โหนกระแส สนธิญา ชี้ร้อง 2 กลุ่ม ขอบิ๊กเต่าเบาโฆษณาจับพระ หลังเจ้าคุณโดนหางเลข
สนธิญา สวัสดี ตอบในโหนกระแส หนุ่ม กรรชัย ชี้แจงหลังไปร้อง กองบัญชาการตำรวจนครบาล ชี้ 2 กลุ่มทำไม่ถูก ศาสนาเจอเฟกนิวส์ทำชาวพุทธมัวหมอง ยกกรณีท่านเจ้าคุณ เจอหางเลข รองเต่า แฉพระต่างจังหวัด เจ้าตัวย้ำในฐานะปวงชนไทยขอยึดตามรัฐธรรมนูญ 50 วงเล็บ 1-2 ปกป้องพระพุทธศาสนาเต็มกำลัง
เรียกว่าเป็นผลพวงจากคนแห่โจมตีพระบางรูป โดยส่วนมากเป็นการวิพากษ์วิจารณ์บรรดาภิกษุ 13 รูป เซ่นพิษแฉเบื้องหลังลอบเสพเมถุนทั้งที่ข้อเท็จจริงบางรูปหลักฐานชัดเจน บางรูปแค่โอนเงินช่วย อย่างไรก็ดีล่าสุดรายการโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย ไม่รอช้าเชิญนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากฎหมายสภาผู้แทนราษฎร มาเคลียร์ข้อสงสัยถึงสาเหตุที่ไปให้ท่านผู้บัญชาตำรวจนครบาลตรวจสอบกรณีมีบุคคลหนึ่งบุคคลใดทำการเกินเลยเสียหายแก่สถาบันศาสนาของชาติ
นายสนธิญา กล่าวว่า อันดับแรกต้องไม่ลืมศาสนาเป็น 1 ใน 3 ของสถาบันหลักของประเทศจึงจำเป็นต้องเดินทางไปสู้หน้าและยื่นหนังสือกับตัวแทนเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ส่วนกรณีออกโรงเปิดหน้ากับรายการดังของหนุ่ม กรรชัยนั้น ทางด้านของนายสนธิญาก็ย้ำชัดเจนถึงหน้าที่ตนเองซึ่งได้กระทำลงไปนั้น เป็นสวนหนึ่งของการทำหน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 วงเล็บ 1 วงเล็บ 2
เมื่อถามถึงมูลเหตุที่ร้องเรียนหลัก ๆ มาจากเรื่องอะไรยังไงบ้าง ? นายสนธิญาตอบว่า เนื่องจากตนติดตามพัฒนาการของเรื่องราวแฉพระสงฆ์ไทยเป็นลำดับซึ่งมีบุคคลหลายฝ่ายทั้งพระสงฆ์เองและผู้ที่ตรวจสอบ และจากปัจจัยข้างต้นเป็นเชื้อให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ขยายเป็นวงกว้าง
พระบางรูปที่ถูกหางเลขโดยที่ท่านนั่งอยู่เฉย ๆ แล้วพระคุณเจ้าเหล่านี้ไม่ได้ออกมาตอบโต้อะไร ตนในฐานะเป็นคนไทยนับถือศาสนาพุทธก็จำเป็นต้องแสดงตนออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
เปิดประเด็น สนธิญา ร้องเฟกนิวส์แฉพระ ไปขอวินิจฉัย 2 กลุ่มไหนบ้าง !
ในรายการข้อมูลดังกล่าวนั้น นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากฎหมายฯ และนักเคลื่อนไหวประเด็นทางสังคม ยังระบุถึงกลุ่มบุคคลที่ตัวเองได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาล หรือ บช.น. นั้น ประกอบด้วย
- บุคคลทั่วไป เช่น นักวิชาการ
- กรณีของตำรวจ โดยเฉพาะพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.
ทั้งนี้ นายสนธิญาอ้างถึงกรษณีของ“บิ๊กเต่า” พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว แห่งซีไอบีนั้น ตนมองว่าทางรองผู้บัญชากลางสอบสวนกลางเล่นแรงเกินไป ดังนั้นจึงอยากวิงวอนขอบิ๊กเต่า เบา ๆ หน่อยได้หรือไม่ ? เพราะกระแสตีไปไม่ทราบใครเป็นใคร ทุกอย่างมันมั่วไปหมด
“ก่อนอื่นตนเห็นด้วยกับการตรวจสอบ เห็นด้วยกับพระ บุคคลที่บวชในศาสนาพุทธแล้วไม่กระทำตามไม่ป็นไปตามพระธรรมวินัย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดที่ผิดต่อกฏหมาย ไม่จำเป็นต้องมาพูด มาโฆษณาใด ๆ แบบนี้จะเป็นประโยชน์กับศาสนามากกว่า”
เมื่อ “กรรชัย” เน้นย้ำในฐานะพิธีกรและผู้ดำเนินรายการ ส่วนตัวยังไม่เข้าใจเหตุผลที่นายสนธิญาซึ่งเป็นแขกรับเชิญไปร้องเรียนประเด็นอะไร เช่นร้องเรียนให้มีการตรวจสอบหรือไปร้องให้หยุดพูด หรือไปร้องฯ เพื่ออะไรกันแน่ ?
อีกฝ่ายเอ่ยเคลียร์ข้อสงสัยทันที โดยระบุ ตนเองไปร้องในฐานะที่เห็นว่า กองบัญชาการตำรวจนครบาลซึ่งดูแลในกรุงเทพมหานครทั้งหมด และเหตุการณ์คนที่แสดงความคิดเห็นอยู่ในกทม. เรื่องราวกระทบเป็นลูกโซ่ ผู้ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่เกิดความเสียหาย ด้วยเหตุนี้ตนจึงพยายามเช็กอยู่ตลอดในกระบวนการเหล่านั้น กระบวนการความผิดไปถึงไหนบ้าง ! ถ้ามีก็ไปให้ตรวจสอบและตั้งคณะทำงานขึ้นมาดู เช่นที่ รองเต่าตั้งคณะทำงานเพื่อมารับเรื่องร้องเรียนของวัดในคดีล้างบางคนผ้าเหลืองฉาวนั่นเอง
มีรายงานเพิ่มเติมประเด็นที่นายสนธิญา สวัสดี ไปร้องกับ ผบช.น มีข้อเท็จจริงที่ต้องการให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. ตั้งคณะทำงาน ตรวจสอบข้อมูล ในสื่อสารออนไลน์ บุคคล นักวิชาการ และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ทำการให้ข่าวที่ไม่ตรงกับข้อมูลที่เป็นจริง เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และพรบ.คอม เพื่อให้ ผบช.น ตรวจสอบดำเนินคดีในกลุ่มเหล่านี้
2. ให้ตรวจสอบพิจารณาและวินิจฉัย ภาคส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลอันไม่ตรงกับความเป็นจริง แล้วทำให้พระคุณเจ้าและสถาบันศาสนาเสียหาย
3. ให้ดำเนินการสั่งให้บุคคลเหล่านี้ ที่ใส่ร้ายหรือให้ข้อมูล อันไม่ตรงกับความเป็นจริง เกี่ยวกับ พระคุณเจ้า และพระพุทธศาสนา ยุติการกระทำทั้งหมดไป เพื่อธำรงไว้ ซึ่งสถาบันศาสนา อันเป็นศาสนาประจำชาติ จึงทำหนังสือเพื่อร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อมูลดังกล่าวข้างต้น
ทั้งนี้อันเนื่องมาจากการกระทำของหลายฝ่ายที่เรียนมาทั้งสามประเด็นเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นภายในกรุงเทพฯ โดยทั้งสิ้น
หน้าที่ของปวงชนชาวไทยตามมาตรา 50 มีอะไรบ้าง ?
สำหรับหน้าที่ของบุคคล ตามมาตรา 50 แห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มีดังนี้
- พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
- ป้องกันประเทศ พิทักษ์รักษาเกียรติภูมิผลประโยชน์ของชาติและสาธารณสมบัติของแผ่นดิน รวมทั้งให้ความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
- ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
- เข้ารับการศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบังคับ
- รับราชการทหารตามที่กฎหมายบัญญัติ
- เคารพและไม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น และไม่กระทำการใดที่อาจก่อให้เกิดความแตกแยกหรือเกลียดชังในสังคม
- ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระโดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ
- ร่วมมือและสนับสนุนการอนุรักษ์และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกทางวัฒนธรรม
- เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญัติ
- ไม่ร่วมมือหรือสนับสนุนการทุจริตและประพฤติมิชอบทุกรูปแบบ
อ่านข่าวเพิ่มเติม