ภาคธุรกิจร้องผู้ว่าธปท.คนใหม่ หนุนซอฟต์โลนแก้สภาพคล่อง
กระบวนการสรรหาผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) หรือ แบงก์ชาติคนใหม่ที่จะเข้ามารับไม้ต่อจากดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. คนที่ 21 ลำดับที่ 24 ซึ่งกำลังจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 ก.ย. 2568 ได้ตัวข้อสรุปเบื้องต้น 2 รายชื่อที่ผ่านการลงคะแนนจากคณะกรรมการคัดเลือกผู้ว่าการธปท. ที่มี ดร.สถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธ์ุ เป็นประธานเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ผ่านมาคือ
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธปท.และนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน
ขั้นตอนจากนี้ นายพิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะพิจารณาเสนอรายชื่อบุคคลที่ได้รับเลือกต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 1 กรกฎาคม จากนั้นจะเสนอโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งต่อไป
รายงานข่าวระบุว่า หลังสิ้นสุดการลงคะแนนให้กับผู้สมัครเป็นผู้ว่าธปท.ทั้ง 6 คนที่แสดงวิสัยทัศน์จบลงนายสถิตย์ให้เจ้าหน้าที่ถ่ายรูปการลงคะแนนไว้เป็นหลักฐานด้วย โดยที่ ดร.รุ่งได้คะแนนสูงสุด
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยเปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เป็นลูกหม้อของแบงก์ชาติที่มีประสบการณ์ในการทำงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งช่วยให้สามารถปรับนโยบายการเงินได้ตรงกับสถานการณ์
โดยเฉพาะการทำงานร่วมกับธนาคารกลางอาเซียนและต่างประเทศ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบงค์ชาติที่มีความเป็นอิสระทางการเงินจากรัฐบาล
ส่วนนายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ก็มีประสบการณ์ที่เหมาะสมในการสนับสนุน SMEs และการส่งเสริมสังคม ทำให้แบงก์ชาติสามารถประสานงานได้ดีในระบบการเงินขนาดใหญ่ แม้ว่าเขาจะขาดประสบการณ์ในบทบาทของธนาคารกลางโลก แต่ก็มีพื้นฐานในการทำงานกับรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย
ด้านนายเทียนประสิทธิ์ ไชยภัทรานันท์ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องการให้การเลือกผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ พิจารณาคัดเลือกจากการพิจารณาคุณสมบัติจริงๆ อย่าให้มีเรื่องการเมือง เพราะตำแหน่งนี้ควรอิสระจากการเมือง
ส่วนข้อเสนอที่อยากฝากผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ อยากให้เข้ามาช่วยเรื่องกระแสเงินสดของผู้ประกอบการท่องเที่ยว โดยอยากให้มีแพ็กเกจซอฟต์โลนก้อนใหญ่เพื่อสนับสนุนเงินหมุนเวียนสำหรับธุรกิจ หรือ สนับสนุนในกรณีดำเนินการเรื่องของความยั่งยืน
ทั้งนี้ธุรกิจโรงแรมจะมีในเรื่องของหลักทรัพย์ โดยที่ผ่านมา มีการคืนหนี้เงินต้นให้กับธนาคารต่างๆ ซึ่งเงินต้นลดลงไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีช่องว่างในส่วนของวงเงินเดิมยังอยู่ ถ้าแบงก์ชาติสนับสนุนเงินใหม่เข้ามา ก็จะช่วยผู้ประกอบการโรงแรมได้มากโดยเฉพาะในช่วงนี้ที่นักท่องเที่ยวชะลอตัวรวมทุนต้นทุนทางธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้านนายกิตติ พรศิวะกิจ นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทยมองว่า แคนดิเดตผู้ว่าแบงก์ชาติทั้ง 2 ท่าน เป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และความสามารถที่เหมาะสมทั้งคู่ โดยจากประสบการณ์ที่แตกต่างกัน ดร.รุ่ง มัลลิกะมาศ มีจุดเด่นเรื่องการสร้างเสถียรภาพ ความสมดุลทางการเงิน และความเป็นอิสระต่อรัฐบาล
ขณะที่คุณวิทัย รัตนากร เด่นในเรื่องการเข้าใจผู้ประกอบการและชุมชน มีความยืดหยุ่น รวดเร็วในการออกแบบนโยบายเพื่อตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลง
สำหรับผู้ประกอบการท่องเที่ยว SMEs และดิจิทัล ขอฝากผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ดังนี้
- การออกนโยบายแก้หนี้ พักชำระหนี้ ยืดหนี้สำหรับกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตทางเศรษฐกิจและท่องเที่ยวในปีนี้ โดยเฉพาะโรงแรมขนาดเล็ก SME eCommerce และ Startup
- ออกนโยบายส่งเสริม Smart Green Well ที่เข้าถึงง่ายขึ้น เพื่อดันประเทศไทยให้ก้าวสู่การเป็นทั้งชุมชนและจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพ ยั่งยืน ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม
- ตั้งศูนย์ข้อมูล Smart Credit for SME, eCommerce & Startup เพื่อวิเคราะห์ความเสี่ยงแบบใหม่ที่เข้าใจธุรกิจยุคใหม่ โดยใช้ AI / Big Data และรองรับโมเดลธุรกิจใหม่ๆ
- สนับสนุนสินเชื่อ และ VC ด้าน Tech / Smart Tourism / Wellness / eCommerce ที่เปิดโอกาสให้นักธุรกิจรุ่นใหม่ ที่สร้างธุรกิจด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ที่แม้ยังมีรายได้ไม่แน่นอน แต่มีศักยภาพสูง สามารถเติบโตได้
นายอดิษฐ์ ชัยรัตนานนท์ เลขาสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว(แอตต้า)กล่าวว่า ส่วนตัวมองว่า ดร.รุ่งคุณสมบัติส่วนตัว ที่โตมาจากในองค์กร และ องค์ความรู้ ทักษะ รวมถึง วิสัยทัศน์ ที่เหมาะสม โดยในช่วงภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกและประเทศ ต้องการความต่อเนื่องของนโยบายการบริหาร ทีมเวิร์คที่มีจากการทำงานอยู่ในองค์กร ไม่ต้องริเริ่มจาก การเปลี่ยนผู้นำ องค์กร และ ใช้เวลาปรับตัว
สำหรับสิ่งที่อยากฝากกับผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ ได้แก่
- วางแผนดูแลค่าเงินบาทไม่แข็งจนเกินไป สามารถแข็งขันใน ตลาดส่งออก และ ตลาดการท่องเที่ยวโลกได้ดี
- นโยบายดอกเบี้ย ที่จัดลำดับความสำคัญของ SME อยู่ในสถานะที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ โดยเฉพาะสถานการณ์เศรษฐกิจปัจจุบันมีปัญหาอย่างมาก
- ออกมาตรการสนับสนุน แนวโน้มเศรษฐกิจโลก เช่น เศรษฐกิจสีเขียว หรือ การใช้พลังงานสะอาด และ การลงทุนพื้นที่ห่างไกลของภาคเอกชน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำของรายได้กับคนเมือง
- กองทุนที่มีกลไกรองรับภาวะฉุกเฉิน สามารถตอบสนอง การแก้ไขในภาวะวิกฤตผ่าน องค์กรการเงินทั้งภาครัฐและเอกชนได้รวดเร็ว และแม่นยำ
ขณะที่ดร.สมชัย จิตสุชน ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการพัฒนาอย่างทั่วถึง สถาบันวิจัยเพื่อการ พัฒนาประเทศไทย(ทีดีอาร์ไอ)ได้แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ในความเห็นส่วนตัว ผู้ว่าการ ธปท. ควรมีคุณสมบัติ เรียงลำดับตามความสำคัญ ดังนี้
- มีความเป็นตัวของตัวเอง ไม่ทำงานตอบสนองนโยบายของฝ่ายการเมือง
- มีความรู้ทั้งทางทฤษฎีและปฏิบัติของการเป็น ‘นายธนาคารกลาง’ ที่ต้องมองภาพใหญ่ได้ ให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพการเงินและเสถียรภาพสถาบันการเงิน โดยไม่ละทิ้งการส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจไม่ให้ต่ำกว่าระดับศักยภาพ
- รู้ความเป็นไปในภาคเศรษฐกิจจริง ที่ไม่ใช่เพียงการดูตัวเลข
- ประสานงานกับนโยบายการคลังอย่างเหมาะสม
- บริหารงานใน ธปท. ได้อย่างราบรื่น รับฟังความเห็นของ staffs แล้วสามารถตัดสินใจบนหลักการด้วยตัวเอง
“หวังว่า ท่าน รมต. จะเรียงลำดับความสำคัญของคุณสมบัติผู้ว่าท่านต่อไปของ ธปท. ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติที่มากไปกว่าเพียง ‘ต้องทำงานกับกระทรวงการคลังได้อย่างราบรื่น’ (หรือกระทั่งเลือกเพราะฟังความเห็น ‘ท่าน’)” ดร.สมชัยระบุ
หน้า 1 หนังสือพิมพ์ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 4,109 วันที่ 29 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568