สายสืบ สภ.บางพลี ตามหาจนเจอ แม่ใจร้าย ทิ้งลูกแรกคลอด ริมคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ
พบเด็กทารกถูกนำใส่กระเป๋ามาทิ้งไว้ข้างถนน (17 ก.ค. 78) หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ สั่งการให้ พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผู้กำกับการสภ.บางพลี ตั้งทีมติดตามแม่ที่นำลูกมาทิ้ง โดยมี พ.ต.ท. ภาวัต รัตนาภรณ์ รองผกก.สส.สภ.บางพลี เป็นหัวหน้าทีม พร้อมระดมทีมสืบสวนฝีมือดี อย่าง พ.ต.ต. สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.สภ.บางพลี นำกำลังฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ไปไล่กล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุ พร้อมแบ่งทีมไล่ล่าตัวมารดาของเด็ก กระทั่งพบเส้นทางการก่อเหตุจนติดตามไป พบว่ารถจักรยานยนต์ที่ปรากฎตามภาพวงจรปิดถูกซุกซ่อนไว้หลังตึกห้องเช่า จนกระทั่งพบตัวนางสาวพลอย จึงเข้าควบคุมตัวและเชิญตัวมาสอบปากคำที่สภ.บางพลี
นางสาวพลอย ยอมรับว่าเอาลูกในไส้ไปวางทิ้งตรงนั้นจริง แต่คาดหวังว่าจะมีคนมาเจอและเอาเด็กไปเลี้ยง สาเหตุที่ทำเพราะว่า ตัวเองตั้งครรภ์โดยที่ ที่บ้านไม่มีใครรู้ ส่วนฝ่ายชายเลิกลากันไปตั้งแต่ท้องได้เดือนแรกๆ ฝ่ายชายก็ทิ้งตนเองไปมีหญิงอื่น ตอนนั้นกินยาคุมฉุกเฉินแล้ว ป้องกันแล้วแต่พลาด จากนั้น ได้อุ้มท้องลูกมาตลอด 9 เดือน และคลอดลูกเองไม่ได้ไป รพ. เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 68 พร้อมตัดสายสะดือลูกเอง ตอนที่ขี่รถหอบลูกมาทิ้ง มันคิดอะไรไม่ออก เป็นอารมณ์ชั่ววูบ ก็มองหน้าลูก สงสารและบอกกับลูกว่าแม่ขอโทษ แต่แม่เอาหนูไว้ด้วยไม่ได้ จึงตัดสินใจเอาเด็กมาวางตรงนั้น เพื่อให้มีคนมาเจอเร็ว ๆ เพราะตรงจุดนั้นมักมีรถบรรทุกจอดนอน จากนั้นก็วนกลับมาดู แต่อยู่อีกฝั่งถนน เห็นว่าลูกนอนตรงนั้น แต่ไม่คิดเอากลับไปด้วยเพราะตัดสินใจแล้วทางบ้านมารู้เรื่องก็บ่น ซึ่งล่าสุดบอกกับนักข่าวเราว่า อยากเอาลูกกลับไปเลี้ยงเพราะสำนึกผิด
ขณะที่น้าสาวของนางสาวพลอย บอกกับนักข่าว ว่า ตนเองช็อกมากหลังจากที่ทราบเรื่อง ซึ่งตอนแรกทางบ้านที่ต่างจังหวัดเห็นภาพข่าว ได้โทรศัพท์มาหาตนเองให้ไปถามหลานสาวว่าใช่หรือไม่เนื่องจากคุ้นทั้งรถและคน ตนเองจึงโทรศัพท์กลับมาหาหลานสาว ตอนแรกก็ไม่ยอมรับ แต่พอเค้นถามความจริงจึงยอมรับว่าเป็นคนที่เอาเหลนไปทิ้งจริง ตอนนั้นตกใจมากไม่คิดว่าจะมาเจอเรื่องแบบนี้กับทางครอบครัว
ก่อนหน้านี้ สังเกตเห็นว่าหลานท้องโต ก็เคยถามว่าตั้งครรภ์หรือไม่ เจ้าตัวก็บอกว่าไม่แต่เป็นเพราะความอ้วน จนเรื่องแดงขึ้นมา หลังเกิดเรื่องแล้ว ทางครอบครัวอยากรับเด็กกลับไปเลี้ยงดูแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้หรือไม่ ส่วนแม่เด็กก็คงปล่อยให้เป็นไปตามขบวนการของกฎหมาย
ด้าน พ.ต.อ. ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.สภ.บางพลี บอกว่า หลังจากเกิดเหตุผู้บังคับการได้กำชับเร่งรัดคดีในการติดตามตัว จึงสั่งการให้ฝ่ายสืบสวนไปหาเบาะแสจนกระทั่งติดตามจับกุมตัวได้ ส่วนสาเหตุที่แม่เด็กก่อเหตุเช่นนี้ จากการสอบปากคำเบื้องต้นอ้างว่าไม่มีความพร้อมในการตั้งครรภ์และดูแลเด็ก เบื้องต้นแจ้งข้อหาความผิดฐานทอดทิ้งเด็ก" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 306 ซึ่งระบุว่า "ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใด เพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ" ส่วนจะเข้าข่ายพยามฆ่าด้วยหรือไม่นั้น จากการสอบปากคำและตรวจสอบจุดที่วางทิ้งนั้นตามเจตนาของมารดาในทางกฎหมายยังไม่เข้าข่าย
ผู้กำกับยังฝากเตือนและให้คติธรรมสำหรับคุณแม่ที่ไม่พร้อมจะมีบุตรแล้วเกิดพลาดตั้งครรภ์ขึ้นมา โดยระบุว่า พุทธศาสนาที่พระพุทธองค์ตรัสคำสอนไว้ว่า การที่เด็กสักคนจะมาเกิดได้นั้น เปรียบเสมือน เต่าร้อยปีที่โผล่พ้นน้ำมา แล้วเอาหัวสอดเข้าไปในแอ่งรูนั้น แล้วคิดมองภาพตามว่าทั้งโลกที่กำลังถูกน้ำท่วมทั้งโลก แล้วโอกาสที่เด็กจะเกิดขึ้นมาสักคนมันยากมาก แต่พอเด็กเกิดมาแล้วก็เป็นไปตามผลกรรมที่เด็กเคยทำไว้ เด็กคนนี้ก็เช่นกัน วิบากกรรมที่ทำไว้ เอาทำให้เข้ามาเกิดแต่อาจจะถูกทอดทิ้งในตอนแรกและผลกรรมดีที่ติดตัวเด็กมาจึงทำให้เขามีชีวิตรอดอยู่ในสังคมต่อไป
#แม่ทิ้งลูก