โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

"แบงก์ชาติ" ออกมาตรการใหม่ ห้ามโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน เน้นกลุ่มเปราะบาง หวังสกัดมิจฉาชีพหลอก

TNN ช่อง16

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา
“แบงก์ชาติ” ออกมาตรการใหม่ ห้ามโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน เน้นกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง หวังสกัดมิจฉาชีพหลอก

"ธนาคารแห่งประเทศไทย" ออกมาตรการใหม่ ห้ามโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน เน้นกลุ่มเปราะบาง กลุ่มเสี่ยง หวังสกัดมิจฉาชีพหลอก

นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยถึงสถานการณ์และแนวโน้มภัยทุจริตการเงินในประเทศไทย ล่าสุดภัยจากแอปดูดเงินนับตั้งแต่ต้นปี-ปัจจุบัน พบว่าไม่มีจำนวนผู้เสียหายแล้ว หรือ 0 เคส แต่อย่างไรก็ดี กรณีของการถูกหลอกโอนเงินยังพบความเสียหายอยู่ โดย ณ ไตรมาสที่ 2/2568 มีมูลค่าความเสียหายราว 6,000 ล้านบาท เฉลี่ย 2,000 ล้านต่อเดือน ลดลงจากไตรมาส 2/2567 มีมูลค่าความเสียหาย 8,590 ล้านบาท และในเดือนกรกฎาคม 2568 สามารถระงับบัญชี 3 ล้านบัญชี คิดเป็นรายชื่อม้า 1.77 แสนรายชื่อ

ทั้งนี้หากดูข้อมูลความเสียหายจากการหลอกลวงในเดือนมิถุนายน 2568 มีจำนวนความเสียหาย 24,500 เคส ความเสียหายรวม 2,800 ล้านบาท เฉลี่ย 114,000 บาทต่อเคส โดยยอดโอนเงินสูงสุดอยู่ที่ 4.9 ล้านบาท และหากดูธุรกรรมที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีม้ามูลค่าสูงกว่า 5 หมื่นบาท โอนเงินภายใน 3 นาที คิดเป็นประมาณ 50% ของมูลค่าความเสียหาย และเหยื่อจะแจ้งข้อมูลเข้าระบบภายใน 19-25 ชั่วโมง

อย่างไรก็ดี หากแยกตามกลุ่มอายุ จะพบว่าความเสียหายจะสูงขึ้นตามอายุ ซึ่งจากข้อมูลสถิติย้อนหลัง 3 ปี 3 เดือน พบว่าเฉลี่ยคนที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปมีมูลค่าความเสียหายเฉลี่ย 4 แสนบาท และอายุน้อยกว่า 15 ปี แม้ว่าจำนวนเคสไม่เยอะ แต่จำนวนวงเงินค่อนข้างเยอะ ส่วนหนึ่งมาจากการผูกบัญชีกับครอบครัว

ดังนั้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายและกันเงินให้ได้เร็วขึ้น ล่าสุด ธปท.ร่วมมือกับสมาคมธนาคารไทย ยกระดับมาตรการเชิงป้องกัน โดยกำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันผ่านช่องทางดิจิทัลของลูกค้าบุคคลธรรมดาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการทำธุรกรรมของลูกค้า (Customer Profiling) เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการเชิงรุกในการป้องกันและจำกัดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชนที่ถูกหลอกลวงจากมิจฉาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โดยมาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักคือ

1.จำกัดไม่ให้มิจฉาชีพสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ครั้งละจำนวนมาก เพื่อป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพถ่ายโอนเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดได้เร็ว ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสที่จะกักเงินของผู้เสียหายไว้ได้ทัน และ 2.จำกัดความเสียหายของประชาชนที่อาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญของมิจฉาชีพ โดยธนาคารจะพิจารณากำหนดวงเงินการโอนและชำระเงินต่อวันให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและพฤติกรรมการทำธุรกรรมในอดีตของลูกค้า จากเดิมที่เคยให้โอนได้ 2 ล้านบาทต่อวัน

ทั้งนี้ การกำหนดวงเงินจะแบ่งลูกค้าเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่

1. กลุ่มลูกค้าต้องสงสัย และมีความเสี่ยง

2. กลุ่มทั่วไป ธนาคารรู้จักและประเมินจากข้อมูลที่มีอยู่

3. กลุ่มเปราะบางที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ เช่น อายุต่ำกว่า 15 ปี และกลุ่มอายุเกินกว่า 65 ปี

โดยจะมีการกำหนดวงเงินเป็น 3 ระดับ ได้แก่

กลุ่ม S : วงเงินไม่เกิน 5 หมื่นบาทต่อวัน

กลุ่ม M : วงเงินไม่เกิน 2 แสนบาทต่อวัน

กลุ่ม L : วงเงินมากกว่า 2 แสนบาทต่อวัน

ซึ่งธนาคารจะมีการประเมินลูกค้าจากพฤติกรรม การทำธุรกรรม และการรู้จักลูกค้า (KYC) ของแต่ละคน เพื่อกำหนดวงเงินให้เหมาะสม

