บทเรียนจากความพ่ายแพ้ สัญญาณเตือนทีมตบสาวไทย ก่อนศึกชิงแชมป์โลก
หลังจากที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยจบศึก SEA V League 2025 สนาม 2 ด้วยความพ่ายแพ้ต่อเวียดนาม 2-3 เซต ทั้งที่ออกนำก่อนถึง 2-0 เซต
ภาพนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสะดุดในผลการแข่งขัน แต่ยังสะท้อนถึงจุดบกพร่องที่ชัดเจนหลายด้าน ก่อนที่ทีมจะก้าวเข้าสู่ศึกชิงแชมป์โลกซึ่งไทยจะรับหน้าที่เจ้าภาพในอีกไม่นาน
เมื่อมองย้อนกลับไปที่อันดับโลก FIVB Rankings ทีมไทยเคยรั้งอันดับ 13 ก่อนเริ่มศึก VNL 2025 แต่หลังจบทัวร์นาเมนต์กลับร่วงมาอยู่อันดับ 21 ของโลก ตัวเลขนี้เป็นสัญญาณชัดเจนว่าชาติคู่แข่งกำลังพัฒนาและก้าวแซงไทยเร็วกว่าที่หลายคนคาดคิด หนึ่งในนั้นคือเวียดนาม ซึ่งปัจจุบันอยู่อันดับ 22 จนแทบหายใจรดต้นคอ พวกเขามีความกระหายอย่างยิ่งที่จะโค่นทีมไทย และในครั้งนี้ก็ทำได้สำเร็จ
แม้การกลับมาของ ชัชชุอร โมกศรี ที่ฟิตสมบูรณ์ จะช่วยแบ่งเบาภาระการทำแต้มจาก พิมพิชยา ก๊กรัมย์ ได้มาก แต่ภาพรวมของทีมยังเผยให้เห็นจุดที่ต้องเร่งแก้ไขอยู่ไม่น้อย
🏐 เกมรับที่ยังไม่เหนียวแน่น: การรับมือกับลูกตบหนักของผู้เล่นเวียดนามอย่าง เหงียน ถิ บิค เตวียน กลายเป็นปัญหาเด่นชัด แนวรับไทยยังขาดการประสานงานที่ลงตัวและความแข็งแกร่งพอ โดยเฉพาะเมื่อเจอกับบอลที่มีทั้งพลังและความเร็ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ทีมไทยเคยเจอมาตลอดในการดวลกับทีมระดับท็อปใน VNL2025 อย่าง อิตาลี, โปแลนด์, ตุรกี หรือ สหรัฐอเมริกา
ดังนั้น ทีมไทยในการดูแลของโค้ชอ๊อด-เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร ควรเพิ่มการฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับลูกตบหนักและลูกที่มาตามมุมแปลก พร้อมทั้งปรับปรุงการสื่อสารในแนวรับเพื่อลดความผิดพลาด และจัดตำแหน่งผู้เล่นทั้งก่อนเกม-ระหว่างเกม ให้เหมาะสมกับสไตล์การรุกของคู่แข่งแต่ละทีม
🏐เกมรุกที่ขาดความหลากหลายและความเด็ดขาด: แม้ชัชชุอรและพิมพิชยาจะเป็นอาวุธสำคัญ แต่การพึ่งพาผู้เล่นไม่กี่คนมากเกินไป ทำให้คู่แข่งเดาทางได้ง่าย อีกทั้งจังหวะตัดสินสำคัญยังไม่คมพอ
ทีมตบสาวไทยจึงควรกระจายการทำแต้มไปยังตำแหน่งอื่น เช่น บอลเร็วจากตัวกลางหรือการรุกจากด้านข้าง (มีให้เห็น…แต่ยังไม่เยอะ) พร้อมเพิ่มรูปแบบการโจมตีอย่างการตบเบา เล่นเร็ว หรือเปลี่ยนมุมโจมตีเพื่อสร้างความสับสน และฝึกจังหวะรุกภายใต้ความกดดันเพื่อให้แม่นยำและมั่นใจยิ่งขึ้นในช่วงคะแนนสูสี
🏐 การแก้เกมของทีมสตาฟฟ์โค้ช: การนำ 2-0 แต่กลับแพ้ 2-3 สะท้อนถึงการรับมือกับการปรับเกมของคู่แข่งที่ไม่ทันการณ์ เวียดนามพยายามปรับแท็กติกเพื่อสู้ทีมไทยอยู่ตลอด ขณะที่ช่วงท้ายๆ ทีมไทยตอบสนองได้ไม่ดีพอ
จุดนี้อาจเป็นการบ้านให้ทีมงานใช้เวลาที่เหลือไม่กี่สัปดาห์ได้วิเคราะห์สไตล์การเล่นของคู่แข่งอย่างละเอียดตั้งแต่ก่อนการแข่งขัน เพื่อเตรียมแผนสำรองหลายรูปแบบ กล้าตัดสินใจปรับเปลี่ยนผู้เล่นในช่วงที่ต้องการพลิกสถานการณ์ และฝึกซ้อมในสถานการณ์จำลองที่ทีมถูกกดดัน เพื่อเสริมความสามารถในการกลับมาควบคุมเกมได้อีกครั้ง
🏐 ความฟิตและสภาพจิตใจ: การเสียแต้มและเซตในช่วงท้าย อาจบ่งชี้ถึงความอึดทางร่างกายที่ยังไม่เต็มร้อย รวมถึงสภาพจิตใจที่ถูกบีบให้แกว่งเมื่อเจอสถานการณ์กดดัน
อย่างไรก็ตาม ความพ่ายแพ้ครั้งนี้อาจเป็นบทเรียนที่เจ็บปวด แต่ก็เป็นสัญญาณเตือนที่ชัดเจนว่า หากต้องการสร้างผลงานในศึกชิงแชมป์โลกต่อหน้าแฟนเจ้าบ้าน ทีมชาติไทยจำเป็นต้องเร่งปรับทั้งแท็กติก เกมรับ-เกมรุก รวมถึงสภาพร่างกาย-จิตใจ ให้พร้อมที่สุดในเวลาอันสั้น เพราะในเวทีระดับโลก ‘ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อย’ อาจหมายถึงการหมดสิทธิ์ลุ้นไปต่อทันที
ทั้งนี้ การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 จะเปิดฉากในวันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งทีมชาติไทยจะลงเล่นรอบแบ่งกลุ่มทุกนัดที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ พร้อมรับชมถ่ายทอดสดได้ทาง PPTV HD 36 และ AIS PLAY ตามโปรแกรมดังนี้
- 22 สิงหาคม เวลา 20.30 น. ไทย พบ อียิปต์
- 24 สิงหาคม เวลา 20.30 น. ไทย พบ สวีเดน
- 26 สิงหาคม เวลา 20.30 น. ไทย พบ เนเธอร์แลนด์