‘ศรีสุวรรณ’ ร้องสอบ ‘สุริยะ’ นำ ‘แพทองธาร’ ถวายสัตย์ฯ หลังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เพื่อขอให้ไต่สวนสอบสวน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รมว.วัฒนธรรม กรณีการนำบุคคลซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่เข้าเฝ้าถวายสัตย์อันมิบังควรเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ทั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีที่ประธานวุฒิสภาเสนอคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี(ในขณะนั้น)สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ 5๕) และขอให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย กรณีมีคลิปโทรศัพท์ไปสนทนากับนายฮุนเซนเป็นการส่วนตัวอันกระทบกระเทือนต่ออำนาจอธิปไตยของชาติ ถือได้ว่าไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์รับเรื่องไว้พิจารณาและสั่งให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.68 แม้จะมีพระราชโองการโปรดเกล้าแต่งตั้งให้ น.ส.แพทองธาร เป็นรัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมอีกตำแหน่งหนึ่งในวันเดียวกันก็ตาม
แต่เนื่องจากเรื่องของจริยธรรมนั้น ย่อมมีศักดิ์สูงกว่ามาตรฐานกฎหมาย เมื่อตนมีข้อกล่าวหาว่าไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ขาดไร้จริยธรรม สมคบผู้นำต่างชาติ ถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ น.ส.แพทองธาร ควรที่จะชะลอไม่เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นพิธีการที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีต่อประมุขของชาติ ควรรอจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยไม่เป็นไปตามคำร้อง แล้วจึงเข้าถวายสัตย์ปฏิญาณในภายหลังก็จะถูกต้องเหมาะสม แสดงจิตสำนึกของผู้นำ และเป็นวัฒนธรรมที่ดีของกระทรวงวัฒนธรรมไทย
แต่ทว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รักษาการนายกรัฐฒนตรี (ในขณะนั้น) กลับนำ น.ส.แพทองธาร และคณะรัฐนนตรีคนอื่นๆเข้าเฝ้าถวายสัตย์เมื่อเที่ยงวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา จึงเป็นการกระทำที่มิบังควร อันอาจเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และยังไม่แยแสต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของสังคม ยังกลับมาปฏิบัติหน้าที่โดยเข้าร่วมประชุมคณะรัฐมนตรีในวาระพิเศษเมื่อบ่ายวันเดียวกัน และเข้าปฏิบัติหน้าที่ในกระทรวงวัฒนธรรมในเช้าวันนี้อันถือเป็นความผิดสำเร็จแล้ว
พฤติการณ์และการกระทำของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้งสองดังกล่าว เป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องไต่สวนสอบสวนและส่งให้ศาลฎีกาวินิจฉัยลงโทษตามครรลองของกฎหมายองค์กรรักชาติ รักแผ่นดินจึงนำความมาร้องเรียนในวันนี้ นายศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด.