โฆษก ทบ. แถลงผลถกปมกับระเบิด นานาชาติเข้าใจไทย ด้านผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชาไม่โต้แย้ง

วันนี้ (22 กรกฎาคม) พล.ต. วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวภายหลังการเชิญผู้ช่วยทูตทหารรับฟังคำชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังกำลังพลเหยียบกับระเบิดได้รับบาดเจ็บ 3 นาย โดยระบุว่า บรรยากาศเป็นไปด้วยดี ส่วนใหญ่เป็นการรับฟัง และมีคำถามบ้าง ถือว่าน้อย เนื่องจากทุกท่านอาจจะได้รับข่าวสารจากช่องทางอื่นมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่พยายามบอกกล่าวและชี้แจงกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเรื่องข้อเท็จจริง

พล.ต. วินธัยเปิดเผยว่า ทหารของกัมพูชา ไม่ได้ชี้แจงหรือมีคำถามอะไร คำถามส่วนใหญ่มาจากท่านอื่นมากกว่า ที่ถามเรื่องของความมั่นใจและยืนยันว่าใช่หรือไม่ ซึ่งทางเราก็ให้เหตุผลไป และจะให้เอกสารชี้แจง ส่วนท่าทีของประเทศมหาอำนาจ ก็ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษ ซึ่งการเชิญมาในวันนี้เราก็ทำตามนโยบายของ ผบ.ทบ. คือทำให้เป็นทางการ

ส่วนการหารือได้ชี้แจงเรื่องการละเมิด บูรณภาพดินแดน และ MOU43 รวมถึงอนุสัญญาออตตาวาด้วยหรือไม่นั้น พล.ต. วินธัยระบุว่า มีการพูดถึงประเด็นดังกล่าว และได้อธิบายตามหลักอนุสัญญาที่ทั้งสองประเทศเป็นสมาชิก และเล่าถึงกลไกการแก้ไขปัญหาความตึงเครียดชายแดน มีช่องทางอะไรบ้าง ตั้งแต่ระดับรัฐบาล กระทรวงกลาโหม และกองทัพภาค

ด้านผู้ช่วยทูตทหารกัมพูชาไม่ได้แก้ต่างในที่ประชุม และไม่ได้โต้แย้งอะไร ก็เป็นสิทธิ์ของแต่ละฝ่าย เราเองก็มีหลักฐาน ที่มีข้อพิสูจน์ที่ชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องของผู้รับสาร ยืนยันว่าไทยเราอยู่ในกฎกติกา โดยเฉพาะทุ่นระเบิด ไม่ใช่เรื่องของความได้เปรียบทางยุทธวิธี ประเทศไทยก็ถือว่ามีความพร้อมทางการทหาร ที่สามารถปกป้องอธิปไตยได้ และอยู่ในกติกา ก่อนยืนยันอีกว่า ทูตทหารจากประเทศต่างๆ ไม่ได้ติดใจ ในประเด็นที่เราชี้แจง

สำหรับเรื่องปฏิบัติการทางทหารก็ให้เป็นเรื่องของหน่วยในพื้นที่ ซึ่งพยายามใช้ความอดทนอดกลั้น และใช้สันติวิธี ต้องให้กองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ประเมิน แต่ก็ไม่อยากให้คิดไปในเรื่องไม่ดีไว้ก่อน กองทัพภาคที่ 2 ก็พูดมาตลอดว่า พร้อมทุกวิธี ก็เป็นวิธีที่ชอบธรรม และอยู่ในกฎกติกา

ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ส่งมอบเอกสารหลักฐานยืนยันให้แต่ละประเทศ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุมี 2 ลักษณะงาน ในระดับประเทศ กระทรวงการต่างประเทศกำลังดำเนินการอยู่ ส่วนหน่วยปฏิบัติในพื้นที่ สิ่งแรกที่ทำนอกเหนือ จากการดูแลคนเจ็บ คือการดูแลความปลอดภัยของกำลังพล คือต้องค่อยๆ เก็บกู้

ส่วนช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ ที่มีการนัดหมายของคนไทยขึ้นไปเผชิญหน้ากับนักท่องเที่ยวกัมพูชาตามกลุ่มปราสาทตาเมือน พล.ต. วินธัยยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 มีแนวทางในการดำเนินการอยู่แล้ว วันนี้ก็ได้พูดในที่ประชุมว่า มีกำลังของเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาสนับสนุน ซึ่งหากประเมินสถานการณ์แล้ว เกิดการขยายผลความขัดแย้ง จะต้องมีมาตรการดำเนินการ แต่ขอให้ทางกองทัพภาคที่ 2 เป็นผู้ชี้แจง ส่วนถึงขั้นต้องปิดปราสาทหรือไม่นั้น ก็ขอให้ฟังกองทัพภาคที่ 2 ชี้แจงเช่นกัน