โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ไทยปักธงเฟสติวัลเนชัน เอกชนถาม วิชันคือควักงบดึงอีเวนต์โลกหรือ?

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 14 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ย้อนไป 25 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการพบปะหารือกับ ฎBruno Vanwelsenaers” ผู้บริหารของ Tomorrowland และกรุงเทพธุรกิจ ได้คอนเฟิร์มกับ “ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)ในการดึงเทศกาลดนตรีระดับโลกมาจัดที่ไทย ซึ่งจะเกิดขึ้นในปี 2569

ประเทศไทยมุ่งยกระดับสู่การเป็นหมุดหมายอีเวนต์โลกหรือ World Event Destination จึงเห็นภาครัฐเดินหน้าดึงงานใหญ่ๆมาจัดในไทย นอกจากเทศกาลดนตรีอีดีเอ็มอย่างทูมอร์โรว์แลนด์ ยังมีอีเวนต์กีฬาที่เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่งหรือ F1 เป็นต้น

อีกด้านรัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนอำนาจละมุนหรือ Soft Power ไทยให้ผงาด แต่ดูเหมือนการสนับสนุน เดินหน้าของภาครัฐจะ “สวนทาง” กับมุมมอง ความต้องการภาคเอกชน

พงศ์สิริ เหตระกูล ผู้อำนวยการเทศกาล Awakening Festivals หรือเทศกาลไฟและศิลปะดิจิทัล ให้มุมมองที่น่าสนใจในงาน SPLASH-Soft Power Forum 2025 ที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ ”SPARK Influencer Marketing Playbook : How Influencers Elevate Thai Festivals Worldwide สูตรลับพาเทศกาลไทยไประดับโลกด้วยพลังอินฟลูเอนเซอร์“

ประเทศไทยมีอีเวนต์จำนวนมากในแต่ละปี กับการจะก้าวไปสู่ “เฟสติวัลแห่งชาติ” หรือ Festival Nation จึงตั้งคำถาม “ไทยจะทำให้เฟสติวัล เนชันทำไมก่อน” เพราะคำนี้เป็นคำใหญ่ “ระดับชาติ” ที่ฟังแล้วตื่นเต้น

การเป็นประเทศจัดงานเฟสติวัลมากมาย ไม่ใช่ไม่ดี แต่เป็นเรื่อง “ดี” เพราะต้องการสร้างการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ต้องการให้คนทั่วโลก นักเดินทางมาเที่ยวไทย ร่วมงานเพื่อจับจ่ายใช้สอย เข้าพักโรงแรม รับประทานอาหาร ชอปปิง “บูมเศรษฐกิจที่เกิดจากเฟสติวัล” ให้อยู่ในประเทศอย่างนั้นหรือ

“ถ้าเฟสติวัล เนชันคือสิ่งนั้น(เศรษฐกิจโต) วิชันต้องถูกต้องก่อนว่าเราทำเฟสติวัลเนชันไปด้วยวิชันแบบไหน หากต้องการเคลื่อนเศรษฐกิจแบบนั้นจริงๆ การสนับสนุนเฟสติวัล งานเทศกาลในประเทศเป็นสิ่งสำคัญมากๆ”

ทว่า หากย้อนดูสิ่งที่รัฐบาลกำลังเดินหน้า กลับ “พยายาามดึงงานต่างประเทศ” มาปักหมุดในประเทศไทย ทั้งที่จริงๆแล้วควรกล่าวถึงงานของต่างประเทศให้น้อยๆ

“เอ่ยชื่อเลย..อย่างทูมอร์โรว์แลนด์ โฟกัสทำไม..ถามจริงๆ ไทยจะเป็นเฟสติวัล เนชันด้วยการนำทูมอร์โรว์แลนด์ที่เป็นงานต่างประเทศมาลงที่ประเทศไทยจริงๆเหรอ”

การตั้งคำถามดังกล่าว เพราะหากไทยดึงงานอีเวนต์โลกมาจัดในประเทศ “เม็ดเงิน” หรือผลตอบแทนจะกลับไปอยู่ที่ “เจ้าของแบรนด์มากที่สุด” หรือที่ผ่านมาประเทศโหยหาคอนเสิร์ต “เทย์เลอร์ สวิฟต์” จนเกิดวลี “Swiftonomics” เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนจากคอนเสิร์ตศิลปินดัง แต่มองลึกไปประเทศไทยจะได้เงินบางส่วนเท่านั้น เช่น ได้เงินค่าจัดงานเล็กน้อย รายได้จากนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ที่พักแรม อาหารการกิน ชอปปิง ฯ ดังนั้น จะดีกว่าหรือไม่ หากไทยสามารถสร้างสรรค์ทูมอร์โรว์แลนด์เป็นแบรนด์ของตัวเอง

“คนที่ได้เงินจริงๆ ได้เงินมากสุด คือเจ้าของแบรนด์ แต่ถ้าคุณ(รัฐบาล)มีทูมอร์โรว์แลนด์สร้างเองที่นี่ หรือเทย์เลอร์ สวิฟต์เหมือนกัน การเอาคนดังๆมาให้ได้ คุณมีซอฟต์พาวเวอร์จากเฟสติวัลจริงๆเหรอ”

ถอดบทเรียนมหาอำนาจซอฟต์พาวเวอร์อย่าง เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่มีอุตสาหหกรรม เทศกาลดนตรีที่ยิ่งใหญ่ เป็นเฟสติวัล เนชัน ไม่ได้เกิดจากการดึงเทย์เลอร์ สวิฟต์ไปจัดคอนเสิร์ต แต่เกิดจากการปลุกปั้น แบล็กพิงค์ บีทีเอส จากการมีวงดนตรี ศิลปิน ไอดอลต่างๆเป็นของตัวเอง ไม่ใช่พยายามดึงงานจากต่างประเทศไปปักหมุด

“ถ้าเกิดจากวิชันที่ถูก โครงสร้างงบประมาณจะถูกต้อง”

พงศ์สิริ เทียบเคียงการใช้งบประมาณสนับสนุนเทศกาลดนตรีอีดีเอ็มทูมอร์โรว์แลนด์กับงานเทศกาลดนตรีสัญชาติไทยโดยผู้จัดคนไทย เชื่อว่า “แตกต่างกันหลายสิบเท่า” ประเมินคร่าวๆ 30 เท่าต้องมี

“ลองดูงบประมาณประจำปีทีเส็บ(สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน))ให้กับเฟสติวัลที่เกิดขึ้นในประเทศหรือ homegrown เทียบกับนำทูมอร์โรว์แลนด์ อาจต่างกันแตะหลักร้อยล้าน”

ขณะที่ไทยได้เปรียบด้านยุทธศาสตร์หลากหลาย ทั้งแหล่งท่องเที่ยว วัฒนธรรม อาหารการกิน ที่พักล้วนมีความพร้อม

“เหลือแค่โครงสร้าง จะถูกต้องไหม และผมอยากขยับวิชันนะ..ผมคิดแบบนั้น ยั่งยืนที่สุดคือการที่เรามีทูมอร์โรว์แลนด์ หรือเทย์เลอร์ สวิฟต์เป็นของตัวเอง ไม่ไปใช่เอางานต่างประเทศมาแล้ว..ว้าว! เรามีสวิฟต์แล้ว ประเทศอื่นไม่มี คุณ(รัฐ-ประเทศ)ได้เงินจริงเหรอ..ผมถามจริง”

เป็นคำถามที่เอกชน อยากให้รัฐบาลฉุกคิด รวมถึงการบ่มเพาะ สนับสนุนงานในประเทศของตัวเองด้วย ไม่ใช่ทุ่มแต่เงินก้อนโตดึงงานต่างประเทศเข้ามา

บทสรุปการจัดงานเทศกาลถือว่า “มีความเสี่ยงสูง” เวลาเจ๊ง!แต่ละครั้งมีมูลค่าหลัก “หลายสิบถึงร้อยล้าน” รัฐจึงควรสนับสนุนภาคเอกชนหลายมิติ ได้แก่ 1.มีกองทุส่งเสริมให้ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอยู่ต่อได้ 2.ภาครัฐควรสนับสนุนพื้นที่เพื่อจัดงานสร้างสรรค์ ผ่านพื้นที่ราชการ เช่น สวนสาธารณะสามารถจัดงานขายบัตรได้ สนามกีฬาในการดูแลของกรมพละ สามารถขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้

“สนามกีฬาในประเทศไทยขายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไม่ได้ เพราะมีศีลธรรมสูง”

3.พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะเอื้อต่อการเข้าถึงสถานที่จัดงานใหญ่ 4.ปรับปรุงกฎหมายรองรับงานเทศกาล โดยเฉพาะกฎหมายโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการมีกฎหมายเฉพาะสำหรับการจัดงาน การมี One Stop Service เพื่อการขออนุญาต 5.รัฐช่วยโปรโมทและอำนวยความสะดวก(facilitate) เปลี่ยนจากการเป็นผู้จัดงานเองมาเป็นผู้สนับสนุนให้ผู้จัดเอกชนแข็งแรง เพราะเชื่อว่าเอกชนสามารถจัดงานดี เจ๋งๆได้ ขาดเพียงงบประมาณการตลาด รัฐจึงควรทำหน้าที่ช่วยโปรโมทหรือประชาสัมพันธ์งานให้ และ6.โฟกัสงานในประเทศไม่ใช่การประมูลงานต่างประเทศ และจัดสรรงบประมาณให้ถูกต้อง ถ้าจะโฟกัสกับการทำเทศกาลไทยให้ใหญ่ homegrown งานในประเทศ และงบประมาณต้องโฟกัสตรงจุด

ด้านภาพรวมงานเฟสติวัล เมื่อไม่ใช่ปัจจันสี่ ท่ามกล่างเศรษฐกิจหนืดๆ ชะลอตัว ผู้คนจะตัดความบันเทิงในชีวิตบ้าง ทำให้การขายบัตรร่วมงานต่างๆยากขึ้น ส่วนจะจับตลาดต่างประเทศ ก็เผชิญงานและคู่แข่งระดับโลก

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

เหลี่ยมสภาสูง ‘น้ำเงิน’แผลงฤทธิ์ ‘1 ตุลาการ-1 กกต.’ บ่วงร้อน 2 สี

52 นาทีที่แล้ว

เอสซี กางยุทธศาสตร์ ‘3B’ ฝ่าวิกฤติอสังหาไร้สัญญาณฟื้น

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สัมพันธ์'บ้านโล่สถาพรพิพิธ-บิ๊กเนมภท.' ไม่ใช่คนอื่นไกล?

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ทักษิณ’ ประกาศ กลางวง พรรคร่วมฯ ‘เลือกตั้ง’ แล้ว จับมือกันต่อ

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

การบินไทย จับมือ ซัมซุง ยกระดับประสบการณ์การเดินทางผ่าน Samsung Wallet

สยามรัฐ

ดีป้า แจงกระบวนคัดเลือกผู้เข้าร่วมโครงการ ODOS Summer Camp ย้ำยึดหลัก 'ความโปร่งใส เสมอภาค ตรวจสอบได้'

สยามรัฐ

ทช.สร้างสะพานข้ามแม่น้ำปากพนัง เชื่อมสองตำบล เพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้ชาว อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช คืบหน้ากว่า 30% คาดแล้วเสร็จปี 69

สยามรัฐ

“สหรัฐ-จีน” จ่อขยายเวลาพักเก็บ “ภาษีการค้า” ลดแรงตึงเครียด ก่อนหมดดีล 12 ส.ค.นี้

ข่าวหุ้นธุรกิจ

กยศ. โอนเงินคืนผู้กู้ยืมกรณี Auto debit ครบทุกรายแล้ว

สยามรัฐ

พรรคร่วมรัฐบาลรวมตัวกระชับมิตร “ทักษิณ” ชี้ความสามัคคีคือกุญแจสำคัญ แม้เสียงไม่ท่วมท้น

ข่าวหุ้นธุรกิจ

เจ้าท่าฯ ร่วมหารือ ส.ประมงนอกน่านน้ำไทย พัฒนาอุตสาหกรรมประมงนอกน่านน้ำของประเทศไทย

สยามรัฐ

ลงทุนตามรอย Warren Buffett ง่าย ๆ ผ่าน DR ในตลาดหุ้นไทย

Finnomena

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...