อย่างไรก็ดี หากลูกค้าที่ต้องการทำธุรกรรมมากกว่าวงเงินที่กำหนดไว้ ลูกค้าสามารถแจ้งกับธนาคารในการปรับเปลี่ยนวงเงิน เช่น มีความจำเป็นต้องใช้วงเงินฉุกเฉิน ธนาคารจะมีช่องทางพิเศษในการอนุมัติการใช้วงเงินภายในหลักชั่วโมงเท่านั้น ส่วนกลุ่มที่ต้องการวงเงินมากกว่าที่กำหนด เนื่องจากสามารถรับผิดชอบตัวเอง กรณีนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยแจ้งธนาคารและให้เอกสารเพิ่มเติม

สำหรับมาตรการนี้จะมีผลบังคับใช้ในส่วนของลูกค้าใหม่ที่เพิ่งสมัคร Mobile Banking ทันที และลูกค้าปัจจุบันที่ใช้ Mobile Banking อยู่แล้วให้ดำเนินการภายในสิ้นปี 2568 อย่างไรก็ดี หากธนาคารใดมีความพร้อมก็สามารถดำเนินการทันที โดยปัจจุบันมีจำนวนบัญชี Mobile Banking อยู่ที่ราว 120 ล้านบัญชี

นางสาวดารณี ย้ำว่ามาตรการนี้เกิดขึ้นเพราะไม่ต้องการให้มิจฉาชีพใช้ช่องทางการเงินในการหลอกลวงเหยื่อ จึงให้ธนาคารต่างๆ กำหนดวงเงินตามความเหมาะสม เช่น ลูกค้าใหม่ ไม่รู้จัก มีรายได้ไม่ชัดเจน อาจจะใช้ S ไม่เกิน 5 หมื่นบาท และหลังจากดูพฤติกรรม 3-6 เดือน หรือมีข้อมูลใหม่ มีการใช้สินเชื่อ อาจจะปรับเป็น M หรือ L ส่วนกลุ่มเปราะบางเด็กและผู้สูงอายุ ธนาคารอาจจะให้วงเงินสอดคล้องกับประวัติ เช่น มองว่า 5 หมื่นบาทมากเกินไป อาจจะให้ 5,000 บาท หรืออื่น ๆ ตามการพิจารณาของธนาคาร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก TNN ช่อง16

เปิดเรื่องย่อ "ยัยปลาไหลกับนายไฮโซ"

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

เปิดประวัติ “ผู้หมวดอะตอม” ทหารหญิงชี้หน้าทหารกัมพูชาให้ถอยอย่าล้ำเส้น

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

Broker ranking 19 Aug 2025

Manager Online

สินเชื่อแบงก์ติดลบ 4 ไตรมาศ ย้ำกนง.ลดดอกเบี้ยนโยบายช่วยลดภาระหนี้ ไม่ช่วยปล่อยกู้เพิ่ม

Manager Online

ครม. โยก “ดนุชา พิชยนันท์” นั่งเลขาธิการ สทนช.

การเงินธนาคาร

Texica Wine 15 ปีแห่งการนำ “จิตวิญญาณอิตาลี” สู่โต๊ะอาหารไทย เมื่อไวน์กลายเป็นการเดินทางทางวัฒนธรรม

Positioningmag

ความยั่งยืน = ทางรอดธุรกิจยุคใหม่ กลุ่ม TCP เปิดฟอรัมช่วย SME Sustainability Forum 2025

TODAY Bizview

พักผ่อนชมวิวกรุงเทพฯ แบบเต็มตาในราคาสุดพิเศษที่อวานี สุขุมวิท กรุงเทพฯ พิเศษเฉพาะในงานไทยเที่ยวไทย ครั้งที่ 75

สยามรัฐ

สรุปราคาทองวันนี้ 19 สิงหาคม 2568

สยามนิวส์

"เซ็นทารา"ชวนฉลองเทศกาลมงคล ผ่านขนมไหว้พระจันทร์จากเซ็นทารา 13 แห่งทั่วไทย

สยามรัฐ

ข่าวและบทความยอดนิยม

"แบงก์ชาติ" เผยสินเชื่อ 2Q68 ติดลบ 0.9% ห่วง "กลุ่มเปราะบาง" ฟื้นช้า เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่อง

TNN ช่อง16

ป้องกันตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ! กำหนดวงเงินโอน-ชำระเงินเริ่มต้นไม่เกิน 50,000 บาทต่อวัน

TNN ช่อง16

กนง.มีมติเอกฉันท์ลดดอกเบี้ยจากร้อยละ 1.75 เป็นร้อยละ 1.50

TNN ช่อง16
ดูเพิ่ม
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...