในหลายกลุ่มสินค้าซึ่งสินค้าส่งออกหลักที่ส่งผลบวก ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องประดับแท้ที่ทำด้วยทอง, เครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทแผงสวิทซ์และแผงควบคุมไฟฟ้า นอกจากนี้ยังมีมาตรการการปรัลบลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้ ลดต้นทุนการผลิต และเอื้อประโยชน์ต่อการลงทุนของภาคเอกชนในระยะต่อไป ซึ่งเป็นจุดเเข็งที่จะช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถก้าวผ่านความท้าทายและปัจจัยเสี่ยงเหล่านั้นได้

เช็คสัญญาณลงทุนเปิดกิจการใหม่แนวโน้มระดับต่ำ ทั้งปี 1,600 แห่

นายพรยศ กลั่นกรอง อธิบดี กรอ. กล่าวว่า จะมุ่งเน้นการเร่งผลักดัน ส่งเสริมสนับสนุนภาคอุตสาหกรรม ทั้งรายใหญ่และรายย่อยเพื่อให้อุตสาหกรรมไทยฟื้นตัว และเติบโตไปพร้อมกัน ด้วยการสนับสนุนให้มีความสามารถในการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม โดยการปรับเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามาช่วยยกระดับผลิตภาพการผลิต การพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น การทดแทนการนำเข้า และการขยายฐานการตลาด

รวมถึงผลักดันกระบวนการผลิตตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ครบวงจรตั้งแต่การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า การบริหารจัดการให้เกิดของเสียน้อยที่สุดหรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้ และส่งเสริมการใช้พลังงานทางเลือกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

และสร้างทักษะแรงงานที่สอดรับกับระบบดิจิทัลให้การผลิตสินค้า เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน มีความยืดหยุ่นต่อผลกระทบเชิงลบ เอื้อต่อการเข้ามาลงทุนของผู้ผลิตรายใหญ่ในตลาดโลก เติบโตอย่างมั่นคง และก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในทิศทางเดียวกับภาคการผลิตทั่วโลก

ด้านปัจจัยที่ส่งผลกระทบโรงงานอุตสาหกรรมไทยปิดตัวนั้น มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบ โดยปัจจัยภายนอกที่มีผลต่อการปิดตัวของโรงงานอุตสาหกรรมไทย เช่น สงครามซึ่งเกิดจากความขัดแย้้้งระหว่างประทศ สงครามทางการค้าระหว่างประเทศมหาอำนาจ มาตรการกำแพงภาษีของสหรัฐฯ เป็นต้น

ส่วนปัจจัยภายในก็เป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรม เช่น ปัญหาสินค้าราคาถูก ที่เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรงจากแพลตฟอร์มออนไลน์ ปัญหาจากการโดนสวมสิทธิของสินค้าที่มีมูลค่าการส่งออกขยายตัว ซึ่งการสวมสิทธิจะใช้วิธีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่ขายดีเหล่านั้นเข้ามาในปริมาณเพิ่มขึ้น และสวมสิทธิเพื่อการส่งออกโดยไม่ผ่านกระบวนการผลิตในประเทศ และปัญหากำลังซื้อหรือกำลังการผลิตที่ลดลงอันเกิดจากมาตรการเข้มงวดในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงิน เป็นต้น

อีกทั้งยังมีปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต้องปรับตัวให้ทัน คือการปรับเปลี่ยนภาคการผลิตของอุตสาหกรรมให้มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พัฒนาฝีมือแรงงานให้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทันต่อสภาวการณ์ของโลกที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

“ภาคอุตสาหกรรมไทยในปี 68 ยังคงเดินหน้าได้ท่ามกลางความท้าทาย การผลิตและ GDP อุตสาหกรรมยังขยายตัวต่อเนื่อง แม้ในอัตราที่ไม่สูงนัก อัตราการเปิดโรงงานใหม่ชะลอตัว แต่ยังมีโอกาสเติบโตในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย และถึงแม้จำนวนโรงงานที่เลิกกิจการเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มที่ไม่สามารถแข่งขันได้หรือได้รับผลกระทบจากการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้น ด้วยปัจจัยสนับสนุนเชิงนโยบายและการส่งออกที่ยังเติบโตในหลายกลุ่มสินค้า ภาคอุตสาหกรรมไทยยังมีศักยภาพที่จะก้าวผ่านความเสี่ยงในปีนี้ และสร้างโอกาสใหม่ในอนาคต หากสามารถปรับตัวและรับมือกับความผันผวนได้อย่างทันท่วงที”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ฐานเศรษฐกิจ

“พิชัย” เผยแผนรับมือภาษีสหรัฐ จ้างทีมเจรจาเกือบ 10 ล้านบาท/เดือน

55 นาทีที่แล้ว

ภาคธุรกิจร้องผู้ว่าธปท.คนใหม่ หนุนซอฟต์โลนแก้สภาพคล่อง

56 นาทีที่แล้ว

“พิชัย” แจงยิบก่อนบินสหรัฐฯ เจรจาภาษีทรัมป์ เปิดเงินจ้างล็อบบี้ยิสต์

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“นฤมล”หารือรมต.เนเธอร์แลนด์ เสริมความร่วมมือจัดการน้ำ

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความสังคมอื่นๆ

ถอดรหัสคำพูด ฮุนเซน แฉ ทักษิณ จักรภพ ลั่นถึงเชียร์รบ. แต่ยอมรับนายกฯเดินเกมช้า

MATICHON ONLINE

เริ่มงานวันแรก "กาจผจญ อุดมธรรมภักดี" ผู้ว่า รฟม.คนใหม่ ลุยสานต่อ "รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย"

ฐานเศรษฐกิจ
วิดีโอ

เละ! "กัน จอมพลัง" ไม่ทน ประกาศล่าตัวเปิดหน้าชัดๆ "หนุ่มกัมพูชา" ที่ขู่เอาชีวิต!

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

แฉ! VIP ลับข้ามด่าน บริษัทเอกชนส่งของเข้าเขมรได้แม้ "ปิดด่าน" ซัดรัฐต้องตอบ ใครเปิดทางพิเศษ?

THE ROOM 44 CHANNEL

“พิชัย” เผยแผนรับมือภาษีสหรัฐ จ้างทีมเจรจาเกือบ 10 ล้านบาท/เดือน

ฐานเศรษฐกิจ

ชูวิทย์ โพสต์ แผนสมรู้ร่วมคิดของ “ฮุนเซน” ชี้ Entertainment Complex เป็นต้นเหตุ

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

“พิชัย” แจงยิบก่อนบินสหรัฐฯ เจรจาภาษีทรัมป์ เปิดเงินจ้างล็อบบี้ยิสต์

ฐานเศรษฐกิจ

การเมืองเดือด! มวลชนเตรียมรวมตัว “ปกป้องอธิปไตย” พรุ่งนี้

THE ROOM 44 CHANNEL

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...