สรุปเหตุการณ์ไทยปะทะกัมพูชา ชายแดนตราด ไทยใช้แผนพิฆาตไพรี
สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชาได้ยกระดับเข้าสู่วันที่ 3 อย่างต่อเนื่องและตึงเครียดยิ่งขึ้น โดยตลอดช่วงเช้าของวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 มีเหตุปะทะเกิดขึ้นหลายจุดตามแนวชายแดน ฝ่ายกัมพูชายังคงเปิดฉากโจมตี ขณะที่ฝ่ายไทยตอบโต้และดำเนินยุทธการอย่างเข้มข้นเพื่อรักษาอธิปไตย
สรุปเหตุการณ์ครึ่งเช้า ไทยปะทะกัมพูชา 26.ก.ค. 68
ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงบริเวณจังหวัดตราด
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568เวลา 05.10 น. ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงเข้าใส่ทหารไทยบริเวณบ้านชำราก จังหวัดตราด ก่อนขยายพื้นที่ปะทะ ทางฝ่ายกองกำลังป้องกันชายแดนจังหวัดจันทบุรีและตราดจึงตอบโต้ทันที YouTube+3เนชั่นทีวี+3วิกิพีเดีย+3
ในเวลา 05.20 น. กองทัพเรือได้เปิดยุทธการ “ตราดพิฆาตไพรี 1” เพื่อผลักดันกำลังกัมพูชาออกจากแนวชายแดนไทยเป็นจำนวน 3 จุด กระทั่งเวลา 05.40 น. ฝ่ายกัมพูชาได้ถอนกำลังกลับไป และสถานการณ์ในพื้นที่เริ่มสงบลง
ก่อนหน้านี้ พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้ประกาศใช้ กฎอัยการศึกเพิ่มเติม ในบางอำเภอของจังหวัดจันทบุรีและตราด เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจควบคุมสถานการณ์ และจัดการพื้นที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตปกติในพื้นที่ดังกล่าว
ในแถลงการณ์ต่อสื่อ พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ ระบุว่า การบังคับใช้กฎอัยการศึกในครั้งนี้ เป็นไปเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนท้องถิ่น หลังเกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดบริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง
ไทยยึดยอด ภูมะเขือ ศรีสะเกษ ฝั่งกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย
ในช่วงเช้าของวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันว่า ทหารไทยสามารถยึดพื้นที่ยอดเขาภูมะเขือ จังหวัดศรีสะเกษได้เรียบร้อยแล้ว พร้อมปักธงชาติไทยประจำบนยอดเขาเป็นสัญลักษณ์ของการคืนอธิปไตย หลังจากต้องเผชิญการโจมตีหลายระลอกจากกัมพูชาในช่วงกลางคืน ◆
ตามข้อมูลของเพจกองทัพบก เวลา 03.30 น. ฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากยิงอีกครั้งต่อเนื่องไปถึงเช้า ก่อนที่ภายในเวลา 08.45 น. ฝ่ายไทยจะประกาศยึดพื้นที่และร้องเพลงชาติอย่างเป็นทางการเพื่อยืนยันอธิปไตยไทย
ในรายงานถึงเวลา 09.20 น. ได้ระบุว่ากำลังพลของไทยสามารถดำเนินการยึดพื้นที่ได้สำเร็จประมาณ 90% และได้วางแผนเข้าทำลายโครงสร้างฐานที่มั่นของฝ่ายตรงข้ามตั้งแต่ช่วงเช้าถึงบ่าย ทั้งเสาเรดาร์ กระเช้า และบันไดเหล็กที่กัมพูชาสร้างไว้ พร้อมเตรียมกำลังเสริมด้วยอาวุธหนัก
ในขณะที่ด้านทหารกัมพูชา เสียชีวิตมากถึง 10 นาย ในเหตุการณ์ครั้งนี้ และมีการตรวจยึดยุทโธปกรณ์จำนวนมากจากพื้นที่ฐานมั่น โดยโฆษกรองกองทัพบกชี้ว่า ภารกิจดังกล่าวเป็นการตอบโต้เพื่อรักษาอธิปไตย และปกป้องความมั่นคงของประชาชนริมชายแดนอย่างต่อเนื่องและเด็ดขาด
กองทัพภาคที่ 2 เตือน ระวัง ขีปนาวุธ PHL-03 ของกัมพูชา
กองทัพภาคที่2 แจ้งเตือนประชาชนถึงความเสี่ยงจากระบบยิงจรวดหลายลำกล้องแบบ PHL-03 ซึ่งสามารถยิงได้หลายลูกพร้อมกันในระยะไกลถึง 130 กิโลเมตร ถือเป็นอาวุธที่มีอานุภาพสูง สามารถโจมตีเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และที่ตั้งกำลังทหารได้อย่างแม่นยำ
แม้กองทัพได้เตรียมแผนปฏิบัติการเพื่อรับมือ พร้อมทั้งมีเครื่องมือในการทำลายจรวดชนิดดังกล่าวแล้ว แต่เพื่อความไม่ประมาท และเพื่อความปลอดภัยของประชาชน จึงขอความร่วมมือให้ทุกคนเพิ่มความระมัดระวัง พร้อมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ข้อควรปฏิบัติที่ประชาชนควรทราบ:
- ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยจากทางราชการอย่างสม่ำเสมอ
- หากอาศัยอยู่ใกล้พื้นที่เป้าหมายหรือจุดเสี่ยง ควรเตรียมหาที่หลบภัยที่ปลอดภัยไว้ล่วงหน้า
- หลีกเลี่ยงการเข้าใกล้พื้นที่ยุทธศาสตร์หรือสถานที่ที่อาจตกเป็นเป้าโจมตี
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัดในกรณีมีเหตุฉุกเฉินหรือประกาศภัยพิบัติ
ทางการขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก แต่เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวัง เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของตนเองและครอบครัวอย่างมีสติ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง