โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทูตไทยชี้แจงยูเอ็น ประณามกัมพูชา ปฏิเสธการใช้กำลังแก้ข้อพิพาท

SpringNews

อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วันที่ 25 ก.ค. นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้ยื่นหนังสือ เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงกรณีของความขัดแย้งระหว่างไทยและกัมพูชาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยมีเนื้อหาระบุว่า

ผมขอแจ้งให้ทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส

ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล

ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. 2019 ในทางตรงกันข้าม รายงานล่าสุดของประเทศกัมพูชาบ่งชี้ว่า ณ วันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2024 กัมพูชายังคงเก็บรักษาทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ไว้

2. เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เวลา 08.20 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงใส่ฐานทหารไทยที่ตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ประเทศไทย ส่งผลให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นายโดยทันที หลังจากนั้นไม่นาน กองทัพกัมพูชาได้เปิดการโจมตีดินแดนของประเทศไทยใน 4 จังหวัดโดยไม่เลือกเป้าหมาย ได้แก่ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี การกระทำที่ก้าวร้าว ไม่เลือกเป้า และขัดต่อกฎหมายต่อพลเรือนไทยเหล่านี้ ก่อให้เกิดภัยร้ายแรงและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์อย่างน่าเศร้า ซึ่งรวมถึงผู้หญิงและเด็ก โครงสร้างพื้นฐานของพลเรือน รวมถึงโรงพยาบาล และโรงเรียนได้รับความเสียหายอย่างมากเช่นกัน ณ เวลา 14.00 น. ของวันที่ 24 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 การโจมตีดังกล่าว ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย และบาดเจ็บ 24 คน ในจำนวนนี้ 8 คนอาการสาหัส มีประชาชนมากกว่า 102,000 คน ได้รับการอพยพออกจากบ้านของตน

3. การโจมตีด้วยอาวุธอย่างต่อเนื่องโดยปราศจากการยั่วยุใด ๆ ของกองทัพกัมพูชา เป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อมาตรา 2(4) ของ กฎบัตรสหประชาชาติ รวมถึงหลักการแห่งความเป็นเพื่อนบ้านที่ดี และการอยู่ร่วมกันอย่างสันติระหว่างรัฐ ประเทศไทยได้ใช้ความอดกลั้นและยับยั้งชั่งใจอย่างที่สุด ต่อการโจมตีด้วยอาวุธซึ่งมีการเตรียมการล่วงหน้าโดยกัมพูชา แต่ถูกบังคับให้ใช้สิทธิในการป้องกันตนเองโดยชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ มาตรการในการป้องกันตนเองที่ไทยดำเนินการอยู่ในขอบเขตจำกัดเท่าที่จำเป็น และเหมาะสมกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้น โดยพุ่งเป้าไปที่การขจัดภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นจากกองทัพกัมพูชาเท่านั้น

4. ประเทศไทยขอประณามอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชาต่อพลเรือน ทรัพย์สินของพลเรือน และสิ่งอำนวยความสะดวกสาธารณะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาล ซึ่งเป็นการละเมิดอนุสัญญาเจนีวา ค.ศ. 1949 อย่างชัดเจน โดยเฉพาะมาตรา 18 แห่งอนุสัญญาเจนีวาฯ ฉบับที่หนึ่ง (ว่าด้วยการคุ้มครองผู้บาดเจ็บและเจ็บป่วย – การคุ้มครองโรงพยาบาล) และมาตรา 19 แห่งอนุสัญญาเจนีวาฯ ฉบับที่ 4 (ว่าด้วยการคุ้มครองหน่วยงานและสถานพยาบาล) การกระทำอันไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ได้ก่อให้เกิดความทุกข์ทรมานและความยากลำบากแก่พลเรือนผู้บริสุทธิ์

