ณัฐพล พรรคประชาชน ท้วงงบทำแอปพลิเคชันกรมการท่องเที่ยว เผยแอปเก่าปี 67 ยังไม่เสร็จ ปี 69 ขอใหม่อีก 40 ล้าน

วานนี้ (13 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา (วาระ 2) เป็นวันแรก

ณัฐพล โตวิจักษณ์ชัยกุล สส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน สงวนคำแปรญัตติ มาตรา 11 งบประมาณกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา อภิปรายว่า ขอเจาะจงไปที่กรมการท่องเที่ยว ซึ่งของบประมาณปี 2569 เพื่อพัฒนาแอปพลิเคชันด้านการท่องเที่ยวใหม่ 2 รายการ

ทั้งนี้ ในเอกสารชี้แจงระบุว่า แอปทั้งสองต้องใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และ Android รวมวงเงินกว่า 40 ล้านบาท ได้แก่ 1. โครงการแพลตฟอร์มดิจิทัลรองรับการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยวชาวมุสลิม มูลค่า 7 ล้านบาท 2.โครงการระบบส่งเสริมการท่องเที่ยวและโบราณสถาน เพื่อยกระดับสู่แหล่งท่องเที่ยวที่ทันสมัยมูลค่า 32 ล้านบาท

ณัฐพลกล่าวต่อว่า หากย้อนกลับไปในปีงบประมาณ 2567 กรมการท่องเที่ยว เคยของบประมาณเพื่อทำแอปพลิเคชันเช่นเดียวกัน คือ Tourism Wallet และ Intelligence Travel Guide โดยที่แอปพลิเคชันแรกคือ Tourism Wallet มูลค่า 12 ล้านบาท ได้รับแจ้งเมื่อเดือนที่ผ่านมาว่า ยังไม่แล้วเสร็จ ส่วนแอปพลิเคชันที่สอง Intelligence Travel Guide มูลค่า 30 ล้านบาท อยู่ในระยะที่ 1 ยังใช้งานไม่ได้ ทั้งยังมีการของบทำระยะที่ 2 เพิ่มอีก 62 ล้านบาท ซึ่งคณะอนุกรรมาธิการฯ ปรับลดลง 10 ล้านบาท เหลือ 52 ล้านบาท

“แอปพลิเคชันสองตัวแรกยังไม่เสร็จ แต่วันนี้มาขอเพิ่ม อีก 2 แอปพลิเคชัน ถ้าเราผ่านงบวันนี้ไป กรมการท่องเที่ยวจะมีแอปพลิเคชันในมือรวม 4 แอปฯ มูลค่ารวม 135 ล้านบาท ซึ่งจะเสร็จหรือไม่ ไม่มีใครตอบได้ เพราะแม้แต่หน่วยงานเองก็ไม่ได้ทำเอง ไปจัดซื้อจัดจ้างเอกชนผ่านข้อกำหนดหรือขอบเขตงาน (TOR) และการประกวดราคาผ่านระบบออนไลน์ (e-bidding) ซึ่งเราก็ยังไม่ทราบว่า จะได้ใช้กันจริงหรือไม่” ณัฐพลกล่าว

ทั้งนี้ ในปี 2567 ตนเองเคยพยายามอภิปรายเพื่อตัดงบแอป 2 ตัวแรกแต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากไม่ได้เข้าห้องอนุกรรมาธิการที่ตนเองอยู่ แต่เมื่อไปอยู่ในอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์และห้องคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ แม้จะมีการปรับลดเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ถูกตัด

ณัฐพลกล่าวเหตุผล 4 ข้อว่าทำไมจึงควรตัดงบพัฒนา 2แอปพลิเคชันใหม่

• ตัวชี้วัดโครงการกำหนดเพียงว่า มีแอปพลิเคชัน 1 ระบบ ถือว่าสำเร็จ โดยไม่วัดจำนวนผู้ใช้ หรือผลลัพธ์ที่แท้จริง
• แอปพลิเคชันของรัฐส่วนใหญ่ โดยเฉพาะด้านท่องเที่ยว ได้คะแนนรีวิวเพียง 1-2 ดาวในแอปสโตร์เท่านั้น พร้อมคอมเมนต์ว่าใช้งานไม่ได้ และไม่สามารถแข่งขันกับแอปเอกชนได้
• แอปพลิเคชันมีความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น เช่น ททท., กระทรวงวัฒนธรรม, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และอีกหลายหน่วยงานที่พัฒนาแอปพลิเคชันส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยที่ข้อมูลไม่เชื่อมโยงกัน
• แอปพลิเคชันเดิมยังไม่เสร็จ แต่มาของบทำแอปใหม่เพิ่ม

“ผมติดใจเรื่องนี้ และยืนยันขอปรับลดงบตามคำแปรญัตติที่สงวนไว้” ณัฐพลย้ำทิ้งท้าย