ตร.กองปราบฯ เรียก "ฟิล์ม รัฐภูมิ" เข้าพบ เปลี่ยนข้อหาจากพยายามกรรโชก เป็นพยายามฉ้อโกง
ช่วงบ่าย วันนี้ (8 ก.ค. 68) นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม รัฐภูมิ" อดีตนักร้องชื่อดัง พร้อมด้วย นายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความส่วนตัว เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เพื่อตรวจสอบความคืบหน้าของคดีต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง ทั้งในฐานะผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหา
โดยนายประมาณ และ ฟิล์ม รัฐภูมิ เปิดเผยว่า ภายหลังการเข้าพบพนักงานสอบสวน ไม่มีรายละเอียดคดีใหม่เพิ่มเติม แต่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อหาที่ "ฟิล์ม" ถูกกล่าวหา จากเดิมเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 ที่ ฟิล์ม พร้อมทนายความได้เข้าพบตำรวจกองปราบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ร่วมกันพยายามกรรโชกทรัพย์และหมิ่นประมาท สืบเนื่องจากกรณีคลิปเสียงที่ถูกระบุว่าเป็นการร่วมมือกันระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิ และนางสาวกฤษณ์อนงค์ หรือ "เจ๊พัท" เพื่อเรียกรับเงินจำนวน 20 ล้านบาท จาก "บอสพอล ดิไอคอนฯ" รวมถึงข้อหาหมิ่นประมาทนักจัดรายการชื่อดัง แต่ในการเข้าพบพนักงานสอบสวนครั้งนี้ ข้อหาได้ถูกเปลี่ยนแปลงจาก "พยายามกรรโชกทรัพย์" เป็น "พยายามฉ้อโกง" แทน
โดยนายประมาณ ได้ตั้งคำถามถึงการเปลี่ยนแปลงข้อหานี้ โดยให้เหตุผลว่า ข้อหากรรโชกทรัพย์ คือ การทำให้เกิดความกลัวเพื่อหวังทรัพย์สิน แต่ข้อหาฉ้อโกงหมายถึงการหลอกลวงให้หลงเชื่อและส่งมอบทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากกระทำไม่สำเร็จจะเรียกว่าพยายามฉ้อโกง
นายประมาณ ยังกล่าวเสริมว่า แม้เจ๊พัทจะถูกศาลตัดสินจำคุกอยู่ในเรือนจำแล้ว แต่กรณีของเจ๊พัทไม่เกี่ยวข้องกับฟิล์ม รัฐภูมิ และพยายามโยงเรื่องให้เกี่ยวข้องกัน ซึ่งดูแล้วไม่เข้าองค์ประกอบความผิดใดๆ เลย และยังได้ย้ำข้อสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนข้อหาเป็นพยายามฉ้อโกงว่า “ฉ้อโกงตรงไหน?” โดยระบุว่าการฉ้อโกงจะต้องมีการหลอกลวง ทำให้หลงเชื่อ ส่งมอบทรัพย์สิน และมีการได้ไปซึ่งทรัพย์สินโดยทุจริต ซึ่งหากทำไม่สำเร็จจึงจะเป็นการพยายามฉ้อโกง