‘ขุนคลัง’มั่นใจไม่เกิน2วันงบ69ฉลุย ชี้การเมืองไม่กระทบเชื่อมั่น
‘ขุนคลัง’ มั่นใจไม่เกิน 2 วัน งบประมาณปี 69 ฉลุย แจงขั้นตอนอยู่ระหว่างการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว มั่นใจไม่มีปัญหา มองนักลงทุนต่างชาติเข้าใจสถานการณ์การเมืองไทย เพราะเกิดบ่อย เชื่อไม่กระทบความเชื่อมั่น
1 ก.ย. 2568 - นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง เปิดเผยว่า ยังมั่นใจว่าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณปี 2569 จะยังคงเดินหน้าต่อไปได้ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์การเมืองภายในประเทศจะเข้าสู่ช่วงสุญญากาศ แต่ไม่น่าจะผลกระทบ โดยขณะนี้กระบวนการอยู่ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว เชื่อว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 วัน ดังนั้นหลังจากนี้ไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลงบประมาณก็จะยังเดินหน้าต่อไปได้อย่างแน่นอน
‘ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ขณะนี้อยู่ในชั้นการพิจารณาของวุฒิสภาแล้ว ซึ่งเชื่อว่าทุกอย่างไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด ซึ่งเท่าที่ทราบกฎหมายที่เข้าสู่ชั้นการพิจารณาของวุฒิสภาก็ยังคงสามารถเดินหน้าต่อไปได้ทั้งหมด’ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.การคลัง ระบุ
สำหรับสถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติมากนัก ส่วนหนึ่งเพราะที่ผ่านมาประเทศไทยเกิดปัญหาเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในลักษณะนี้ค่อนข้างบ่อย จนต่างชาติก็อาจจะเริ่มคุ้นชินพอสมควรแล้ว โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้อาจจะมีลักษณะพิเศษกว่าที่ผ่านมาบ้าง แต่ก็อยากให้มองว่าไม่ใช่แค่ประเทศไทย หากทุกประเทศเกิดปัญหาลักษณะนี้ก็เชื่อว่าจะต้องมีสะดุดเหมือนกันหมด
ทั้งนี้ ในส่วนของกรณีคำตัดสินของศาลอุทธรณ์รัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งวินิจฉัยว่า มาตรการเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ประกาศใช้ทั่วโลกเมื่อวันที่ 2 เม.ย. 2568 ส่วนใหญ่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเกินขอบเขตอำนาจของฝ่ายบริหารนั้น นายพิชัย ระบุว่า ไม่ว่าสุดท้ายเรื่องนี้ทางสหรัฐฯ จะตัดสินกันอย่างไร เช่น หากตัดสินว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะ ทุกประเทศก็ยังเดินหน้าเรื่อง Reciprocal Tariffs กันไปตามเดิม ทุกประเทศยังมีสเตตัสในเรื่องนี้เท่าเดิม ประเทศไทยก็เช่นเดียวกัน
แต่ในทางกลับกันหากทรัมป์ไม่ชนะ แล้วสุดท้าย Reciprocal Tariffs จะต้องกลับไปที่อัตราเดิม ก็เชื่อว่าทุกประเทศก็คงจะต้องกลับไปเหมือนกันทั้งหมด เพราะวันนี้ส่วนหนึ่งต้องเข้าใจว่าการแข่งขันทางการค้าในปัจจุบันไม่ใช่ทุกประเทศแข่งขันกับสหรัฐฯ แต่เป็นการแข่งขันกันระหว่างประเทศที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ มากกว่า
‘ผมยังเชื่อว่ากลไกการค้าของโลกเราใบนี้ มันต้องรู้อยู่แล้วว่าจะแข่งขันกันในลักษณะนี้ อาจจะมีที่แข่งขันกับสหรัฐฯ บ้างบางส่วน แต่ก็จะมีที่สหรัฐฯ จะต้องแข่งขันกับโลกด้วยส่วนหนึ่ง จริง ๆ ที่ไทยได้เปรียบสหรัฐฯ ในเรื่องที่เราส่งออกเยอะนั้น ส่วนหนึ่งไม่ใช่เพราะเราผลิตเองได้เยอะ ดังนั้นสุดท้ายผลของทางสหรัฐฯ จะออกมาเป็นอย่างไร ก็เชื่อว่าไทยจะไม่มีปัญหา เพราะปัญหาก็ยังเท่าเดิม แต่อยู่ที่ว่าเราแก้ปัญหาได้ถูกทางหรือไม่’ นายพิชัย กล่าว.