โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เจเนอเรชั่น 2 “ยูโร ครีเอชั่นส์” ต่อยอดธุรกิจให้เป็นมากกว่าเฟอร์นิเจอร์

PostToday

อัพเดต 10 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

บริษัท ยูโร ครีเอชั่นส์ จำกัด (มหาชน) หรือ EURO ประกอบธุรกิจการจัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านครบวงจร ครอบคลุมทั้งเฟอร์นิเจอร์ชุดครัว เฟอร์นิเจอร์สำนักงาน เฟอร์นิเจอร์นอกอาคาร ผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและแสงสว่าง สินค้าและวัสดุเพื่อการตกแต่ง ของใช้ เครื่องนอน เครื่องออกกำลังกาย และสินค้าหรืออุปกรณ์เทคโนโลยี ภายใต้ชื่อร้าน “Euro Creations” และร้านภายใต้แบรนด์อื่นๆ

ปัจจุบันเข้าสู่รุ่นที่ 2 โดยมี “เควิน กัมบีร์” ทายาทธุรกิจเข้ามาช่วยดูแลกิจการครอบครัว ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลังจาก “Euro Creations” ก่อตั้งขึ้นโดย “โกมล กัมบีร์” คุณพ่อของ “เควิน กัมบีร์” ซึ่งเป็นผู้ก่อนตั้งรุ่นแรก ตั้งแต่ปี 2539 หรือเมื่อ 29 ปีก่อน เริ่มจากเฟอร์นิเจอร์ระดับ high-end นำเข้าจากยุโรป

ย้อนหลังกลับไปก่อนหน้านั้น “โกมล กัมบีร์” ได้ทำธุรกิจของครอบครัวที่ก่อตั้งมานานกว่า 35-40 ปี ภายใต้บริษัท Crystal Symphony ที่จำหน่ายของตกแต่งบ้านคลาสสิกแบรนด์หรูระดับโลก ก่อนจะแยกมาก่อตั้ง “Euro Creations” ขณะที่ Crystal Symphony มีน้องชายของเขาบริหารอยู่ในปัจจุบัน

จากนั้นประมาณปี 2555-2556 “เควิน กัมบีร์” ได้เข้ามาช่วยกิจการครอบครัว โดยเริ่มต้นจากการสร้างทีมใหม่ๆ และขยายธุรกิจไปยังกลุ่มผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ห้องน้ำ และห้องครัว

ก่อนที่จะเข้ามาช่วยธุรกิจที่บ้าน ในช่วงปี 2554-2555 ได้มีโอกาสไปทำงานที่ดูไบกับบริษัทรับเหมาตกแต่งภายในที่ใหญ่ที่สุดในโลก หลังจากจบปริญญาตรี ด้านบริหารธุรกิจ วิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์แห่งลอนดอน

บริษัทดังกล่าวต้องการขยายธุรกิจมายังประเทศไทยและสนใจที่จะร่วมลงทุนกับครอบครัวของเขา “เควิน” จึงใช้เวลา 1 ปี ที่ดูไบเพื่อเรียนรู้ธุรกิจก่อนกลับมาเปิดบริษัทร่วมทุนในไทย แม้บริษัทร่วมทุนจะปิดตัวลงในภายหลัง แต่มีธุรกิจบางส่วนในบริษัทร่วมทุนที่ทำต่อมาบ้างภายใต้บริษัทของเราเอง ประสบการณ์ที่ได้มาจากการทำงานที่ดูไบก็เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

ผลงานที่ภาคภูมิใจในช่วงของรุ่นที่ 2 คือ การผลักดัน “Euro Creations” เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อวันที่ 14 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา เป็นการเปลี่ยนจากธุรกิจครอบครัวสู่บริษัทมหาชน

เขาเผยว่า 3 ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Euro Creations ประสบความสำเร็จ คือ

แบรนด์ที่แข็งแกร่ง : Euro Creations ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกแบรนด์ระดับโลก โดยในปัจจุบันมีแบรนด์ในพอร์ตโฟลิโอมากกว่า 30 แบรนด์ ครอบคลุมสินค้าตกแต่งบ้านและไลฟ์สไตล์ เช่น ระบบ Smart Home, Lighting Control, ห้องน้ำ, ห้องครัว, เฟอร์นิเจอร์, พรม, และเครื่องเสียง

โชว์รูมที่น่าประทับใจ : โชว์รูมเปรียบเสมือนสิ่งที่พูดแทนแบรนด์ การสร้างโชว์รูมที่สวยงามจะช่วยสร้างความรู้สึกและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเห็นภาพว่าบ้านของพวกเขาจะออกมาเป็นอย่างไร

บุคลากรที่มีศักยภาพ : สินค้าไฮเอนด์เหล่านี้ไม่ได้ขายตัวมันเอง แต่ต้องอาศัยคนที่มีความเชี่ยวชาญในการให้ข้อมูลและคำแนะนำที่ถูกต้องแก่ลูกค้า ธุรกิจจึงต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรอย่างต่อเนื่อง

เขายังแชร์มุมมองในการเข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว มีความท้าทาย แต่ก็มีความสนุก ซึ่งความท้าทายที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน คือ เศรษฐกิจไทยที่เติบโตช้า รวมไปถึงการเปลี่ยนแปลงของโลกที่รวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่ AI เข้ามามีบทบาทสำคัญ องค์กรต้องเป็น AI-first Organization โดยการปรับตัวและใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน

“เชื่อว่า 3-5 ปี จะมีองค์กรล้มหายไปจำนวนมาก ทั้งที่ปรับตัวไม่ได้ และไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก AI หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ และสิ่งสำคัญที่สุด คือ การสร้างทัศนคติให้บุคลากรทุกคนในองค์กรพร้อมที่จะเรียนรู้และยอมรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

สำหรับปี 2568 Euro Creations ตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้และกำไรให้เป็นตัวเลขสองหลัก โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท คือ กลุ่มคน 1% ของไทย ที่ถือครอง Wealth 50% ของประเทศ ซึ่งถูกกระทบน้อยจากภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทั้งนี้ ภาพรวมรายได้จะมาจากลูกค้าทั่วไป (B2C) สัดส่วน 60% และลูกค้าองค์กร (B2B) สัดส่วน 40%

ปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตมาจากการลงทุนในการเปิดสาขาใหม่ โดยปัจจุบันมีโชว์รูมกว่า 10 แห่ง หลังจากล่าสุดได้เปิดตัว Molteni &C Bangkok Flagship สาขาใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย พื้นที่กว่า 1,100 ตารางเมตร พร้อมเปิดโชว์รูม Bang & Olufsen ที่ศูนย์การค้า Central Embassy นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเปิดโชว์รูมขนาดใหญ่ที่สุดในย่านทองหล่อ พื้นที่กว่า 4,000-5,000 ตารางเมตร ในปี 2569

รวมไปถึงการเพิ่มแบรนด์ระดับโลกเข้าสู่พอร์ตโฟลิโออย่างต่อเนื่อง จากปัจจุบันมีมากกว่า 30 แบรนด์ โดยมี 10 แบรนด์หลักที่สร้างยอดขายได้ถึง 70% ของรายได้ทั้งหมด ได้แก่ Gessi, Molteni&C, Cassina, Poltrona Frau, Giorgetti, Natuzzi Italia, Frette, Technogym, Bang & Olufsen และ Haworth

ขณะเดียวกัน ในระยะ 3-5 ปีข้างหน้า ภารกิจสำคัญของบริษัท คือ การใช้ประโยชน์จากสาขาและแบรนด์ใหม่ๆ ที่ได้ลงทุนไปให้เกิดผลผลิตสูงสุด เพื่อขับเคลื่อนรายได้และกำไรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และรักษาความเป็นผู้นำสินค้าตกแต่งบ้านและไลฟ์สไตล์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก PostToday

ถ่ายทอดสด วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 ไทย พบ สวีเดน วันนี้

12 นาทีที่แล้ว

ถ่ายทอดสด บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พบ อุทัยธานี ไทยลีก วันนี้ 24 ส.ค.68

15 นาทีที่แล้ว

ถ่ายทอดสด สุโขทัย เอฟซี พบ การท่าเรือ เอฟซี ไทยลีก วันนี้ 24 ส.ค.68

18 นาทีที่แล้ว

กต.ฟ้องโลกกัมพูชาละเมิดหยุดยิง–ออตตาวา ส่งหลักฐาน IOT

25 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

เตือนยุคเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล-AI ทำมนุษย์เงินเดือนวัยกลางคนตกงานพุ่ง เพิ่มเหลื่อมล้ำทางศก.-แรงงาน

MATICHON ONLINE

โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ อัพสเกลสู่ “Smart Hospital” ตั้งเป้ารายได้โตเท่าตัวใน 3 ปี

การเงินธนาคาร

'เกษียณ45ปี'ธุรกิจปรับตัวยุคAI สัญญาณตกงานมนุษย์เงินเดือนวัยกลางคน

Khaosod

ธอส. ประสบความสำเร็จ GO LIVE GHB SYSTEM อัปเกรดระบบบริการลูกค้า

การเงินธนาคาร

เด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ลงทะเบียนรถไฟฟ้า 20 บาท ต้องยืนยันตัวตนที่ไหน

sanook.com

“GULF” จับมือ “AIS ” ส่งมอบแลนด์มาร์กใหม่สวนเบญจกิติ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนเมือง

เดลินิวส์

ราคา"ข้าว-ทุเรียน-มันสำปะหลัง" ทรุดหนักกว่า 30% หลังผลผลิตพุ่ง ตลาดโลกเมิน

Khaosod

ผ่านฉลุย ธอส.ประสบความสำเร็จ เปิดระบบ GO LIVE GHB System ยกระดับบริการลูกค้า

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...