OPPO เปิดตัวเกมมิง K13 Turbo Pro: ขุมพลัง Snapdragon 8s Gen 4, พัดลมระบายความร้อน พร้อมไฟ RGB ในตัว
OPPO ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนไลน์อัป Turbo รุ่นแรกของแบรนด์ นั่นคือ K13 Turbo และ K13 Turbo Pro อย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ซึ่งเน้นมอบประสิทธิภาพการทำงานระดับสูง รวมถึงแผงหน้าจอ OLED ระดับ 120 Hz, ติดตั้งพัดลมระบายความร้อนในตัว พร้อมตกแต่งด้วยไฟ RGB
OPPO K13 Turbo และ K13 Turbo Pro มาพร้อมดีไซน์และฮาร์ดแวร์ที่ใกล้เคียงกัน โดย K13 Turbo Pro นั้น ขับเคลื่อนด้วยชิปเซตระดับพรีเมียมรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 8s Gen 4 ที่ Qualcomm เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายน 2025 โดยได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.21 GHz ซึ่งทำงานร่วมกับสตอเรจ UFS 4.0 ความเร็วสูง บนซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ ColorOS 15 ที่อ้างอิงพื้นฐานจากระบบ Android 15
ในขณะที่ OPPO K13 Turbo นั้น ใช้ศักยภาพจากชิปเซต Dimensity 8450 ที่ MediaTek เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2025 โดยได้รับการผลิตด้วยเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร และมีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด 3.25 GHz ซึ่งทำงานร่วมกับสตอเรจ UFS 3.1
เพื่อให้ชิปเซตดังกล่าวทำงานเต็มประสิทธิภาพได้อย่างต่อเนื่อง สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น จึงได้รับการติดตั้งระบบระบายความร้อนชุดใหญ่ ประกอบด้วย พัดลมระบายความร้อนในตัว ความเร็ว 18,000 รอบต่อวินาที (RPM) พร้อมไฟ RGB, แผ่นระบายความร้อนด้วยของเหลว ขนาด 7,000 mm² และแผ่นกราไฟต์ช่วยกระจายความร้อน ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิของซีพียูในระหว่างประมวลผลภาระงานหลายด้านพร้อมกันและเล่นเกมได้เป็นอย่างดี
OPPO K13 Turbo และ K13 Turbo Pro ยังได้รับการติดตั้งแผงหน้าจอ OLED เทคโนโลยี LTPS (Low Temperature Polysilicon) ขนาด 6.8 นิ้ว ความละเอียด 1.5K (2,800 x 1,280 พิกเซล) ซึ่งรองรับรีเฟรชเรต 120 Hz (รีเฟรชภาพ 120 ครั้งต่อวินาที ช่วยให้ภาพเคลื่อนไหวได้อย่างนุ่มนวล), อัตราตอบสนองต่อการสัมผัสหน้าจอ 240 Hz และป้องกันรอยด้วยกระจก Crystal Shield Glass
ด้านระบบถ่ายภาพนั้น ได้รับการติดตั้งกล้องหลัง จำนวน 2 ตัว ได้แก่ กล้องหลัก ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ภาพ OmniVision OV50D40) เสริมด้วยเซนเซอร์วัดระยะ ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ในขณะที่กล้องเซลฟีมีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล (เซนเซอร์ภาพ Sony IMX480)
อย่างไรก็ดี OPPO K13 Turbo Pro นั้น มาพร้อมระบบกันภาพสั่น OIS (Optical image stabilization) บนกล้องหลัก, ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น และรองรับการบันทึกวิดีโอ Time-Lapse ระดับ 4K ในขณะที่ K13 Turbo นั้น ไม่รองรับระบบกันภาพสั่น OI
นอกจากนี้ สมาร์ตโฟนทั้ง 2 รุ่น ยังได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ความจุมหาศาลถึง 7,000 mAh รองรับการชาร์จไฟเร็ว 80 W ซึ่งสามารถชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในระยะเวลาเพียง 54 นาที และรองรับการชาร์จไฟบายพาส (ใช้พลังงานจากอะแดปเตอร์โดยตรง), มอเตอร์สร้างแรงสั่นแกน X, รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4, NFC และตัวส่งสัญญาณอินฟาเรด
สิ่งที่ต่างกัน คือ OPPO K13 Turbo Pro นั้น รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 7 ในขณะที่ K13 Turbo นั้น รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
ด้านบอดีนั้น ได้รับการติดตั้งกรอบตัวเครื่องที่ผลิตด้วยพลาสติก, ฝาหลังได้รับการติดตั้งกระจก และมาพร้อมมาตรฐานกันน้ำ ดังนี้
- IPX6 : ป้องกันตัวเครื่องจากน้ำที่ฉีดใส่รอบทิศทาง
- IPX8 : ป้องกันตัวเครื่องในน้ำลึก 1.5 เมตร นาน 30 นาที
- iPX9 : ป้องกันตัวเครื่องในน้ำแรงดันสูง ที่อุณหภูมิสูงสุด 80 องศาเซลเซียส
OPPO K13 Turbo มาพร้อมตัวเครื่องสี First Purple, Black Samurai และ Knight White โดยมีราคาดังนี้
- แรม 12 GB + สตอเรจ 256 GB : 1,799 หยวน หรือประมาณ 8,100 บาท
- แรม 16 GB + สตอเรจ 256 GB : 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- แรม 16 GB + สตอเรจ 512 GB : 2,299 หยวน หรือประมาณ 10,400 บาท
OPPO K13 Turbo Pro มาพร้อมตัวเครื่องสี First Purple, Black Samurai และ Knight Silver โดยมีราคาดังนี้
- แรม 12 GB + สตอเรจ 256 GB : 1,999 หยวน หรือประมาณ 9,000 บาท
- แรม 16 GB + สตอเรจ 256 GB : 2,199 หยวน หรือประมาณ 9,900 บาท
- แรม 16 GB + สตอเรจ 512 GB : 2,699 หยวน หรือประมาณ 12,200 บาท