โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

“ทิดแหล่” ให้ปากคำ ปปป. - “บิ๊กเต่า” รุกต่อ สาวไส้พระเอี่ยวทุจริต

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • ข่าวเวิร์คพอยท์

(12 ก.ค. 68) “ทิดแหล่” อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีความสัมพันธ์ฉาวกัสีกาที่ตกเป็นข่าวครึกโครม

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) หรือ "บิ๊กเต่า" เปิดเผยว่า ได้เข้าหารือกับสมเด็จพระราชาคณะฝ่ายมหานิกาย ณ วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อเร่งรัดให้พระชั้นผู้ใหญ่เข้ามาร่วมจัดการปัญหานี้ให้จบโดยเร็ว เนื่องจากตำรวจได้ให้โอกาสพระที่เกี่ยวข้องสึกแล้ว แต่ยังมีหลายรูปไม่ยอมสึก และบางรูปปล่อยข่าวว่าสึกแต่ยังคงอยู่ในสมณเพศ

“บิ๊กเต่า” ย้ำว่า ตำรวจได้ประสานไปยังคณะสงฆ์ทั้ง 2 นิกาย คือ มหานิกายและธรรมยุต เพื่อส่งมอบพยานหลักฐานให้ดำเนินการทางวินัยกับพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง พร้อมระบุว่าตำรวจมีหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิดทางอาญา และหากพระรูปใดยังคงแต่งตั้งทนายความอ้างว่าเป็นคลิปตัดต่อเพื่อประวิงเวลา ก็ขอให้รับผิดชอบการกระทำของตนเอง เนื่องจากตำรวจมีพยานหลักฐานแน่นหนาพร้อมที่จะนำมาแสดงให้เห็น

สำหรับการสอบปากคำ “ทิดแหล่” ในช่วงบ่ายที่ผ่านมา พล.ต.ต.จรูญเกียรติยืนยันว่า ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมาก ทำให้ตำรวจเข้าใจถึงพฤติกรรมที่ทำให้ “พระตกเป็นเหยื่อ” รวมถึงประเด็นเรื่องเงินที่ให้การสอดคล้องกับหลักฐานที่ตำรวจมี ซึ่งการสอบปากคำในวันนี้เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น และจะมีการนัดหมาย “ทิดแหล่” เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้งเพื่อสอบถามรายละเอียดอื่น ๆ ให้ครบถ้วน

ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าอาจมีพระสงฆ์เกี่ยวข้องมากกว่า 20 รูปนั้น “บิ๊กเต่า” กล่าวว่ายังไม่อยากพูดถึงตัวเลขในตอนนี้ แต่ต้องการแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้กลับคืนมา พร้อมยืนยันจะไล่ดำเนินการกับพระทุกรูปที่ยังไม่ยอมสึก

นอกจากนี้ ตำรวจยังเร่งสืบสวนเส้นทางการเงินควบคู่กันไป และจะบังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง หากใครดื้อดึงไม่ยอมสึก ตำรวจจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เนื่องจากมีหลักฐานชัดเจนว่ามีเรื่องเส้นทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้องกับพระทุกรูป แม้พระบางรูปจะสึกไปแล้ว ก็สามารถเรียกกลับมาดำเนินคดีได้ และหากเข้าข่ายการทุจริต ก็จะเป็นมูลฐานความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งตำรวจดำเนินการไปมากแล้วและพบข้อมูลสำคัญจำนวนมาก

พล.ต.ต.จรูญเกียรติเชื่อว่าความชัดเจนจะเกิดขึ้นในไม่ช้า และการตรวจสอบเส้นทางการเงินเพียงแค่มีหลักฐานยืนยัน 2-3 คดี ก็เพียงพอที่จะดำเนินคดีในข้อหายักยอกทรัพย์และทุจริตได้แล้ว รวมถึงผู้รับเงินก็จะเข้าข่ายสนับสนุนการกระทำความผิดด้วยเช่นกัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

รวบหนุ่มจีนคาสุวรรณภูมิก่อนเผ่นข้ามปท. หนีหมายจับอุ้ม-ปล้นชาติเดียวกัน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รปภ.ฮีโร่ กระโดดน้ำทั้งชุดช่วยเด็ก ม.4

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บัญชีม้าเศร้า ไปปอยเปตไม่ได้เงิน แต่ได้ 17 คดีติดตัว

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รวบหนุ่มขาย 5 บัญชีม้า ให้แก๊งหลอกทำงานออนไลน์

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความอาชญากรรมอื่น ๆ

รวบหนุ่มขาย 5 บัญชีม้า ให้แก๊งหลอกทำงานออนไลน์ ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท

สวพ.FM91

รวบหนุ่มจีนคาสุวรรณภูมิก่อนเผ่นข้ามปท. หนีหมายจับอุ้ม-ปล้นชาติเดียวกัน

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

รปภ.ฮีโร่ กระโดดน้ำทั้งชุดช่วยเด็ก ม.4

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เรียกรถต้องสงสัย พบปืนเถื่อน ซุกในรถ

สวพ.FM91

บัญชีม้าเศร้า ไปปอยเปตไม่ได้เงิน แต่ได้ 17 คดีติดตัว

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

รวบหนุ่มขาย 5 บัญชีม้า ให้แก๊งหลอกทำงานออนไลน์

ข่าวเวิร์คพอยท์ 23

พระผู้ใหญ่ฉาว! บิ๊กเต่า แฉเกิน 20 รูป เสียศักดิ์ศรีสงฆ์ สั่งสึกยกก๊วน

มุมข่าว

Four suspects arrested for allegedly robbing a Chinese man in Pattaya

Thai PBS World

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...