‘คลัง’ จ่อชงปรับเงื่อนไขจ่ายชดเชยอีวี ผุดเกณฑ์บี้ส่งแผนผลิตรายเดือน ยันอุตฯยังสดใส
จ่อชง 'บอร์ดอีวี' ติดดาบสรรพสามิตเบรกจ่ายเงินชดเชยค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำผิดเงื่อนไข พร้อมผุดเกณฑ์เข้มสั่งทำแผนผลิตชดเชยรายเดือน แจงเบรกจ่ายชดเชย 'เนต้า (ประเทศไทย)' แล้ว เดินเครื่องพิจารณากระบวนการเรียกร้องค่าปรับ ยันยังไม่เห็นสัญญาณค่ายรถอีวีอื่นทำผิดเงื่อนไข
14 ก.ค. 2568 - นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.การคลัง เปิดเผยว่า เร็ว ๆ นี้ เตรียมจะเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายยานยนต์แห่งชาติ (บอร์ดอีวี) พิจารณาการปรับเงื่อนไขในมาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรก (อีวี3.0) และระยะที่สอง (อีวี3.5) โดยเฉพาะการเพิ่มอำนาจให้กรมสรรพสามิตสามารถระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการได้ทันทีในกรณีที่ค่ายรถยนต์ หรือบริษัทมีปัญหาไม่สามารถดำเนินการได้ตามเงื่อนไขของมาตรการสนับสนุน เช่น การผลิตรถอีวีชดเชยไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
ทั้งนี้ เบื้องต้นจะมีการเพิ่มเงื่อนไขเพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณาระงับการจ่ายเงินชดเชยให้กับค่ายรถยนต์ไฟฟ้าที่เข้าร่วมโครงการ โดยค่ายรถต่าง ๆ จะต้องทำแผนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อชดเชยส่งให้กรมสรรพสามิตทุก ๆ เดือน ซึ่งจะมีการตั้งเกณฑ์การผลิตในแต่ละเดือนไว้ที่ 30% ของแผนการผลิตที่ส่งมา และหากผลิตได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 1 เดือน จะโดนใบเหลือง แต่หากเดือนต่อไปยังผลิตได้ต่ำกว่า 30% ของแผนการผลิตที่ส่งมา ค่ายรถยนต์ไฟฟ้าดังกล่าวก็จะโดนใบแดง โดยกรมสรรพสามิตก็จะมีอำนาจในการระงับการจ่ายเงินชดเชยได้ทันที
“ค่ายรถจะต้องทำแผนทุกเดือน ถ้าเดือนใดเดือนหนึ่งผลิตได้ไม่ถึง 30% ของแผน จะโดนใบเหลือง และถ้าเดือนต่อไปก็ยังทำไม่ถึง 30% ของแผนอีก จะโดนใบแดง และกรมสรรพสามิตก็จะระงับการจ่ายเงินชดเชยได้ทันที โดยแผนที่ค่ายรถส่งมานี้ ก็จะมีกรอบใหญ่ซึ่งเป็นแผนการผลิต 1 ปีครอบอยู่อีกทีว่าในแต่ละปีค่ายรถจะต้องผลิตชดเชยเท่าไหร่ ตรงนี้จะเป็น 2 กรอบที่เข้ามาเพิ่มเติม ตรงนี้เป็นการเพิ่มให้กรมสรรพสามิตมีคัทเอาท์ หรือกระบองสำหรับจัดการค่ายรถที่ทำผิดเงื่อนไข โดยหลังจากบอร์ดอีวีเห็นชอบแล้ว หลังจากนั้นก็จะต้องส่งให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป” นายเผ่าภูมิ กล่าว
อย่างไรก็ดี กระทรวงการคลังได้ให้ความสำคัญกับการปรับโครงสร้างภาษีรถยนต์ เพื่อสนับสนุนรถยนต์ประเภท PHEV, HEV และ ICE ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการมากขึ้น เพราะอีกโจทย์ที่สำคัญของรัฐบาล คือ การทำให้อุตสาหกรรมรถยนต์ประเภท PHEV, HEV และ ICE ยังสามารถดำรงอยู่ได้นานที่สุด เนื่องจากซัพพลายเชนในอุตสาหกรรมรถยนต์ประเภทดังกล่าวค่อนข้างยาว และอาจจะยาวกว่ารถยนต์อีวีด้วยซ้ำ ซึ่งเป็นการดำเนินการนอกเหนือจากการผลักดันอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
โดยแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น สะท้อนจากยอดขายและยอดการผลิตรถยนต์ในเดือน มิ.ย. 2568 ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เริ่มเห็นยอดการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าความใกล้เคียงของการเร่งผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตอุตสาหกรรมรถยนต์เริ่มเกิดขึ้น ส่วนหนึ่งก็เป็นผลจากนโยบายของรัฐบาลในการดึงเรื่องการผลิตรถยนต์ไฟฟ้ามาในไทย
“เรามีการดูเรื่องโครงสร้างอัตราภาษีรถยนต์ค่อนข้างเยอะ แต่การจะโยนทุกอย่างไปที่อุตสาหกรรมอีวีเลย ซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่โยนเร็วเกินไป ตรงนี้จะเป็นอันตราย ดังนั้นที่ผ่านมาจะเห็นว่ารัฐบาลมีการปรับตัวภาษีต่าง ๆ เพื่อทำให้รถยนต์ประเภท PHEV, HEC และ ICE ยังยืนยระยะอยู่ได้ ไม่ได้บอกว่าเป็นการปรับลดอัตราภาษี แต่เป็นการสร้างแรงจูงใจให้มากขึ้น”
ส่วนกรณีบริษัท เนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ที่ขณะนี้ยังไม่สามารถผลิตรถอีวีชดเชยได้ตามเงื่อนไขนั้น รมช.การคลัง ระบุว่า ตอนนี้กรมสรรพสามิตได้ระงับการจ่ายเงินชดเชยเรียบร้อยแล้ว และขั้นตอนต่อไป คือการพิจารณากระบวนการเรียกร้องค่าปรับจากค่ายรถยนต์ดังกล่าว โดยเบื้องต้นค่าปรับจะคิดบนฐานภาษีสรรพสามิตที่ค่ายรถได้ประโยชน์ไปทั้งหมด
สำหรับวิธีการคำรวณค่าปรับกรณีผิดเงื่อนไขมาตรการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของรัฐ กรณีครบกำหนดผลิตชดเชยวันที่ 31 ธ.ค. 2568 คือ ยึด Bank Guarantee ที่ บริษัทฯ นำมาวางไว้, ยึดเงินอุดหนุน 150,000 บาทต่อคัน พร้อมดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี และค่ายรถจะต้องจ่ายคืนภาษีสรรพสามิตที่ได้รับยกเว้น ประมาณ 6% บวกเบี้ยปรับ 2 เท่าของภาษีสรรพสามิต บวกกับเงินเพิ่ม 1.5% ต่อเดือน และค่าปรับอีก 1 เท่า
“มาตรการสนับสนุนจะสิ้นสุดจริงในวันที่ 31 ธ.ค. 2568 ซึ่งถ้าตรงไปตรงมาเลยก็ต้องดูว่าในวันดังกล่าว ค่ายรถยังผลิตชดเชยขาดไปเท่าไหร่ ก็ต้องปรับไปตามเกณฑ์ ตอนนี้สรรพสามิตกำลังดูอยู่ เพราะเราไม่เห็นการผลิตแล้ว การจะไปรอจนถึงวันสิ้นสุดมาตรการก็อาจจะช้าไป เราก็ควรจะทำให้เร็วกว่านั้น โดยอยู่บนกระบวนการทางกฎหมายว่าเมื่อเราเห็นว่าไม่มีการผลิตแล้ว ถึงแม้ว่ายังไม่ถึงเดตไลน์ก็ตาม เราจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างไรได้บ้าง แต่เบื้องต้นตอนนี้ คือ ระงับการจ่ายชดเชยเรียบร้อยแล้ว โดยการเรียกค่าปรับนี้ จะต้องดำเนินการกับบริษัทที่เซ็นเข้าร่วมมาตรการกับสรรพสามิต คือ บริษัท เนต้า (ประเทศไทย) จำกัด” นายเผ่าภูมิ กล่าว
อย่างไรก็ดี ยืนยันว่าปัจจุบันยังไม่มีสัญญาณ หรือแนวโน้มว่าค่ายรถยนต์อีวีรายอื่น ๆ จะมีการผิดเงื่อนไขตามมาตรการสนับสนุน โดยภาพรวมอุตสาหกรรมอีวีในประเทศไทยยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี