“อัครเดช” ย้ำอย่าเอาผลประโยชน์ของเกษตรกรแลกภาษีทรัมป์
“อัครเดช” ย้ำอย่าเอาผลประโยชน์ของเกษตรกรไปแลกกับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมส่งออก ในการเจรจาลดภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา
วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี เขต 4 พรรครวมไทยสร้างชาติ และประธานคณะกรรมาธิการการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอญัตติด่วนด้วยวาจา เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาผลกระทบจากการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกา เพื่อหามาตรการรองรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจที่มีต่อประเทศชาติ ว่า ตนได้รับมอบหมายให้เป็นตัวแทนของพรรครทสช.ให้เสนอญัตติด่วนนี้ ซึ่งเป็นประเด็นการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกาเป็นเรื่องเร่งด่วน มีความจำเป็น และมีความสำคัญต่อประเทศชาติ โดยการขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐอเมริกานั้นสร้างผลกระทบไปทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทยที่เป็นหนึ่งในประชาคมโลกด้วย ซึ่งประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อมในการหามาตรการรองรับเพื่อลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมการส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกา และภาคการเกษตร
ย้ำบทเรียน FTA
นายอัครเดช กล่าวว่า ในประเด็นภาคการเกษตรนั้น เป็นเรื่องข้อควรระวังเป็นอย่างยิ่ง หากในอนาคตรัฐบาลจะได้มีการทำข้อกำหนดทางการค้ากับสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะเราต้องเอาประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในกรณีของ FTA ระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย มาเป็นกรณีศึกษาเรื่องการเอาผลประโยชน์ของพี่น้องเกษตรกรไปแลกกับผลประโยชน์ผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม. FTA ระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่มีการลดภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์ที่มีที่มาจากโค ไม่ว่าจะเป็นน้ำนมสด หรือนมผงก็ดี ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศ และรวมถึงผู้เลี้ยงโคนมในจังหวัดราชบุรี
โคนมได้รับผลกระทบโดยตรง
นายอัครเดช กล่าวว่า โคนมในจ.ราชบุรีนั้นเป็นที่รู้จักทั่วประเทศจากสหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี จำกัด (ในพระบรมราชูปถัมภ์) ซึ่งล้นเกล้าในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้พระราชทานอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนชาวราชบุรีและพื้นที่ใกล้เคียงโดยผลกระทบจาก FTA ระหว่างไทยกับนิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ที่เอาผลประโยชน์ของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมจะได้รับจากการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมไปประเทศดังกล่าวโดยไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าใน 2 ประเทศดังกล่าว ไปแลกกับการให้ผู้ประกอบการใน 2 ประเทศสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์จากโคนม ได้แก่ น้ำนมสด หรือนมผงมายังไทยโดยประเทศไทยไม่เก็บภาษีนำเข้า คือการเอาผลประโยชน์ภาคอุตสาหกรรมมาแลกกับผลกระทบที่มีต่อพี่น้องเกษตรกร
ต้องลดการผลิตลง
จากการไม่เก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์นมผงนั้น ทำให้ผู้ประกอบการที่ใช้นมในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์เลือกที่จะใช้นมผงจากทั้งสองประเทศที่มีราคาถูกกว่ามาใช้แทนน้ำนมดิบที่ผลิตในประเทศไทย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมต้องลดการผลิตนมโคเพราะมีการลดการซื้อลงวันละ 800 ตัน ทำให้มีน้ำนมดิบค้างอยู่ในสหกรณ์ต่าง ๆ ทั่วประเทศหลายแสนลิตรที่ยังดูแลไม่ทั่วถึง
“นี่คือตัวอย่างความเดือดร้อนของเกษตรกร จากการเอาผลประโยชน์ภาคอุตสาหกรรมมาแลกกับผลกระทบภาคการเกษตร ซึ่งหากมีข้อตกลงแบบนี้กับสหรัฐอเมริกา ไม่ว่าจะเป็น ข้าวโพด ข้าวสาลี เนื้อหมู เนื้อวัว เครื่องใน หรือกุ้ง จะทำให้พี่น้องเกษตรกรที่เกี่ยวข้องจะไม่สามารถดำรงชีวิตด้วยอาชีพเหล่านี้ต่อไปได้ แต่คนที่ได้รับประโยชน์คือผู้ประกอบการอุตสาหกรรมส่งออก ”
ปีนี้เกษตรกรเดือดร้อนอยู่แล้ว
นายอัครเดช กล่าวด้วยว่าในปีนี้ที่เป็นปีที่สินค้าภาคการเกษตรราคาแย่ทุกอย่าง พี่น้องเกษตรกรเดือดร้อนอยู่แล้ว หากมีการซ้ำเติมจากข้อตกลงที่เกี่ยวกับภาษีนำเข้าสินค้าทางการเกษตรอีก พี่น้องเกษตรกรไทย ที่เป็นอาชีพหลักของประเทศไทยจะดำรงชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร ในขณะนี้มีร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งกองทุนดูแลผู้ได้รับผลกระทบจากการทำข้อตกลงทางการค้าเสรี ซึ่งจะสามารถลดผลกระทบกับพี่น้องเกษตรกรได้ แต่กฎหมายนี้ยังไม่ไปถึงไหน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ต้องเร่งผลักดันกฎหมายฉบับนี้ เพราะยิ่งปล่อยให้ระยะเวลาล่วงเลยไปเท่าไหร่ คือเวลาที่พี่น้องเกษตรกรไทยจะต้องทนทุกข์นานขึ้นเท่านั้น
พร้อมเรียกร้องให้ทุกกระทรวงต้องเดินหน้าทำงานอย่างจริงจังเช่นเดียวกับกระทรวงอุตสาหกรรมที่ทำงานอย่างจริงจังเพื่อตอบคำถามให้ได้ว่า เมื่อมีการดึงการลงทุนเข้ามาในประเทศไทยแล้วประเทศไทยได้อะไร เช่น 1. ปราบปรามอุตสาหกรรมศูนย์เหรียญ ที่มีแต่ตัวเลขเม็ดเงินแต่คนไทย ประเทศไทยไม่ได้รับประโยชน์อะไรเลย บางครั้งสร้างมลภาวะให้กับประเทศไทยอีก 2. ปราบปรามการดัมพ์ตลาดจากสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน 3. ต้องสนับสนุนให้คนไทย และรัฐบาลไทย ใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศไทย 4. สนับสนุน SME ด้วยนวัตกรรม และลดอุปสรรคที่กีดขวางการเติบโตของ SME 5. สนับสนุนให้เกิดการใช้ Supply Chain ในประเทศไทย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “อัครเดช” ย้ำอย่าเอาผลประโยชน์ของเกษตรกรแลกภาษีทรัมป์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ทรัมป์ปิดดีลการค้ากับเกาหลีใต้ เก็บภาษี 15% ลงทุนในสหรัฐฯ 3.5 แสนล้าน
- หุ้นไทย รอดหรือร่วง ลุ้นคำตอบดีล “ภาษีทรัมป์” โค้งสุดท้ายก่อนเส้นตาย 1 ส.ค.นี้ หวังอัตราภาษีฯ 20%
- "อันวาร์ อิบราฮิม" เผยทรัมป์เตรียมประกาศอัตราภาษีมาเลเซีย 1 ส.ค.
- SCGP ชี้กำแพงภาษีกระทบจำกัด รายได้จากสหรัฐฯ แค่ 4% พร้อมรับมือปรับลดงบลงทุน เหลือ 1 หมื่นล้านบาท
- “พิชัย” คาดได้รับแจ้งปม “ภาษีทรัมป์” ใน 24 ชม. ยันทีมไทยรักษาผลประโยชน์ประเทศสูงสุด
ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath