ปักธงปี 69 "สนข." ลุยประมูล "แลนด์บริดจ์" 9 แสนล้าน เชื่อม2ท่าเรือ
นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาสรุปผลการศึกษาโครงการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมและวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน (Business Development Model)
โครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งเพื่อพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้เพื่อเชื่อมโยงการขนส่งระหว่างอ่าวไทยและอันดามัน (โครงการแลนด์บริดจ์) นั้น
ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้ขับเคลื่อนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเพิ่มศักยภาพทางการค้าของประเทศ ตามแนวทางของรัฐบาล
นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นการเปลี่ยนผ่านประเทศจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของภูมิภาคภายใต้
ทั้งนี้จึงเป็นโอกาสที่จะได้ใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งดังกล่าวเพื่อนำมาพัฒนาเป็นเส้นทางทางเลือกในการขนส่งสินค้าทางทะเล เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและศักยภาพทางการค้าของประเทศไทย
นางมนพร กล่าวต่อว่า ความคืบหน้าร่างพระราชบัญญัติระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ พ.ศ. …. (ร่างพ.ร.บ.SEC) ซึ่งเป็นร่างกฎหมายที่ต้องดำเนินการเพื่อผลักดันโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (ชุมพร - ระนอง) หรือ แลนด์บริดจ์นั้น
ทั้งนี้กรมบัญชีกลางและกระทรวงการคลังได้มีการขอให้ทบทวนร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจากยังมีประเด็นเรื่องการตั้งกองทุนเพื่อชดเชยกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยบริษัทเอกชนจะต้องเข้ามาประมูลในรูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างอิเล็กทรอนิกส์ (E-Bidding) ด้วย
สำหรับผู้ประกอบการที่ชนะการประมูลในพื้นที่ต้องสมทบเงินเข้ากองทุน และนำเงินในกองทุนเพื่อไปใช้ในการเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
และส่งเสริมให้ชุมชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก่อนมีการพัฒนาโครงการ
อย่างไรก็ดีได้มีการประชุมหารือกับทางกระทรวงการคลังแล้วเสร็จ ตามแผนจะต้องเสนอกลับไปที่กระทรวงคมนาคมพิจารณา ก่อนเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในเดือนต.ค.นี้ และเสนอต่อสภาฯพิจารณาต่อไป
นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาสนข.ได้ทำการจัดสัมมนาสรุปผลการศึกษาโครงการแลนด์บริดจ์ทั้งหมด 3 ครั้ง
โดยมีการจัดไปแล้ว 2 ครั้งที่จังหวัดระนองเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 และที่จังหวัดชุมพรเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2568
ทั้งนี้ตามแผนหลังจากสรุปผลการศึกษาในครั้งนี้จะใช้เวลาดำเนินการแล้วเสร็จภายในปีนี้ ในระหว่างที่ร่างพ.ร.บ.SEC ผ่านการพิจารณาเห็นชอบจากสภาฯ
นายปัญญา กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันสนข.อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเพื่อประกาศประกวดราคา (ทีโออาร์) ใช้เวลาดำเนินการ 5-6 เดือน คาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนและเริ่มก่อสร้างภายในปี 69 คาดว่าจะเปิดให้บริการเฟสแรกได้ภายในปี 73
"ส่วนการปรับลดมูลค่าการลงทุนของโครงการจากเดิมที่มีมูลค่าถึง 1 ล้านล้านบาทนั้น เพื่อสอดรับกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน ทำให้บริษัทที่ปรึกษามีการปรับระยะเวลาการก่อสร้างในการลงทุนใหม่ เหลือเพียง 3 ระยะ" นายปัญญา กล่าว
ขณะเดียวกันจากการศึกษาในครั้งนี้ยังใกล้เคียงกับบริษัทที่ปรึษาต่างชาติ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำของโลกที่ได้รับการยอมรับ
ด้านการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) จะใช้รูปแบบ PPP Net Cost สัญญาสัมปทาน 50 ปี
โดยการเปิดประมูลจะให้เอกชนรายเดียวเป็นผู้รับสัมปทานในการก่อสร้าง และบริหารงานพร้อมกันทั้งโครงการในสัญญาเดียว
อย่างไรก็ดีเอกชนผู้เข้ามาลงทุนจะต้องมีประสบการณ์ในการบริหารท่าเรือ และสายการเดินเรือ เพื่อดึงสินค้าเข้ามาใช้บริการท่าเรือ และมีความพร้อมด้านเงินทุนเพื่อลงทุนในโครงการ
ขณะที่นักลงทุนไทยและนักลงทุนต่างชาติที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ เช่น บริษัท ไชน่า ฮาร์เบอร์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ,บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน),บริษัทดีพี เวิลด์ โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัททรานส์เวิลด์ จีแอสเอส (ประเทศไทย) จำกัด ,บริษัทมิตซุยแอนด์คัมปนี (ไทยแลนด์) จำกัด,บริษัทสหไทย เทอร์มินอล จำกัด (มหาชน), European Association for Business and Commerce ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีเอกชนผู้ประกอบการสายการเดินเรือที่ให้ความสนใจ เช่น บริษัท เมดิเตอร์เรเนียน ชิปปิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด,บริษัทเอชเอ็มเอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท เอเวอร์กรีน ชิปปิ้ง เอเยนซี่ (ไทยแลนด์) จำกัด,บริษัท อีสเทิร์น ซี แหลมฉบัง เทอร์มินัล จำกัด ,สมาคมเจ้าของและตัวแทนเรือกรุงเทพฯ ฯลฯ
ทั้งนี้จากผลการศึกษาของโครงการแลนด์บริดจ์พบว่า อัตราผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ (EIRR) อยู่ที่ 14.77%
อัตราผลประโยชน์ทางด้านการเงิน อยู่ที่ 4.57% ขณะที่มูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) อยู่ที่ 307,568 ล้านบาท และ อัตราส่วนผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) อยู่ที่ 1.18
สำหรับการการประมาณมูลค่าโครงการแลนด์บริดจ์ วงเงินรวม 997,680 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.การก่อสร้างท่าเรือชุมพร วงเงิน 217,753 ล้านบาท 2.การก่อสร้างท่าเรือระนอง วงเงิน 216,793 ล้านบาท
3.พื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าฝั่งชุมพร (SRTO) วงเงิน 42,755 ล้านบาท 4.พื้นที่เปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าฝั่งระนอง (SRTO) วงเงิน 40,024 ล้านบาท
5.ทางรถไฟขนาด 1.435 เมตร วงเงิน 109,282 ล้านบาท 6.ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) วงเงิน 162,191 ล้านบาท
และ 7.การพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์และพื้นที่อเนกประสงค์ 2 ฝั่งท่าเรือ วงเงิน 208,880 ล้านบาท