OCDP-กระทรวงมหาดไทย-UNHCR ร่วมยินดี 50 ปี ตอกย้ำความมุ่งมั่นเพื่อผู้ลี้ภัย
OCDP-กระทรวงมหาดไทย และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ-UNHCR ร่วมยินดี 50 ปี แห่งความห่วงใย ที่ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นเพื่อผู้ลี้ภัย ชื่นชมไทยให้สิทธิแรงงานกับผู้หนีภัยชาวเมียนมา
วันนี้ (2 ก.ย. 68) ในโอกาสที่สำนักงานศูนย์ดำเนินการเกี่ยวกับผู้อพยพกระทรวงมหาดไทย (OCDP) มีวาระครบรอบ 50 ปี ในวันที่ 16 สิงหาคม จึงเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้สะท้อนให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมอันยาวนานของประเทศไทยในการแก้ไขปัญหาการพลัดถิ่น และเพื่อเป็นการระลึกถึงช่วงเวลาสำคัญทางประวัติศาสตร์นี้ OCDP และสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ได้จัดนิทรรศการสื่อผสมผสาน ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในการเปิดนิทรรศการ พร้อมด้วยถ้อยแถลงจาก น.ส.แทมมี ชาร์ป ผู้แทนข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย, มิเกลล่า ฟิลแบรย์-สตอเร่ ผู้ประสานงานสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย, ดร. แอนเจลา แมคโดนัลด์ เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทย และ นายแทม ฮวง เจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติและอดีตผู้ลี้ภัยที่ได้รับการตั้งถิ่นฐานใหม่ในประเทศที่ 3 จากประเทศไทย
“50 ปี หมุดหมายแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับผู้พลัดถิ่น” จะนำเสนอเรื่องราวผ่านนิทรรศการ สื่อผสมผสานที่เรียบเรียงเหตุการณ์ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เพื่อเป็นการเชิดชูความสามารถของ
ผู้ลี้ภัย ความเอื้ออารีย์ของประเทศไทยผ่านการจัดตั้งสำนักงาน OCDP ตลอดจนความมุ่งมั่นของ UNHCR และความสมัครสมานสามัคคีตลอดมาของประชาคมระหว่างประเทศ
นิทรรศการนี้ได้จัดแสดงผลงานด้วยการร้อยเรื่องราวจากภาพถ่าย ภาพวิดีทัศน์ ร่วมกับผลงานศิลปะ ที่สร้างสรรค์โดยผู้ลี้ภัยทั้งในอดีตและปัจจุบัน และมีช่วงเสวนาที่นำเสนอเรื่องราวการตั้งถิ่นฐานใหม่ จากรุ่นสู่รุ่น ตลอดจนมีการต้อนรับด้วยอาหารพื้นถิ่นจากชุมชนของผู้ลี้ภัย นิทรรศการได้เปิดให้ บุคคลทั่วไปเข้าชมได้ตั้งแต่วันที่ 3 ถึง 14 กันยายน พ.ศ. 2568
“ความร่วมมือตลอด 50 ปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ เมื่อความมุ่งมั่นด้านมนุษยธรรมได้ผสานเข้ากับแนวทางการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ดังนั้น การประกาศนโยบายเกี่ยวกับสิทธิการทำงานของผู้ลี้ภัย ที่ต่อยอดจากความพยายามตลอด 50 ปีที่ผ่านมา ถือเป็นตัวอย่างอันทรงคุณค่าและสอดคล้องกับสถานการณ์ สิ่งนี้สะท้อนว่าความเอื้ออารีย์ที่ผนวกกับวิสัยทัศน์ เป็นสิ่งที่สามารถดำเนินไปด้วยกันได้” แทมมี ชาร์ป ผู้แทน UNHCR ประจำประเทศไทย กล่าว
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า “ในโลกที่กำลังเผชิญกับความไม่แน่นอน ประเทศไทยเลือกเส้นทางแห่งความหวัง และเวลานี้ เราเชื่อว่าเราจะสามารถค้นพบความหวังนั้นร่วมกันได้”
งานนี้จัดขึ้นในห้วงเวลาที่สะท้อนถึงบทบาทใหม่แห่งการรองรับผู้ลี้ภัยของประเทศไทย ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลไทยได้ตัดสินใจให้สิทธิแก่ผู้ลี้ภัยที่พำนักอยู่เป็นเวลานานจากเมียนมาได้มีโอกาสในการทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้น ในวาระครบรอบครั้งนี้ จึงเป็นการตอกย้ำถึงความร่วมมือ ตลอด 5 ทศวรรษ ที่กำลังพัฒนาไปสู่แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน
มิเกลล่า ฟิ ลแบรย์-สตอเร่ ผู้แทนเลขาธิการสหประชาชาติประจ าประเทศไทย (United Nations Resident Coordinator in Thailand) ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในวงกว้างของการตัดสินใจ ครั้งนี้ต่อประเทศไทยและภูมิภาค
“ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยได้มีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในการดูแลประชากรผู้พลัดถิ่น การดำเนินการตามนโยบายนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายสิทธิการท างานให้แก่ผู้ลี้ภัยจากเมียนมา และจะช่วยขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ลดความเปราะบาง และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทั้งผู้ลี้ภัยและชุมชนประเทศเจ้าบ้าน ทีมงานสหประชาชาติในประเทศไทยพร้อมสนับสนุนรัฐบาลไทยในการดำเนินการตามนโยบายสำคัญนี้” คุณมิเกลล่า กล่าว
OCDP และ UNHCR ยังคงมองไปข้างหน้า และเรายังคงมุ่งมั่นที่จะต่อยอดความร่วมมือนี้ เพื่อที่อีก 50 ปี ของเส้นทางข้างหน้า จะถูกสร้างขึ้นจากมรดกของความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน