HSBC ประเมินเศรษฐกิจไทยหลังภาษีนำเข้าสหรัฐฯ 19% ระบุความเสี่ยงลดลง โอกาสฟื้นตัวเพิ่ม
ธนาคารเอชเอสบีซี ออกบทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยล่าสุด หลังสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการภาษีนำเข้าต่อสินค้าจากไทย โดยระบุว่า อัตราภาษีนำเข้าที่ 19% ถือว่าดีกว่าที่คาดการณ์ไว้และอยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศตลาดเกิดใหม่อื่นๆ ในอาเซียน เช่น มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
อาริส ดาคาเนย์ นักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเอชเอสบีซี กล่าวว่า ผลกระทบเชิงลบจากภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ยังคงมีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจไทย แต่ระดับความเสี่ยงลดลง เนื่องจากไทยไม่ได้ถูกตั้งภาษีในระดับที่สูงจนเสียเปรียบเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยที่ 19% ซึ่งลดลงจากการประกาศก่อนหน้าที่เคยกำหนดไว้สูงถึง 36% โดยอัตรานี้ใกล้เคียงกับที่สหรัฐฯ เก็บกับมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ขณะที่เวียดนามถูกเก็บภาษีนำเข้าเล็กน้อยที่ 20%
นอกจากนี้ ไทยยังได้เจรจายกเว้นภาษีให้กับสินค้าสหรัฐฯ ประมาณ 10,000 รายการ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน รวมทั้งจะลดอุปสรรคในการนำเข้าสินค้าสหรัฐฯ ที่นอกเหนือจากการยกเว้นภาษีนำเข้าอีกด้วย อีกทั้งสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนของไทยหรือ BOI จะอำนวยความสะดวกให้บริษัทจากสหรัฐฯ ในภาคพลังงานหมุนเวียน เซมิคอนดักเตอร์ และโลจิสติกส์เข้ามาลงทุนในไทย ตลอดจนไทยยังได้ตกลงที่จะลดการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ ลง 70% ภายในปี 2573
ทั้งนี้ เอชเอสบีซี ยังประเมินว่า ผลกระทบจากภาษีใหม่นี้จะทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยชะลอลงเหลือประมาณ 1.7% ในปีนี้ แต่ความเสี่ยงด้านลบลดลง เนื่องจากไม่มีประเทศในอาเซียนที่ได้เปรียบหรือเสียเปรียบทางภาษีเมื่อส่งออกไปสหรัฐฯ
โดยรวมแล้วความชัดเจนในมาตรการนี้ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้ประกอบการไทยที่เคยชะลอการลงทุนตั้งแต่ช่วงก่อนการประกาศภาษีนำเข้า ทำให้มีแนวโน้มที่ภาคผลิตจะเริ่มเปิดเครื่องจักรและสายการผลิตเพิ่มขึ้น ส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าสำหรับตลาดภายในประเทศ ไทยคาดว่าสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบหนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นสินค้าประเภทพลังงานและปัจจัยการผลิตที่ไทยยังไม่ผลิตเอง ขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นจำนวนมากกว่าและยังต้องเผชิญการแข่งขันจากจีนในหลายกลุ่มสินค้า
ด้านนโยบายการเงิน ธนาคารเอชเอสบีซี คาดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในการประชุมเดือนสิงหาคมนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่ ธปท. อาจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% เนื่องจากมาตรการภาษีนำเข้าที่ออกมาดีกว่าคาด ทำให้ความกังวลด้านเศรษฐกิจลดลง
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญความท้าทายเชิงโครงสร้างในระยะยาว แต่การประกาศอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ 19% ช่วยลดอุปสรรคและความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของไทยลงไปได้มาก และเปิดโอกาสให้ไทยฟื้นตัวได้ดีขึ้นในอนาคต
ภาพ: MacroEcon / Shutterstock