เปิดเอกสาร การรถไฟฯ ยื่น ส.ค.1 ปี 2498 อ้างครอบครองเขากระโดง 5,083 ไร่ ทั้งที่ประชาชนแจ้งครอบครองก่อน
มีการเผยแพร่เอกสาร ‘แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)’ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงวันที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 แจ้งครอบครองพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ รวมเนื้อที่ 5,083 ไร่ โดยระบุในช่องสาเหตุการได้มาว่า ‘พระราชกฤษฎีกา’ แต่ไม่ปรากฏวัน เดือน ปี ที่ได้มา และระบุสภาพที่ดินเป็น ‘ทางรถไฟ’
ขณะที่ ส.ค.1 เป็นเพียงการแจ้งครอบครองเพื่อทำประโยชน์ ไม่ใช่หนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ และไม่มีผลทำให้ผู้แจ้งได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยอัตโนมัติ ที่สำคัญ การแจ้งดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากกรมที่ดินประกาศให้ราษฎรที่ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อนวันที่ 14 ธันวาคม 2497 มาจดทะเบียนแจ้งสิทธิ ซึ่งประชาชนจำนวนมากในพื้นที่เขากระโดงได้แจ้ง ส.ค.1 ไว้แล้วตั้งแต่ปี 2497 ก่อนการรถไฟฯ จะมายื่นในปี 2498
ประเด็นนี้จึงถูกตั้งข้อสังเกตว่า หากการรถไฟฯ มีกรรมสิทธิ์มาตั้งแต่ปี 2462 ตามที่อ้าง เหตุใดต้องมาขอจด ส.ค.1 ซึ่งเป็นสิทธิที่กฎหมายออกแบบมาเพื่อราษฎร และเหตุใดจึงไม่สามารถระบุวัน เดือน ปี การได้มาของสิทธิตามพระราชกฤษฎีกาที่อ้างได้อย่างชัดเจน
ตามกฎหมาย หน่วยงานของรัฐจะได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน ต้องได้มาโดยการเวนคืนหรือการจัดซื้อ พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่กำหนดเขตชัดเจน และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษาครบทั้ง 3 องค์ประกอบ ซึ่งในกรณีเขากระโดง การรถไฟฯ ไม่สามารถนำเอกสารครบทั้งสามองค์ประกอบนี้มาแสดงต่อคณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อให้มีมติเพิกถอนเอกสารสิทธิของประชาชนได้
เอกสาร ส.ค.1 ปี 2498 นี้จึงเป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ทำให้ข้อพิพาทเรื่องสิทธิในที่ดินเขากระโดงยังคงต้องพิสูจน์กันในศาล ด้วยข้อเท็จจริงและหลักฐานครบถ้วน ไม่ใช่เพียงคำอ้างฝ่ายเดียว
ขณะที่ผ่านมาแล้วกว่า 10 วัน หลัง ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มีคำสั่งเพิกถอนสิทธิ แต่การรถไฟฯ ยังไม่ออกมาชี้แจง แม้จะอ้างรัฐเป็นเจ้าของที่ดินมาโดยตลอด
สำหรับ ส.ค.1 คือ แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน ออกตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ให้ผู้ครอบครองและทำประโยชน์ในที่ดินมาก่อน 14 ธันวาคม 2497 มาจดแจ้งสิทธิ
ส.ค. 1 ไม่ใช่โฉนดหรือกรรมสิทธิ์ แต่เป็นหลักฐานยืนยันการครอบครอง สิทธิที่ได้คือ ใช้ประกอบการขอเอกสารสิทธิในอนาคต ขณะที่ข้อจำกัดคือ สามารถเพิกถอนได้หากรัฐพิสูจน์ได้ว่าที่ดินเป็นของรัฐหรือมีสิทธิผู้อื่นมาก่อน