5. ประเทศไทยยังคงยึดมั่นอย่างแน่วแน่ในหลักการยุติข้อพิพาทโดยสันติวิธี และปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อการใช้กำลังในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศ ประเทศไทยขอเรียกร้องประชาคมระหว่างประเทศในการเรียกร้องให้กัมพูชายุติการใช้การสู้รบโดยทันที และกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอย่างสุจริตใจ ประเทศไทยขอยืนยันอีกครั้งถึงความพร้อมในการเจรจาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่แล้ว รวมถึงคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (เจบีซี) ซึ่งมีกำหนดการประชุมในช่วงต้นเดือนกันยายน ค.ศ. 2025 เพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งที่ยังคงค้างอยู่

เมื่อพิจารณาถึงความร้ายแรงของสถานการณ์และการกระทำที่ก้าวร้าวอันโจ่งแจ้งของกัมพูชา ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ กฎบัตรสหประชาชาติ และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ผมขอแจ้งให้ทราบถึงการกระทำอันก้าวร้าวของกัมพูชา และขอความกรุณาให้เผยแพร่หนังสือนี้ไปยังสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านให้รับทราบโดยเร็วที่สุด และนำเข้าสู่ระบบเอกสารของคณะมนตรีความมั่นคงฯ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ฝ่ายกัมพูชาก็ได้ยื่นหนังสือโต้แย้งไปยังสหประชาชาติเช่นกัน โดยมีเนื้อหาที่ระบุว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มการโจมตีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 25 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น จะมีการจัดประชุมฉุกเฉินของคณะมนตรีความมั่นคงฯ ซึ่งองค์ประชุม 15 ชาติสมาชิก จะเข้าร่วมเพื่อรับฟังข้อมูลจากทั้งสองฝ่าย มี อาซิม อิฟติคาร์ อาหมัด เอกอัครราชทูตปากีสถาน เป็นประธาน โดยมีผู้เข้าร่วมชี้แจง คือ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยฯ และ เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรกัมพูชาฯ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

เลขาฯ ยูเอ็น เรียกร้องให้ไทย-กัมพูชาใช้ความอดกลั้นอย่างที่สุด

40 นาทีที่แล้ว

สรุปเหตุการณ์ไทยปะทะกัมพูชา ชายแดนตราด ไทยใช้แผนพิฆาตไพรี

53 นาทีที่แล้ว

พม. ประณาม กัมพูชาโจมตีพลเรือน ละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รมว.-รมช.เกษตรฯ ลุย “น่าน-พะเยา” สู้ภัยน้ำท่วม เร่งฟื้นฟูเกษตรกร

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

วิดีโอ

ตีราคาออกมา จึ้งมาก! มาร์คหน้าทอง หลอมได้ทอง 99% ขายได้ราคาคุ้มค่าที่มาไกล

BRIGHTTV.CO.TH

รัฐบาลไทย ย้ำท่าที!! ตอบโต้เท่าที่จำเป็น เน้นหลักสันติวิธี ยินดี!! ให้ข้อมูลอย่างเปิดเผย บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง

THE STATES TIMES

แสนยานุภาพทัพไทย ปฏิบัติการปกป้องดินแดนและอธิปไตย

THE STANDARD

แสนยานุภาพทัพไทย ปฏิบัติการปกป้องดินแดนและอธิปไตย

THE STANDARD

สหรัฐฯ เตรียมส่ง ‘จดหมายภาษี’ เกือบ 200 ฉบับถึงคู่ค้า

Xinhua

ตะโกนด่า! ‘ทักษิณ’ เป็นเพื่อน ‘ฮุน เซน’ ทำไมปล่อยเขามายิงคนไทย

The Bangkok Insight

โฆษก กต. เผยเตรียมยื่นกาชาดระหว่างประเทศ ประณามกัมพูชา ฐานละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ

The Better

อนุทินลงพื้นที่ศรีสะเกษ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดน พร้อมเร่งประสานช่วยเหลือเต็มที่

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...